ว่าด้วยเรื่องของ "การฝัน" "ความฝัน" คือการที่เรานอนหลับแล้วมีเรื่องราวต่างๆ เกิดขึ้นขณะที่เราหลับ เวลาไปคุยว่าเมื่อคืนตัวเองฝันเห็นอะไรให้คนอื่นฟัง มักจะมีคนบอกว่า เพราะหลับไม่สนิท แสดงว่าการหลับสนิทคือการไม่ฝันเห็นอะไรใช่ไหม
พอฝันทุกคืนจนปกติก็ไปหาความหมายของความฝันว่าคืออะไร ทำไมต้องฝันเห็นเรื่องราวต่างๆ มากมาย และก็มีผู้รู้เขียนให้อ่านในเน็ตมากมาย หรือในพันธ์ทิพย์ก็เนื้อหาละเอียดยิบ แบ่งประเภทความฝันให้เรียบร้อย ความหมายของความฝันที่เคยอ่านมามีทั้งทางพุทธศาสนาและทางวิทยาศาสตร์ ถ้าทางพุทธก็เกิดจากจิต ถ้าทางวิทย์ก็เกิดจากร่างกาย สมอง สิ่งที่พบเห็น ยิ่งฝันแบบอินเซ็ปชั่นนี่คนเขียนในพันธ์ทิพย์อ่านสนุกมาก เมื่ออ่านหลายๆ อันที่เขียนเรื่องนี้ ก็จะบอกว่าหลายคนจะมีความฝัน แต่อยู่ที่ว่าหลังตื่นจะจำได้หรือไม่ได้มากน้อยแค่ไหนต่างกันไป
ส่วนตัวเองถามว่าฝันแบบไหน ฝันเยอะ บางทีฝันแบบอินเซ็ปชั่นก็มี คือมันซ้อนไปอีก 2-3 ซ้อน เป็นเรื่องเดียวกัน หรือฝันคืนหนึ่ง 3-4 เรื่องก็มี ฝันเรื่องนี้จบอีกเรื่องหนึ่งก็ตามมาให้ได้ใช้ชีวิตกันไปในฝันนั้น ประเด็นเลยมาอยู่ที่ หลังตื่นมันจำความฝันได้ จำว่ามีใครอยู่ในฝันบ้าง สถานที่ในฝันคือที่ไหน เรื่องราวเป็นยังไง บทสนทนาว่าอะไรบ้าง สีเป็นยังไง คือมีทั้งฝันแบบดี สนุกสนาน ฝันไม่ดีบ้าง แต่ส่วนใหญ่จะฝันเป็นเรื่องราวยาวๆ ต่อกัน มีทั้งแบบเหนือจริงหลุดความจริงไปเยอะก็มี หรือแบบตามความจริงก็มี
ขอบคุณภาพหน้าปก ocean-dream-meets-sky-whale จาก www.keyword-suggestions.com
บ่อยครั้งที่ฝันแล้ว พอตื่นขึ้นมาจะเอาสิ่งที่ฝันเห็นมารีเสริชหาคำทำนายในกูเกิ้ล เช่น ฝันเห็นเด็กผู้ชาย ฝันได้หยิบเหรียญสิบบาท ฝันเห็นอาจารย์ ฝันได้ขึ้นตึกสูง ฝันได้ขึ้นต้นไม้ใหญ่ ฝันได้นั่งเรือ ฝันเห็นขี้ได้จับขี้ (อันนี้ยังไม่ได้หาเพราะรู้สึกว่าฝันไม่ดีแน่นอน เลยไม่อยากรู้คำทำนายให้ไม่สบายใจ ถึงแม้เราอาจจะไม่ได้เชื่อคำทำนายนั้น 100% แค่ 98% เอง) ประมาณนี้ เมื่อเอาไปถามในพี่กูเกิ้ล พวกเว็บดูดวงทำนายฝันจะโผล่มาให้เราเลือกอ่านทำนายเยอะแยะ และมักจะพ่วงเลขเด็ดมาด้วย นอกจากนี้แล้ว เขาายังรู้ดีและทำนายผลในแต่ละวันไว้ด้วย เพื่อความแม่นยำเข้าไปอีก เช่น ฝันเห็นเด็กน้อยน่ารักผู้หญิงในวันเสาร์/วันจันทร์ หรือฝันเห็นเด็กน้อยน่ารักผู้หญิงในวันเสาร์ เวลาหัวค่ำ/เวลาใกล้สว่าง แบบละเอียดละ เราก็อ่านทำนายไปหลายสำนัก ตรงกันบ้าง ไม่ตรงกันบ้างจากที่ถามสิ่งที่ฝันอันเดียวกัน แต่ส่วนใหญ่ทำนายไม่ตรงกันหรอก ทีนี้ พออ่านคำทำนายแล้วบางครั้งก็เอามาระวังตัวมากกว่า ถ้าทำนายว่าอาจจะเกิดเรื่องไม่ดีงั้นงี้ ก็จะมีสติในการพูด การคิด การทำงาน การไม่ประมาทในทุกเรื่องมากขึ้น คือไม่ได้เชื่อแต่รู้สึกว่า เห้ย มันก็พอนำทางแนะเราบางอย่างในทางที่ดีได้อยู่ (จริงๆ คือเมิงเชื่ออ่ะแหละ!) ส่วนคำทำนายที่ว่าดีอันนี้ไม่เชื่อเลย เช่น คุณจะมีโชคจากคนผิวสองสี คุณจะมีคนใกล้ตัวมาชอบ คุณจะได้เงินทองแบบไม่ตั้งใจ อันนี้ไม่เชื่อเลยจริงๆ คือเหตุและผลของการได้อะไร เช่น เงินทอง เหตุผลมันชัดเจนว่าทำยังไงจะได้ไง เลยไม่เชื่อเวลาผลทำนายมาว่าเป็นเรื่องดีๆ แต่ถ้าทำนายเรื่องไม่ดีไว้ อันนี้จะค่อนข้างระวังตัวมากขึ้น คิด ตั้งสติ และเป็นปัจจุบันให้มากกว่าปกติ คือ มันอาจพ่วงความกังวลมาบ้างเล็กน้อย ว่าวันนี้จะเจอเรื่องไม่ดีกับใครไหม จะไปพูดหรือทำอะไรให้ใครไม่พอใจหรือเปล่า แต่ไม่ถึงกับวิตกจริตนะ
นอกจากนำสิ่งที่ฝันเห็นไปทำนายแล้ว หลายครั้งที่ฝันเห็นภาพ สถานที่ สิ่งที่เหนือจริง แล้วเมื่อตื่นขึ้นมาแล้วอยากเก็บภาพในฝันไว้ ก็จะสะเก็ตภาพลงสมุดไว้ ไม่ก็เขียนบรรยายสิ่งที่พบเจอในฝันไว้ ในหลายๆ ครั้ง เรารู้ว่าฝันเพราะความกังวล สิ่งที่รู้ว่ากำลังจะเกิดขึ้น หรือฝันเพราะวันนี้ไปพบเจออะไรมาแล้วก็เก็บมาฝัน แต่ในฝันมักจะมีจินตนาการแฝงอยู่ให้ได้ท่องโลกฝันอย่างสนุกสนาน จนคิดว่า การฝันคืออีกหนึ่งมิติที่เราไม่สามารถไปถึงได้ถ้าเราไม่นอนหลับ เพราะในฝันเราเหมือนอยู่ใช้ชีวิตในนั้นเป็นเรื่องปกติ เลยยกตัวอย่างสิ่งที่ฝันแล้วเขียนวาดขึ้นไว้หลังตื่น เพราะกลัวลืมภาพในฝันนั้น
อันนี้ฝันเห็นรถคันใหญ่เหมือนสิบล้อ เป็นรถโดยสารที่ข้างในเหมือนสะพานแขวน ช่วงยาวของรถเป็นแบบโค้งตามภาพ นั่งได้และยืนได้
อันนี้ฝันเหมือนไปพิพิธภัณฑ์ (เพราะมีแผนไปทัศนศึกษาในกรุงเทพอยู่แล้ว) เหมือนได้เดินชมงานในหอศิลป์ที่เดินวนเป็นวงกลม ผนังคอนกรีตสีขาวทั้งหมดและมีจอภาพขนาดใหญ่มีรายการทีวีดังกำลังออกอากาศ ซึ่งมีเสนาหายเป็นพิธีกร บรรยากาศคล้ายๆ หอศิลป์กรุงเทพ
หรือจะเป็นภาพที่ตัดต่อขึ้นประกอบความฝัน คือฝันว่าพายเรือในน้ำจืดสีเหลืองคล้ำ เหมือนแม่น้ำโขงในประเทศลาว แต่ตึกรามบ้านช่องบนฝั่งกลับเป็นสิงคโปร์ แหนะ ผสมประเทศเข้าไปอีก ภาพในฝันแบบในภาพที่ตัดต่อมาเกือบ 100%
เวลาฝันอะไรยาวๆ หลายเรื่อง แล้วจำได้ บางครั้งก็รำคาญที่จำได้ เลยถามเพื่อนที่เป็นนักจิตวิทยาว่า ทำยังไงจะได้ไม่ฝันยาวๆ หลายเรื่องแบบนี้ เพราะมันน่ารำคาญที่ตื่นมาแล้วจำได้ เพื่อนเลยถามว่า แล้วมันรบกวนชีิวิตประจำวันเราไหม เราเดือดร้อนกับมันมากไหม ถ้าไม่ก็ไม่เป็นไร เลยนึกว่ารบกวนมากไหม ก็ไม่ และใช้ชีวิตประจำวันไปปกติดี เล่าเรื่องความฝันให้คนอื่นฟังจนปกติ เพื่อนเลยบอกว่า งั้นก่อนนอนก็หายใจเข้าออกลึกๆ สูดอากาศเข้าไปเยอะๆ จิตจะได้ไม่ฟุ้งจะได้มีสมาธิก่อนนอน จดจ่ออยู่ที่ลมหายใจ สมองจะได้ไม่คิดเรื่องต่างๆ ก่อนนอน แล้วเก็บไปฝัน เราก็ลองทำนะ แต่ทำได้ไม่นานและไม่สม่ำเสมอ และถึงทำได้ก็ฝันอยู่ดี ฮ่าๆ
การที่เขียนความฝันแลัวเผยสิ่งที่ฝันด้วยการเล่าบ้าง หรือจะโพสต์ภาพที่เขียนนี้บ้าง ยิ่งทำให้อ่านใจเราออกได้ดีกว่ารู้จักเราตัวเป็นๆ อีกนะ ว่าความนึกคิดหรือจิตใต้สำนึกลึกๆ เราเป็นคนยังไง ฮ่าๆ นำส่วนลึกภายในจิตใจคือความว่างเปล่า มาเปิดเผยให้โลกรู้เสียแล้ว
สรุปแล้ว ความฝันที่มากมายก็ไม่ได้ทำร้ายหรือกวนเรามากนักหรอก แค่บางครั้งก็นึกรำคาญหลังตื่นว่าฝันอีกแล้ว ไม่อยากจำความฝันได้แล้ว แต่ก็ดำเนินชีวิตได้ปกติ ถ้าฝันเห็นสิ่งที่น่าสนใจแปลกใหม่แล้วจะวาดขึ้นอีก อาจจะมีวาดฝันหลังตื่นภาค 2 ก็เป็นได้
สุดท้าย จบไว้ด้วยเพลงปัจจุบันนา จากวงเดสท๊อป แอเร่อ
ถ้าเรามีสติ รู้ว่าความฝันคืออะไร ความจริงคืออะไร โลกโซเชียลคืออะไร เราก็จะดำเนินชีวิตไปด้วยความไม่ประมาทและมีสติในการทำสิ่งที่ควรและไม่ควรทำ
สิ่งที่เห็นแม้ไม่เป็นดั่งฝัน คุณอาจต้องใช้เวลาทำความเข้าใจ
เพราะเวลาที่หมุนเวียนเปลี่ยนไป ส่วนลึกข้างในจิตใจ มีความว่างเปล่า
และแม้ไม่เป็นอย่างฝันไป สุดท้ายคือลมหายใจ
ปัจจุบันนา: Desktop Error (2011)
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in