เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
ON SERIESSCHLENDERN
Game Of Thrones : ว่ากันด้วยสิทธิอำนาจและการเมืองเวสเทอรอส (1)
  • ความเดิมก่อนเริ่มสงคราม

                หลังจากโรเบิร์ต บาราเธียนขึ้นครองบัลลังก์โดยการทำสงครามยึดมาจากแอรีส ทาเกเรียนในช่วง 15 ปีก่อนเข้าสู่เนื้องเรื่อง Game of Thrones ทำให้ราชวงศ์ทาเกเรี่ยนถึงจุดสิ้นสุดและรุ่นหลานอย่างเดเนรีสแม่มังกรถึงกับต้องลี้ภัยข้ามทวีปกันเลยและก็เป็รปฐมบทของราชวงศ์บาราเธียนที่น่าจะเป็นราชวงศ์ที่อยู่ได้ไม่นานก็เกิดปัญหาอย่างที่ซีซั่น1 ปูไว้บาราเธียนตาย บัลลังก์ว่าง เอ็ดดาร์ก สตาร์ค(เน็ด)ดันรู้ว่าลูกของโรเบิร์ตกับเซอร์ซีแลนนิสเตอร์นั้นกลับไม่ใช่ลูกของโรเบิร์ตแต่เป็นลูกของเซอร์ซี่กับพี่ชายฝาแฝดเจมีแลนนิสเตอร์ ทำให้เน็ดพยายามดันน้องชายอย่างแสตนนิส บาราเธียนแทนแต่เดินเกมส์พลาดทำให้โดนตัดคอไปส่วนฝั่งบาราเธียนเองก็มองว่าเขาควรจะเป็นผู้สืบบัลลังก์ที่แท้จริงจนพยายามสร้างกองทัพพยายามมาบุกคิงแลนส์ดิ้ง ส่วนฝั่งสตาร์คนั้นกลับไม่ได้จะยึดครองบัลลังก์แต่เป็นการแก้แค้นที่ตระกูลแลนนิสเตอร์ทำกับตัวเองซึ่งยังมีตัวละครอีกหลายตระกูลทีเข้ามาพัวพัน ซึ่งเราจะมาพูดกันว่าแต่ละตระกูลนั้นมีที่มาและอำนาจทางการเมืองบนเวสเทอรอสอย่างไรทำไมถึงตัดสินใจทำอย่างนี้ ในบรรดาตระกูลใหญ่ที่ยังหลงเหลืออยู่ในเวสเทอรอส ซึ่งจะเริ่มต้นด้วย

     

    House of Lannister

                “A Lannister always pays his debts” แม้จะไม่ใช่คำขวัญประจำตระกูลแต่ก็ไม่ได้พูดมาลอยๆ แต่แลนนิสเตอร์ทำได้จริงและทำมาตลอด จากการที่แลนนิสเตอร์เป็นตระกูลที่รวยลำดับต้นๆ ในเวสเทอร์รอสก็พี่เล่นมีเหมืองทองอยู่ใต้ประสาทตัวเองและตระกูลแลนนิสเตอร์เองก็มีความเป็นนักการเมืองและนักเศรษฐศาสตร์สูงมากมาตั้งแต่สมัยยึด Casterly rock จากเจ้าของเดิมโดยไม่ต้องใช้กำลังทหารเลยแม้แต่น้อย ทำให้ระบบการบริหารการจัดการเงินและการเล่นเกมส์การเมืองเป็นสิ่งที่คู่กับตระกูลนี้มาตลอด

    Casterly Rock 

                เมื่อตัวเองไม่อยู่ในสถานที่มีสิทธิในบัลลังก์มากมายแต่โชคดีที่สมัยของMad King นั้นดันเติบโตแล้วมีเพื่อนสนิทชื่อ ไทวิน แลนนิสเตอร์ ทำให้เมื่อถึงรัชสมัยของMad King นั้นได้ดันไทวิน แลนนิสเตอร์มาเป็น Hand of The King ทำให้แลนนิสเตอร์มีอิทธิพลมากขึ้นไปอีกแม้หลังช่วงปฏิวัติของโรเบิร์ตจะถูกถอดออกการเป็น Hand of The King แต่อำนาจก็ยังคงไม่ตกลงไปเนื่องจาก ช่วงหลังปฏิวัติของโรเบิร์ตที่แลนนิสเตอร์เข้ามาแต่งงานกับบาราเธียนทำให้แลนนิสเตอร์มีบทบาทในเวสเทอรอสมากว่าเดิมแต่ก็วินๆ ทั้งสองฝ่ายเพราะบาราเธียนเองต้องการเงินและแลนนิสเตอร์ต้องการเพิ่มอำนาจทางการเมืองเพราะอำนาจเดิมที่เป็น Hand of The King หายไปและเหลือเพียงในแง่เศรษฐกิจที่ใหญ่มากขนาดที่ตระกูลทาเกเรี่ยนหรือบาราเธียนเองจะทำอะไรยังต้องกู้เงินจากแลนนิสเตอร์อยู่เป็นประจำ

                จากทั้งหมดทำให้แลนนิสเตอร์สามารถสร้างสิทธิอำนาจ (Authority) ให้ตัวเองในเวทีการเมืองเวสเทอรอสซึ่งการได้สิทธิอำนาจนี้มาจะเดินเกมส์ด้วยการเมืองแต่อย่าลืมว่าถ้าหากต้องทำสงครามกันจริงๆ แล้วแลนนิสเตอร์กองมีกองทัพที่ค่อนข้างพร้อมลำดับต้น ๆ ในเวสเทอรอสรวมถึงการมีทัพเรือเป็นของตัวเองด้วยเพราะฉะนั้นแล้วทำไมแลนนิสเตอร์ถึงยังต้องทำตัวแบบที่ทำอยู่ในซีรี่ย์ด้วย?

                เพราะเศรษฐกิจอีกนั่นแหละ ช่วงต้นบทความเราได้บอกไปแล้วว่าแลนนิสเตอร์รวยเพราะมีเหมืองทองอยู่ข้างใต้ปราสาทและคำกล่าว“A Lannister always pays his debts” นั่นทำให้แลนนิสเตอร์เป็นนายทุนใหญ่ผู้เป็นเจ้าหนี้หลายรายในเวสเทอร์รอสและเครดิตที่ดีมากๆ การกู้ยืมเงินจาก iron bank (AKA ธนาคารโลกของจักรวาล GOT) แต่เหมืองทองย่อมมีวันหมดและ Lannister can’t pay his dedts นอกจากนี้ลูกหนี้อย่างทาเกเรียนหรือบราเธียนไม่สามารถคืนเงินมากมายขนาดนั้นได้แน่นอนซึ่งก็จะกลายเป็นหนี้ศูนย์ไปไหนจะมีทั้งสงครามมากมายและงานพระราชพิธีบ่อยมากทั้งงานแต่ง งานศพ งานปราบดาภิเษก(เล่นตายกันบ่อยก็แบบนี้) หลังจากโรเบิร์ตตาย รวมถึงทรัพยากรเองของแลนนิสเตอร์เองก็ไม่ได้อยู่ในภูมิศาสตร์ที่มีทรัพยากรเยอะเพราะดินแดนตั้งอยู่ฝั้งตะวันตกขอทวีปที่มีเทิอกเขาส่วนใหญ่ถึงแม้จะมี Lannis Port ก็ไม่ได้ดีสักเท่าไหร่เพราะต้องอ้อมทวีปในการค้าขายแถมทะเลยังมีโจรสลัดอีกไหนจะพวก Iron Born ที่เป็นวฒนธรรมโจรสลัดที่ชอบปล้นชาวบ้านป้วนเปี้ยนในแทบน่านน้ำนั้น ด้านKing’s Landing เองก็ไม่ต่างกันเท่าไหร่เพราะทรัพยากรธรรมชาติเองก็น้อยแถมตกอยู่ในภาวะสงครามอีกเศรษฐกิจเลยพังกันเป็นแทบ ๆ  


               เพราะฉะนั้นการที่ต้องดันตัวเองเข้ามาอยู่ในสภาเล็กได้เพื่อที่จะควบคุมการคลั่งของอาณาจักรจึงเป็นเรื่องสมเหตุสมผลอยู่เช่นกันไหนจะการเร่งแต่งงานกับตระกูลไทเรลอีกเพราะนอกจากจะเรื่องเงินแล้วไทเรลที่รวยอันดับ1 แถมทรัพยากรธรรมชาติเยอะแล้ว ถ้าหากเราดูแผนที่แล้ว (แผนที่อยู่ด้านล่าง) สงครามที่เริ่มอยู่กับพวกสตาร์คนั้นการจะเดินทัพจากWesterlands แคว้นของแลนนิสเตอร์ มา King’s Landing นั้นถ้าหากไม่ผ่าน The Reach ของพวกไทเรลก็ต้องผ่าน Riverlands ของไทเรลซึ่งเป็นตระกูลของแม่บรรดาสตาร์คทั้งหลายซึ่งเป็นไปไม่ได้แน่นอนแต่ยังไงก็แล้วแต่ทุกอย่างดันมาพังเพราะปัญหาครอบครัวกับรุ่นหลานแท้ ๆ ที่มี Authority แล้วแต่ไม่สามารถรักษาได้เนื่องจากเลือกที่จะตัดสินใจใช้การบังคับใช้(Coercion) เพียงอย่างเดียวทั้งการปราบปรามที่รุนแรงและเอาแต่ใจของผู้นำซึ่งการกระทำแบบนี้จะได้ผลเพียงแค่ชั่วคราวเพราะจะทำให้เกิดการไม่ยอมรับในสิทธิอำนาจที่มี

                 และซีซั่นล่าสุดเราจะเห็นได้ว่าแลนนิสเตอร์เจอกับภาวะเศรษฐกิจตกต่ำในอาณาจักรและเซอร์ซี่ตัดสินใจไม่ชำระหนี้ที่มีกับIron Bank ทำให้เกิดปัญหาตามมาทั้งการที่ Iron Bank หันไปสนับสนุนการเงินในการทำสงครามให้กับบาราเธียนแทนและในเมืองหลวงประชาชนก็เริ่มไม่พอใจเป็นการเปิดทางให้กลุ่มศาสนา High Sparrow มีคนติดตามมากกว่าเดิมเพราะลงไปแก้ปัญหาปากท้องซึ่งแม้เซอร์ซี่จะระเบิดทิ้งไปหมดแล้วแต่ก็ต้องดูกันว่าแลนนิสเตอร์ที่ไม่มีคนวางเกมส์เก่งๆ อย่างไทวินหรือทีเรี่ยนแล้วจะเป็นอย่างไรในซีซั่น 7

    แผนที่แสดงอาณาจักรใน Westeros 

    แผนที่แสดงเมืองและภูมิศาสตร์

Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in