รู้จัก Gabrielle Aplin กันรึเปล่า ถ้ายังไม่รู้จัก ก็ขอแนะนำเธอให้รู้จักกันหน่อย
ABOUT GABRIELLE APLIN
Gabrielle Ann Aplin นักร้องนักแต่งเพลง สัญชาติอังกฤษ เกิด 10 ตุลาคม 1992 สังกัดค่าย Parlophone ตั้ง Never Fade Records ขึ้นมาโดยที่มาของชื่อมาจากเพลงแรกของเธอ ตอนอายุ 17 ปี ได้กีตาร์ตัวแรกตอนอายุ 11 ปี จาก Argos ก่อนที่จะทำเพลงของตัวเองจริงจังก็ cover เพลงลง YouTube อยู่เยอะเหมือนกัน ปล่อย 3 EP ก่อนที่จะปล่อยอัลบั้ม English Rain ออกมา นักร้องอินดี้โฟล์คกับสำเนียง West Country Accent มาจาก Sutton Benger ที่อยู่ห่างจาก Bath ไป 20 ไมล์ พ่อชื่อ Chris Aplin แม่ชื่อ Lisa Aplin พี่สาวชื่อ Annabelle Aplin หลานชายชื่อ Brooke Aplin ตอนเด็ก ๆ เรียนที่โรงเรียนรัฐ เธอไม่ค่อยมีเพื่อนมากเท่าไหร่ มาเรียนต่อที่ BTEC ที่ Bristol City College ในสาขา Popular Music เธอไม่ชอบไนท์คลับ เธอเลยย้ายมาอีกฟากนึงของลอนดอนที่ค่อนข้างคล้ายกับ Bath นั่นคือ Brighton เธอรักโฆษณาของ John Lewis มาก (และเพลง The Power Of Love ในเวอร์ชั่นที่เธอ cover เอาไว้ ก็ถูก John Lewis เลือกมาใช้ประกอบโฆษณาคริสต์มาสในปี 2012 คลิ๊ก ) นักร้องคนโปรด Joni Mitchell, Nick Drake, Bruce Springteen, Crosby, Stills & Nash, Leonard Cohen, Bob Dylan, Karen Carpenter, Fleetwood Mac, Feist, The Beatles, Simon & Garfunkel, John Martyn, Coldplay, The National, The 1975, etc เพลงของ The Beatles ที่เป็นเพลงโปรด A Day in The Life , OBLADI-OBLADA เธอมีความสนใจใน English literature และมี T. S. Eliot เป็นนักเขียนคนโปรด . ได้ Tom Crouch (guitar and piano), Josh Deal (drums) and David Guest (bass) มาร่วมเล่นเวลาขึ้นคอนเสิร์ต หรือแสดงสดต่าง ๆ ในช่วงที่ไปทัวร์ English Rain เลี้ยงหมาชื่อ Zippo ตอนนี้มีลูกหมาอีกสองตัวชื่อ Rhonda และ Morpheus เฟอร์เร็ตชื่อ Ferris เพลงแรกที่เขียนคือเพลง Talk To The Hand ตอนอายุ 8 ปี เขียนเพลง Ghost ตอนอายุ 14 ปี เขียนเพลง Panic Cord ตอนอายุ 15 ปี เคยขึ้นคอนเสิร์ตร่วมกับ Ed Sheeran , Kodaline , Ellie Goulding , Ben Howard etc. แฟชั่นยุคโปรดของเธอคือ ปารีสช่วงปี 60 กับ 70 เธอชอบการแต่งตัวของ Francoise Hardy มาก (เรียกได้ว่าเธอรักมากเลยล่ะ) เธอเคยให้สัมภาษณ์กับ GFHQ ว่า Nick Drake เป็นแรกบันดาลใจให้เธอ หนังที่เธอชอบคือ Driving Lessons และ Catch Me If You Can เวลาเธอเขียนเพลง เธอมักจะเขียนทั้งเนื้อเพลงและทำนองไปพร้อม ๆ กัน ที่ independent ให้เธอเป็น English Taylor Swift ในอัลบั้ม Light Up The Dark ได้ Sasha Skarbek (ที่เคยเขียนเพลง Wrecking Ball และ You’re Beautiful) มาเขียนเพลง Shallow Love ร่วมกับเธอ . อัลบั้มนี้เธอได้แรงบันดาลใจมาจาก สี กลิ่น ความทรงจำ สถานที่ ผู้คนที่เจอ เรื่องราวที่ได้ฟัง รูปวาด ฯลฯ . ในสมาชิก One Direction เธอชอบ Louis ที่สุด .
โปรดิวเซอร์ในอัลบั้มนี้คือ Mike Spencer
แนวเพลงในอัลบั้ม English Rain เป็นแนว Folk, Pop
สำหรับเรา English Rain เป็นอัลบั้มที่ค่อนข้างจะสายลม แสงแดด และทะเล เอามาก ๆ บางเพลงเป็นเพลงบอกเลิกก็มี แต่ใช้ทำนองที่น่ารัก ฟังเพลิน
ในอัลบั้มนี้ เพลงของเธอส่วนมากจะใช้กีตาร์อะคูสติกตัวโปรดของเธอ กับเสียงเปียโน รวมถึงเสียงเครื่องสายอย่างไวโอลินเข้ามาช่วยเพิ่มความหวานให้กับเพลง หนักพวกกลองในบางเพลง (หนักกลองที่ว่าคือหนักกว่าเพลงอื่น ๆ ในอัลบั้ม ไม่ใช่หนักอย่างเพลงร็อคนะ)
โดยเพลงแรกที่ปล่อยออกมานั้นคือเพลง The Power of Love
VIDEO
คนเขียนเพลงนี้คือ Peter Gill, Holly Johnson และ Mark O'Toole
เพลงนี้เป็นเพลงที่ cover มาจาก The Power of Love ในเวอร์ชั่นของ Frankie Goes To Hollywood (1984)
เพลง The Power of Love ของ Gabrielle Aplin ปล่อยออกมาเมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน 2012 อยู่ใน UK Singles Chart อันดับที่ 36 และขึ้นอันดับ 1 ในวันที่ 9 ธันวาคม 2012 และทำยอดขายในระดับแผ่นเสียงทองคำได้ในวันที่ 11 มกราคม 2013 อีกด้วย
เพลงต่อมาก็คือเพลง Please Don't Say You Love Me ที่ได้ Iain de Caestecker มาเป็นพระเอกเอ็มวีด้วย
VIDEO
เพลงนี้ปล่อยเมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2013 และเพลงนี้เป็นเพลงแรกของเธอภายใต้ค่าย Parlophone ขึ้นสู่ UK Singles Chart ในอันดับที่ 6 เมื่อสิ้นสัปดาห์แรก (16 กุมภาพันธ์ 2013)
"Just please don't say you love me
'Cause I might not say it back
Doesn't mean my heart stops skipping when you look at me like that"
เธอเขียนขึ้นมาจากเรื่องราวของเพื่อนของเธอ และเขียนขึ้นหลังจากที่ดู 500 days of summer จบ
เพลงนี้ของเธอเคยถูกเอาไปใช้ประกอบในฉากที่ Jacqui McQueen ออกจากเรื่อง Hollyoaks
และ Rachael Thompson เคยนำไปใช้ออดิชั่นในรายการ The X Factor Australia 2013 อีกด้วย
เพลงที่สามก็คือเพลง Panic Cord
ซึ่งเพลงนี้ Gabrielle Aplin เคยเอาไปลงไว้ใน Never Fade EP มาก่อน โดยเวอร์ชั่นใน English Rain นั้นมีความแตกต่างกันในเรื่องของทำนองเพลง
เธอเคยให้สัมภาษณ์ว่าเธอเขียนเพลง Panic Cord ตอนอายุ 15 ปี
VIDEO
(ส่วนตัวชอบเวอร์ชั่นของ Never Fade EP มากกว่า)
"Maybe I pulled the panic cord
And maybe you were happy, I was bored
Maybe I wanted you to change
Maybe I'm the one to blame"
ต่อไปเป็นเพลง Home
VIDEO
ซึ่งเพลงนี้ก็เป็นเพลงที่เธอเคยเอาลง Home EP เอาไว้ด้วย แต่ยังคงทำนองเอาไว้เหมือนเดิม
เพลงต่อมาก็คือ Salvation
เธอเคยบอกว่าเพลงนี้เธอไม่ได้เขียนขึ้นเกี่ยวกับคน แต่เขียนขึ้นเกี่ยวกับสถานที่ที่ทำให้เธอรู้สึกดี
เพลงนี้เคยนำไปใช้ประกอบเทลเลอร์ภาพยนตร์เรื่อง The Little Prince อีกด้วย
นอกจากสี่เพลงนั้นแล้ว เพลงอื่น ๆ ในอัลบั้มนี้ของ Gabrielle Aplin ก็ยังมีอีกหลายเพลงในอัลบั้มของเธอ อย่างเช่นเพลง Alive
Ready to Question
เธอใช้เวลาในการเขียนเพลงทุกวัน นั่งลงกับเปียโน และเริ่มเขียนเพลง เพลงทุกเพลงของเธอ (ไม่รวมที่เธอนำมา cover) เป็นเพลงที่เธอเขียนขึ้นมาเองทั้งสิ้น
เธอบอกว่าในอัลบั้ม English Rain เธอชอบเพลง Start of Time กับ Alive
ส่วนเพลงทั้งหมดในอัลบั้ม English Rain ก็จะมีเพลง
- Panic Cord
- Keep On Walking
- Please Don't Say You Love Me
- How Do You Feel Today?
- Home
- Salvation
- Ready To Question
- The Power Of Love
- Alive
- Human
- November
- Start Of Time
- Take Me Away
- Evaporate
- Wake Up With Me
เอาเป็นว่าถ้าอยากได้เพลงฟังสบาย ๆ เพลิน ๆ น่ารัก ๆ สายลม แสงแดด ก็คงต้องขอแนะนำอัลบั้มนี้เลยทีเดียว
ถ้าใครยังไม่กล้าลองฟังเพลงเต็ม ๆ ก็สามารถฟังในเวอร์ชั่น Album Sampler กันได้เลย
สุดท้ายก็อยากจะขอฝากเพลง November ฉบับแสดงสดให้ฟังกัน (ต่างกับเวอร์ชั่นในอัลบั้ม อยากรู้ต้องลองฟังกัน)
สามารถติดตามเธอกันได้ที่
หรือจะติดตามผ่านทวิตเตอร์แฟนแอคได้ที่
หรือเฟสบุ๊คแฟนเพจก็ได้ที่
----
TEZ
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in