เราจึงเป็นนักฝัน แต่ไม่ใช่นักล่าฝันนะ ไม่ถึงขั้นชีวิตมันต้องเดินตามหาความฝันนนนนนน อะไรขนาดนี้

จากที่ตั้งตนเองเป็นนักฝันเมื่อสักครู่นี้ ก็เลยอยากมาเล่าเกี่ยวเรื่องราวในฝันให้อ่านกัน หลังจากที่เคยเขียนถึงภาพในความฝันไว้เมื่อปีที่แล้ว ถ้าใครสนใจก็ตามนี้ค่ะ วาดฝันหลังตื่น

เรื่องมันเริ่มจากตรงนี้

01

เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา เราได้ทำการหมุนหัวเตียงใหม่ จากเดิมที่หันหัวเตียงไปทิศตะวันออก เฉียงใต้หน่อยๆ เราก็นอนแบบนี้มาเป็นปีสองปี จนวันนี้ลองเปลี่ยนหัวเตียงหันไปทิศเหนือบ้าง ซึ่งถ้าเอาเรื่องความเชื่อของการหันหัวเตียงมาเล่าก็อาจจะยาวหน่อย เล่าก็ได้

ด้วยความที่เป็นคนอีสานและคนไทย ความเชื่อเรื่องการหันหัวเตียงเราย่อมไม่หันไปทางทิศตะวันตกใช่ไหมค่ะ เพราะเชื่อว่าเป็นทิศวางของคนตาย และในขณะเดียวกัน ป้าที่บ้านก็บอกว่าไม่ให้วางไปทางทิศตะวันออกด้วย เพราะจะคล้ายๆ กับวางทิศตะวันออกนั่นแหละ ทางที่ดีควรวางไปทิศเหนือ-ใต้จะดีกว่า ถ้าภาษาอีสานจะเรียกว่า ทิศหัวนอน(ทิศเหนือ) กับทิศปะตีน(ทิศใต้) 

แต่ถ้าเราเอาความวิทยาศาสตร์มาพูดกัน การหันหัวเตียงไปทางทิศตะวันออกหรือตกนั้น เราจะได้รับแสงแดดมากเป็นพิเศษ ยิ่งทิศตะวันตกจะได้รับแดดมากเป็นพิเศษ ถ้านอนก็คงไม่สบายเท่าไหร่ หรือถ้าหันไปทางทิศตะวันออกแสงอาจทำให้ตื่นเร็ว(หรือเปล่า) คล้ายๆ การวางตัวอาคารของบ้านที่ไม่วางขวางตะวัน เพราะเรื่องแสงแดด ทิศทางลมฝนสำคัญต่อการออกแบบบ้านและอาคารต่างๆ มาก

ต้องขออภัยที่เกริ่นเรื่องการหันหัวเตียงไว้ขนาดนั้น และใช้วิจารณญาณได้นะคะ :]

02

จากเดิมที่เป็นคนฝันหลายเรื่องต่อคืน ถึงกับบันทึกความฝันไว้ตามที่เคยเขียนไป และการหันหัวเตียงใน 2 วันแรก ก็ทำให้รู้สึกดีที่ฝันแล้วตื่นขึ้นมาจำความฝันไม่ได้ หรือก็แบบลางเลือนมากๆ ไม่สามารถเห็นรายละเอียดได้ รู้สึกดีจริง รู้สึกดีที่ไม่ต้องจำภาพในฝันได้ แค่ใช้ชีวิตประจำวันก็พอแลงละ แต่แล้ววันที่ 3 การฝันและการจำความฝันก็มาเป็นปกติ

03

สำหรับความฝันเมื่อคืนที่พอจำภาพได้ มีดังนี้

- ฝันเกี่ยวกับที่ทำงาน ข้องใจว่าทำไมฝ่ายบุคคลที่ทำงานไม่อบรบหรืออธิบายสวัสดิการหรือสิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อคนทำงานให้ทราบ เพื่อเป็นประโยชน์ต่อพนักงาน 

- ฝันว่าได้ไปทำงานที่ใหม่ ที่ทำงานดีมาก บรรยากาศในที่ทำงานดูสะอาด โต๊ะ เก้าอี้รูปแบบทันสมัย การจัดพื้นที่ภายในน่าใช้งานมาก คนในออฟฟิศยิ้มแย้มแจ่มใส แต่ภาพจะเป็ฯสีขาวส่วนใหญ่ ล้ำๆ โค้งๆ มนๆ ปราศจากสี่เหลี่ยม (ถ้าฝันขนาดนี้ คงวิเคราะห์ได้ว่า อินี่! อยากเปลี่ยนที่ทำงานเพราะจิตใต้สำนึกบอกมาในฝัน)

- ฝันได้คุยกับใครก็ไม่รู้จัก ไม่ใช่คนในชีวิตประจำวันของเราหรือคนที่เรารู้จัก เขาเป็นคนที่สามารถอ่านภาษามนุษย์ต่างดาวได้ และในฝัน เขาก็อ่านภาษาภาพให้ดู ภาษามนุษย์ต่างดาวเป็นภาพบนผืนหญ้าสีเขียว เขาบอกว่าเขาอ่านออกและสื่อสารกับมนุษย์ต่างดาวได้ เราก็นั่งลงกับพื้นดูและฟังเขาอ่าน แต่จำไม่ได้หรอกว่าเขาอ่านว่าอะไรออกมา

- ฝันว่าไปกับเพื่อนผู้หญิงที่เรารู้จัก 1 คน เพื่อนผู้ชายอีก 2 คน รู้จัก 1 คน อีกคนไม่รู้จัก ขับรถกระบะไปเที่ยวมั้ง แล้วก็ขับไปตามถนนไปเรื่อยๆ แวะลงเดินด้วย เหมือนจะตามหาสถานที่บางที่แต่ไม่เจอสักที เราเลยบอกเพื่อนหญิงว่าใช้ GPS หาไหมจะได้เจอ แล้วสักพักก็เดินไปเจอพี่ที่รู้จักคนหนึ่ง แกรู้สึกสถานที่นี้เลยอาสาจะพาพวกเราไป ระหว่างจะไปนั้นแกก็พาแวะร้านขายของชำซื้อของกินเล่นบางอย่าง แล้วก็นำทางพวกเราไป จนไปถึงที่ที่เราตามหา ที่ตรงนี้ก็คือ จะบอกว่าเป็นอะไรดี คือ มันเป็นเหมือนลานน้ำตกที่น้ำใสมากกกกกกก มองทะลุลงไปเห็นโขดหิน และก้อนหินต่างๆ ด้านหลังน้ำตกเป็นเมืองที่มีถนนพาดผ่าน ถนนที่ว่าเป็นแบบสะพานยกระดับโค้งวนเวียน แล้วพอไปถึงก็เห็นคนถ่ายรูปแมวที่อยู่ในน้ำ เป็นแมวสีขาว (ซึ่งรู้มาว่าแมวไม่ชอบน้ำ) คนถ่ายภาพแบบมืออาชีพมาก และมีคนนั่งถ่ายรูป เล่นน้ำไปด้วยรอบๆ (สงสัยจิตใต้สำนึกอันนี้อยากไปเที่ยว!) พอพวกเราเห็นบรรยากาศทั้งหมดก็พากันอึ้ง เพราะมันสวยมาก น้ำใส ตึกสวย ธรรมชาติ ก็จบแค่นี้ค่ะ

04 

ทั้งหมดจาก 03 คือเรื่องที่ฝันแล้วจำได้บางส่วน และไม่ได้ลงดีเทลมาก ถ้าไปเล่าให้ใครฟังเขาก็จะบอกเป็นทำนองเดียวกันว่า เราคงคิดมากก่อนนอน วันนี้ไปเจออะไรมาล่ะ เรื่องที่ฝันก็มาจากจิตสำนึกทั้งนั้น ซึ่งในส่วนนี้เรายอมรับว่าเป็นสาเหตุที่ทำให้ฝันได้มากมายต่อคืน แต่ก็ยังมีข้อสงัยว่า แล้วเรื่องต่างๆ ที่มันเกินจริงละ คนที่ไม่เคยรู้จักในฝัน สถานที่ต่างๆ ที่ไม่เคยเห็นและไม่น่าเป็นไปได้ในโลกจริงนั้นมันเกิดขึ้นมาจากส่วนไหนของสมองหรือจิตใจ ซึ่งในความฝันนั้นก็มีทั้งแบบดีสวยงามและน่ากลัว ผสมกันไป

05

จากความฝันแบบนี้นี่เองที่ทำให้เราอยากได้เครื่องมือบันทึกความฝัน เพราะเริ่มไม่ขยันที่จะวาดเขียนความฝันหลังตื่นเท่าเมื่อก่อน (เราหลีกเลี่ยงการใช้คำว่าขี้เกียจแล้วนะ) เคยคิดจะบันทึกความฝันด้วยการพูดอัดเป็นคลิปเสียงไว้ แต่ยังไม่เคยทำได้แต่เล่าให้คนอื่นฟัง ด้วยเหตุนี้ จึงอยากได้เครื่องบันทึกความฝันมาช่วยแทนการวาดเขียนในส่วนที่เราจำได้ โดย ฟังก์ชั่นที่ต้องการของเครื่องบันทึกความฝันที่คิดออกแบบและอยากให้เป็น ได้แก่

- เป็นเครื่องบันทึกขนาดเล็ก ที่สามารถติดตัวเราเวลานอนได้แบบไม่รบกวนการนอน สามารถหลับได้สนิท เพียงพอ เช่น อาจจะเหมือนหูฟังที่เราใช้ฟังก่อนนอนได้ หรือเป็นผ้าพันไว้ที่มือข้างใดข้างหนึ่ง หรือเป็นผ้าปิดตาที่เก็บข้อมูลฝันได้ เป็นต้น

- ขอบเขตของการบันทึกความฝันนั้น ให้บันทึกความละเอียดและรายละเอียดเท่าที่เราจะจดจำได้ หลังจากตื่นขึ้นมา คือ พอตื่นขึ้นมาเราจำความฝันทั้งเนื้อหา ความละเอียด และรายละเอียดทั้งหมดได้ 60% เครื่องก็จะบันทึกมาแค่ 60% ไม่ต้องบันทึกมา 100% เพราะมันจะเกินความเป็นจิตวิญญาณของมนุษย์

- เมื่อเครื่องมือบันทึกฝันมาแล้ว จะมีเวลาเก็บความฝันไว้สูงสุดที่ 12 ชั่วโมงเท่านั้น ถ้าหลัง 12 ชั่วโมงข้อมูลจะหายไปทันทีถ้าไม่มีการถ่ายโอนข้อมูลไปที่อื่น หรือจะใช้การตั้งค่าให้หายไปตามที่ต้องการได้ การให้ 12 ชั่วโมงนั้นถือว่าเป็นครึ่งนึงของ 24 ชั่วโมง เป็นเวลาหลังจากการตื่นนอนจนถึงเข้านอนอีกครั้ง 

- เครื่องบันทึกนี้ ต้องมีระบบป้องกันข้อมูลเป็นอย่างดี เพราะความฝันเป็นเรื่องส่วนตัว เป็นความฝันส่วนตัวที่มาจากประสบการณ์ ชีวิตประจำวันของแต่ละคน เรื่องราวมากมาย จิตใต้สำนึก ความคิดต่างๆ เป็นของส่วนบุคคลเท่านั้น  เพราะทุกคนไม่น่าจะฝันเหมือนกันได้ เพราะบางครั้ง ในความฝันอาจจะมีไอเดียดีๆ บางอย่างที่เอามาต่อยอดทำผลงานชิ้นโบว์แดงได้ เช่น หวย 3 ตัว แม่นๆ เป็นต้น หรือเป็นความฝันที่ไม่อยากให้ใครรู้

- เมื่อเราลบความฝันบางเรื่องที่เราไม่โอเค ไม่อยากจำได้ เช่น ฝันร้าย ออกจากเครื่องบันทึกความฝันแล้ว ในการดำเนินชีวิตจริงของเรา ความจำในสมองเราก็จะถูกลบไปด้วย นั่นหมายความว่า เครื่องนี้เกือบจะเหมือนเนื้อเยื่อสมองส่วนความทรงจำที่ถูกโคลนนิ่งออกมา เพราะมันต้องสัมพันธ์กับร่างกายจริงเราโดยตรงได้ 

- เครื่องมือนี้จะหาซื้อได้ตามทางการแพทย์ ไม่ใช่ทางไสยศาสตร์ เช่น ตามร้านขายยา ตามโรงพยาบาล เหมือนซื้อยาทั่วไป เพราะอาจต้องได้รับการควบคุมและขึ้นทะเบียนเครื่องมือไว้ จะเป็นการดี

- สุดท้าย เครื่องบันทึกความฝันนี้ เราจะผลิตเองค่ะ ฮ่าๆ ก็อยากได้สักเครื่องไง โถ่ว

06

มาถึงข้อนี้ เราก็ไม่รู้ว่าการเพ้อนี้ชนขอบจักรวาลหรือยัง เอะ จักรวาลนี่มีขอบไหมน่ะ? 

ความฝันที่เราว่ามานั้น เราเล่าและเชื่อในเชิงวิทยาศาสตร์ที่สามารถพอจะอธิบายเกี่ยวกับเรื่องนี้ได้ ดังนั้น ความฝันที่เล่ามานั้นอาจทำให้สามารถคาดเดาจิตใจเราได้ หรือทำนายเราจนรู้จักเราก็เป็นได้ ดังที่เคยเขียนไว้ก่อนนี้ และไม่ต้องทำนายไปในทางอื่นที่ไม่ใช่ทางวิทยาศาสตร์นะคะ เราว่า ข้อเท็จจริง เหตุและผลทางวิทยาศาสตร์มันสนุกมากกว่า มันเป็นสิ่งที่จับต้องได้ และสร้างความเชื่อใจได้ค่ะ 

07

เหตุผลที่อยากได้เครื่องบันทึกความฝันอีกอย่างคือ เพราะในฝันของเรา มันโคตรจะแฟนตาซี สถานที่ต่างๆ ที่เราได้เห็นในฝัน มีทั้งสวยมากๆๆ หรือน่ากลัวก็มี มีหลายคนที่เราไม่รู้จักเขา และไม่รู้ว่าเป็นใคร แต่เรากลับคุยและสื่อสารกันในฝันได้ พูดคุยกันเป็นปกติ มีแบบฝันแล้วคุยภาษาอังกฤษด้วยก็มี เช่น ฝันว่าได้เจอครีส มาติน (นักร้องนำโคลเพลย์) แล้วก็สนทนากันเป็นอังกฤษรัวๆ แต่ไม่รู้เรื่องนะ ฮ่าๆ หรือสิ่งของต่างๆ ที่มันไม่มีในโลกนี้ เราก็พบเห็นในฝัน หรือจะมีฝันแบบน่ากลัวไม่อยากจำก็มี ส่วนตัวจึงอยากได้มันมาสร้างประโยชน์มากกว่าก่อให้เกิดโทษ เราเชื่อว่ามันเป็นประโยชน์ได้ ในเมื่อโลกของเราล้ำไปข้างหน้า อย่าเรียกว่าการก้าวหรือการเดินไปข้างหน้าเลย เพราะมันช้าไป เป็นพฤติกรรมที่เชื่องช้าแม้จะเห็นการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว แต่คำว่าล้ำไปข้างหน้า น่าจะเหมาะมากกว่าและครอบคลุมในหลายมิติ ของความก้าวหน้าบนโลกมนุษย์

08

ไม่ได้เขียนลงมินิมอร์ร่วม 2 เดือน เมื่อเทียบจากเมื่อก่อน (ก่อนปีใหม่) พอหลังปีใหม่เราก็ขยันน้อยลง (เราไม่ขี้เกียจนะ แค่ไม่ได้ขยัน) เราเมินหลายสิ่ง ไม่อยากทำอะไร หลายๆ อย่าง หาเหตุผลของสิ่งนี้ไม่ได้ นอกจากคำว่า ไม่ขยัน (เลี่ยงการใช้คำว่า ขี้เกียจ ค่ะ) การเขียนครั้งนี้ เราอยากบันทึก วาดฝันหลังตื่น ในอีกรูปแบบหนึ่ง ให้เป็น เขียนความฝันหลังจากที่ตื่น เพราะการที่เราได้นอนหลับก็เพื่อที่จะได้ตื่น และการที่เราได้ตื่นก็เพื่อที่จะได้นอนหลับ 

ความสุขที่สุดของเราตอนนี้คือ การได้นอนหลับ

หากอ่านถึงตรงนี้ ก็ขอขอบพระคุณมากค่ะ 

ทานข้าวมื้อดึกให้อร่อยนะคะ หากใครคิดเมนูไม่ออกขอแนะนำค่ะ 

- ผักบุ้งหมูกรอบ - 

ขอบคุณภาพหน้าปกจาก 

https://my.dek-d.com/bownarakkra/