เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
เรื่องเล่า ตัวตน คนอื่นอ่าน-คิด-เขียน
โพสต์นี้มีเนื้อหาที่อาจไม่เหมาะสมกับเยาวชน 6 สุขสม - ทรงจำ
  • แผลงศร

    นิสิตอักษรศาสตร์ชั้นปีที่ 3  เอกภาษาไทย โทภาษาอังกฤษ
    ผลงานลำดับที่ 6 ในคอลัมน์ "เรื่องเล่า ตัวตน คนอื่น"  อ่านที่มาของคอลัมน์ได้ที่  http://minimore.com/b/F5RyR/1
    เรื่องสั้นเรื่องนี้มีเนื้อหาเกี่ยวกับเพศ ชายรักชาย คำหยาบคาย และความเศร้า

    ยามนี้เงียบนัก... ทั้งที่ไม่นานก่อนหน้า เสียงแห่งความสุขยังครอบครองที่นี่อยู่แทบทุกอณู...

              เป็นธรรมดาของเด็กมหา'ลัยในวันสอบวันสุดท้ายที่จะต้องสังสรรค์กัน ณ ที่ใดที่หนึ่ง และบ้านของต้นก็ถูกเลือกให้เป็นที่ที่ว่านั้น ด้วยเหตุผลง่ายๆ สองข้อ คือหนึ่ง บ้านมันเป็นจุดศูนย์กลางของบ้านเพื่อนในกลุ่มพอดี และสอง ตอนนี้พ่อแม่ของต้นอยู่ต่างจังหวัด จึงเป็นโอกาสที่พวกเราจะดื่มและสนุกกันเต็มที่โดยไม่มีพวกผู้ใหญ่มาคอยวุ่นวาย พวกเราหัวเราะกันสุดเสียง เต้นกันสุดเหวี่ยงด้วยท่วงท่าเกะกะระราน ไอ้ต้ากับไอ้กายกระดกเหล้าเหมือนเป็นน้ำเปล่า สุดท้ายต้องลำบากไอ้ดิวกับไอ้เม้งให้ขับรถไปส่งที่บ้าน ...แล้วทุกคนก็กลับกันไปหมด

    ..........


              ผมนอนบ้านต้น... ไม่ใช่เพราะเมา เหล้าที่ดื่มเข้าไปอย่างมากก็ทำให้หน้าร้อนๆ แต่เพราะกว่าจะเก็บกวาดอะไรเสร็จก็เล่นเอาหมดแรง 

              "ดึกแล้ว มึงนอนนี่แหละ" ต้นพูดชวนเสียงกรึ่มๆ และแม้ใจผมจะบอกว่าไม่ควร แต่ปากกลับตอบรับไป เพราะอย่างนั้น คืนนี้ของผมจึงมาสิ้นสุดลงที่เตียงนุ่มในห้องนอนของเพื่อนชายผู้หล่อฉกรรจ์ ใต้ผ้าห่มสีขาวอบอุ่น ข้างกายของผม ร่างกำยำนอนนิ่ง ไม่ได้รับรู้เลยว่าใครบางคนกำลังรุ่มร้อนนอนไม่หลับ

              ผมแอบชอบต้นมาตั้งแต่ปีหนึ่ง มันเป็นความรู้สึกที่อยู่ๆ ก็วาบเข้ามา แต่กลับยังชัดอยู่จนถึงตอนนี้ ตั้งแต่วันหนึ่งที่ได้เห็นมันวิ่งฝ่าฝนกลางสนามฟุตบอล ภาพเสื้อนักศึกษาสีขาวที่สนิทแนบไปกับเรือนกาย ยอดอกสีเข้มและหน้าท้องอันสมบูรณ์ด้วยลอนกล้าม ผมจำได้กระทั่งไรขนที่พ้นขึ้นมาจากขอบกางเกง ภาพพวกนี้คอยกวนใจผมมาเสมอ และบางครั้งก็อดไม่ได้ที่จะจินตนาการไปจนไกลลิบ

              ผมต้องสะกดกลั้นความรู้สึกของตัวเองไว้ เพราะทั้งต้นและเพื่อนคนอื่นในกลุ่ม ไม่มีใครที่เป็นแบบผม ผมเป็นเกย์ มันรู้ เพื่อนในกลุ่มคนอื่นก็รู้ แต่เพราะผมไม่เคยไปยุ่มย่ามกับใคร และพวกมันเองก็ไม่ได้มองว่ารสนิยมของผมเป็นเรื่องน่าล้อเลียน พวกเราจึงยังเป็นเพื่อนกันได้ นี่ถ้าต้นรู้ว่าผมคิดอย่างไรกับมัน กับร่างกายของมัน ผมคงไม่มีโอกาสได้มานอนใกล้มันขนาดนี้ ตอนนี้ผมถึงต้องพยายามอย่างที่สุดที่จะไม่ทำอะไรโง่ๆ เตือนตัวเองให้คิดกลัวผลที่จะตามมา

              "โอย... ร้อน" อยู่ๆ ต้นก็พึมพำขึ้นในลำคอ ท่าทางเหมือนคนเมาไม่ได้สติ แต่ถึงจะบอกอย่างนั้น มันกลับยิ่งค่อยกระเถิบเข้ามาใกล้ ใกล้จนผมรู้สึกถึงจังหวะการเต้นของหัวใจของมัน ...หรือของผม... ผมไม่รู้ เพราะแค่นี้ความคิดของผมก็เตลิดไปจนแทบไม่อาจรวบรวมไว้ได้ มันเบียดใกล้เข้า จนไหล่ของเราแนบชิด ขามันก่ายพาดตัวผมไป อุณหภูมิของต้นที่สูงกว่าปกติเพราะฤทธิ์สุราแผ่ผ่านมาแผดเผาสำนึกของผมจนแทบสิ้น สัมผัสของผมฟุ้งซ่านจนเผลอรู้สึกไปว่าความแข็งแรงแห่งวัยหนุ่มของมันอยู่ใกล้เพียงฝ่ามือ จนเมื่อลมหายใจแผ่วร้อนของมันรวยรินอยู่ข้างหูผม พร้อมกับเสียงที่เครืออยู่ในลำคอว่า 

              "กานต์ กูร้อน" ดังขึ้นนั่นแหละ ทุกอย่างที่ผมกลัวจึงได้เริ่มต้น

    ..........

              ทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วมาก ผมกับกานต์ไม่แม้แต่จะทันถอดเสื้อออกด้วยซ้ำ ตอนที่ทุกอย่างดำเนินไป ผมหน้ามืดตามัว รู้สึกเหมือนตัวเองเป็นพายุ โหมซัดและกวาดกลืนทุกความสุขที่อยู่เบื้องล่าง แต่เมื่อแรงลมสงบลง ความรู้สึกอื่นๆ ก็เริ่มมีรูปร่างขึ้นมา ความรู้สึกตัวว่าพลาดปรากฏขึ้นเป็นอย่างแรก แม่งเอ๊ย! ทำลงไปได้ไงวะ นั่นเพื่อนนะเว้ย ไม่ใช่สิ... นั่นมันผู้ชายนะเว้ย ต้องเป็นเพราะเหล้าแน่ๆ ไม่มีทางที่ผมจะพูดหรือทำในสิ่งที่ผมเพิ่งพูดและทำไปเมื่อครู่หากสัมปชัญญะของผมยังอยู่ครบ จากนั้นความรู้สึกสับสนจึงปรากฏขึ้นตามมา นี่ผมเป็นอะไร ผมกำลังจะเป็นอะไร

              หรือเป็นเพราะรูปร่างของกานต์ มันเป็นคนหน้าหวาน ผิวของมันเนียนละเอียด ไม่หรอก ไม่น่าใช่ น่าจะเป็นเพราะความตื่นเต้นท้าทายในตอนที่จะได้ลองมากกว่า เหมือนเวลาที่เราจะทำอะไรบางอย่างทั้งที่รู้ว่าผิด ตอนนั้นใจผมเต้นเหมือนกลองรัว เลือดฉีดพล่าน สติเลือนราง เหลือชัดเพียงสัญชาตญาณเท่านั้น ...โอ๊ย! ช่างมัน... จะเพราะอะไรก็ช่าง ผมไม่จำเป็นต้องรู้สึกอะไรกับสิ่งที่เกิดขึ้น กานต์มันต้องการของมันเอง คิดหรือว่าผมไม่รู้ว่ามันลอบมองผมบ่อยแค่ไหน คิดหรือว่าผมไม่รู้ว่ามันคิดอะไร สายตาของมันบอกทั้งหมดนั่นแหละ มันเสนอ ผมสนอง ก็แค่นั้น ผมไม่ได้เป็นแบบมัน ไม่มีทาง... 

              ผมควรจะลุกหนีหรือไม่ก็ไล่มันกลับบ้าน แต่ถ้าทำอย่างนั้นก็เท่ากับว่าผมรังเกียจ ...ผมรังเกียจ... ผมไม่อยากให้มันรู้สึกไม่ดี ถึงอย่างไรมันก็เป็นเพื่อน แต่ถ้าปล่อยไว้แบบนี้แล้วกานต์มันคิดว่าผมชอบมันจะทำอย่างไร โถ่เว้ย!!! เอาไงดีวะ! ...ช่างแม่ง... คิดไม่ได้ก็ไม่ต้องคิด ใช่... ผมจะหลับไปจนถึงพรุ่งนี้เช้า มันเมา ผมก็เมา ไม่แน่ว่าเมื่อตื่นขึ้นและเหล้าสงบฤทธิ์ลง ทั้งมันและผมอาจไม่มีใครจำเรื่องบ้าๆ ที่เกิดขึ้นในคืนนี้ได้เลยก็ได้ บางทีเราอาจจะคิดเสียว่ามันเป็นฝันร้าย

    ใช่แล้ว... เรื่องนี้มันเป็นแค่ฝันร้าย

    ..........

    ยามนี้เงียบนัก... ทั้งที่ไม่นานก่อนหน้า เสียงแห่งความสุขยังครอบครองที่นี่อยู่แทบทุกอณู...

              ต้นหลับไปสักพักแล้ว แต่ผมกลับไม่อาจข่มตานอนได้ สิ่งที่เกิดขึ้นนั้นดีเกินกว่าจะเป็นเรื่องจริง ดีเสียจนผมกลัวว่าหากหลับตาลงและตื่นขึ้นมาในวันพรุ่งนี้ ความรู้สึกและสัมผัสที่ผมได้รับจะกลายเป็นเพียงแค่ฝัน ผมกลัวว่าทั้งหมดจะเป็นสิ่งที่ผมเพ้อละเมอไปเองคนเดียว ผมไม่อยากให้ถึงพรุ่งนี้เช้า อยากนอนกอดต้นอยู่อย่างนี้ ผมแทรกตัวเข้าไปในอ้อมแขนของต้น คนที่ผมคิดว่าจะสามารถเรียกว่าแฟนได้อย่างเต็มปาก หวังให้ต้นกระชับผมเข้าหาตัวอีกสักครั้ง แต่ ...นิ่ง... ไม่มีท่าทีตอบรับจากอีกฝ่าย คงเพลียมากจริงๆ นั่นแหละ ช่างเถอะ คืนนี้ผมจะไม่หลับ จะดื่มด่ำทุกความสุขที่เอ่อล้น และพรุ่งนี้เช้า ผมจะเป็นรอยยิ้มแรกที่ต้นเห็น

    ใช่แล้ว... มันเกิดขึ้นจริงๆ ผมไม่ได้ฝันไป


    กว่าจะเป็น... สุขสม - ทรงจำ

              เรื่องสั้น (มาก) เรื่องนี้เป็นงานที่เขียนขึ้นภายใต้หัวข้อ "กลัว"

              ผู้อ่านคงสงสัยว่าเรื่องของชายหนุ่มสองคนในค่ำคืนเปลี่ยวเหงานี้มันสื่อถึงความกลัวตรงไหน ต้องขอตอบ (อ่านได้ว่า แถ) ว่า คนเรากลัวอะไรไม่เหมือนกัน บางคนกลัวแมลงสาบ บางคนกลัวงู บางคนกลัวมะเขือเทศ และสำหรับเรา เรากลัวการคิดไปเอง กลัวการดีใจเก้อ เพราะสุดท้ายแล้วมันทำให้หัวใจของเราเจ็บแปลบ เราเลยเลือกถ่ายถอดความกลัวของเราผ่านตัวละคร กานต์ อย่างที่เห็น

              ที่จริงร่าง (Draft) แรกที่เราเขียน ต้นเป็นคนที่ชัดเจนในความรู้สึก เป็นสุภาพบุรุษ และแสนดี แต่เพื่อนหลายคนเห็นภาพของเรา (เราใช้อีกภาพหนึ่ง เป็นภาพของชายหนุ่มสองคนที่นอนซบกันอยู่บนเตียง) แล้วบอกว่า บางทีต้นอาจจะไม่สนิทใจที่จะรักกานต์ก็ได้ ทำให้เราคิดว่าที่ผ่านมาเราเล่าเรื่องโดยใช้ความรู้สึกของกานต์มาโดยตลอด และเรื่องที่ออกมามันก็หวาน เราเลยลองเพิ่มมุมมองของต้นลงไป ซึ่งพอได้อ่านความคิดของต้นแล้ว ความกลัวของเราที่ถ่ายทอดผ่านกานต์ มันชัดเจนขึ้น

    - หวังว่าทุกคนจะชอบกัน -


    ขอบคุณภาพจาก www.pexels.com
    ภาพของคุณ Huy ProShoot (ภาพปก)
    ภาพของคุณ Kristin Vogt (ผ้าห่มสีขาว)
    **ลิขสิทธิ์งานเขียนและภาพถ่ายเป็นของผู้สร้างผลงาน**

    --------------------------

    ติดตามคอลัมน์ "เรื่องเล่า ตัวตน คนอื่น"

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in