เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
bemine x seriesบีไมนฟอร์อะไวล
The Good Place (season 3), A | ทำไมการทำความดีมันยากจัง
  • อ่านรายละเอียดของซีรีส์และความเห็นหลังชมซีซั่น 1-2 ที่ลิ้งค์ล่างนี้ก่อนก็ได้นะ


    เอาจริงๆแล้วซีซั่นสามนี้ยังไม่จบซีซั่นหรอกนะ เพียงแต่ช่วงนี้ถึงช่วงพักเบรคของซีรีส์ เราเลยจัดดูแบบยาวๆให้จบถึงเอพิโสด 9 ไว้รอเอพิโสดต่อไปเลยละกัน ถือว่าเป็นดาร์ฟเล็กๆที่จะเขียนไว้เรื่อยๆหลังดูซีรีส์จบละกัน

    เริ่มต้นเรื่องราวมาที่ทั้งสี่คนนั่นหมายถึง เอเลนอร์ ชิดี ทาฮานิ และเจสัน ถูกส่งตัวมาที่โลกอีกครั้ง เพื่อพิสูจน์ว่าพวกเขาสามารถกลับตัวกลับใจเป็นคนดีตอนที่ยังเป็นมนุษย์อยู่ได้จริงๆนะ ซึ่งก็มีไมเคิลและเจเน็ตคอยช่วยเหลืออยู่ห่างๆ

  • ความเห็นหลังชมทีละเอพิโสด (เปิดเผยเนื้อหาเล็กน้อย)


    Everything Is Bonzer! (03x01)
    "ทำไมการทำความดีมันยากจัง"

    เริ่มต้นซีรีส์มาด้วยประเด็นที่ดีเลย ทั้งเอเลนอร์ ชิดิ ทาฮานิ และเจสัน ก็ประสงปัญหาเดียวกัน พวกเขาได้รังโอกาสใหม่บนโลกให้มาทำความดีอีกครั้ง แต่ครั้งนี้กลับรู้สึกว่าการเป็นคนดีที่ทำความดีด้วยความจริงใจ มันยากยิ่งกว่าการทำความชั่วที่ทำง่ายกว่าเป็นไหนๆ



    The Brainy Bunch (03x02)
    "มักจะมีเสียงในหัวให้เราทำชั่วอยู่ตลอดเวลา"

    การที่ความชั่วมันทำง่ายกว่าการทำดี นั่นอาจจะหมายถึงว่า ในหัวของเรามีเสียงให้เราทำความชั่วอยู่ตลอดเวลา หรืออาจจรวมถึงเสียงจากคนรอบข้างที่คอยยุยงเราไปในทางที่ผิดด้วย ซึ่งในที่นี้อาจจะหมายถึงปีศาจทราวิสที่มายังโลกมนุษย์แล้วก็เข้าร่วมกลุ่มกับทั้งสี่ ชักชวนพวกเขาออกนอกศีลธรรมที่อยู่ในกรอบมาได้สักพักนึงแล้ว



    The Snowplow (03x03)
    "ความจริงก็คือความจริงอยู่วันยังค่ำ"

    เอาจริงๆแล้วประโยคข้างต้นมันก็เป็นสัจธรรมที่เลี่ยงไม่ได้อยู่แล้ว แต่การที่ความจริงถูกปกปิดมันไม่ได้หมายความว่าเป็นสิ่งที่ผิดตลอดไป มันอยู่ที่เจตนาของการปกปิดนั้นมากกว่า อย่างในเรื่องไมเคิลต้องโกหกทั้งสี่ในสถานการณ์ที่แตกต่างกันออกไป แต่นั่นคือเจตนาที่ดี เมื่อทั้งสี่รู้ความจริงมันก็ไม่ได้ทำให้ทุกสิ่งอย่างแย่ลงไปซะหมด



    Jeremy Bearimy (03x04)
    "ถึงแม้เราจะตกนรกแน่ๆ แต่ทำไมเราไม่ลองพยายามทำโลกนี้ให้น่าอยู่ยิ่งขึ้น"

    หลังจากที่ทั้งสี่รู้ความจริงว่าพวกเขาได้ตายไปแล้วก็ได้ไปอยู่ในแดนชั่ว ก็คือตกนรกแน่ๆ แต่ครั้งนี้พวกเขากลับมาเพื่อแก้ไขและทำความดี ถึงแม้มันอาจจะไม่ได้แก้ไขอะไรได้ไม่มากนัก แต่ทำไมไม่ลองทำให้โลกนี้มันน่าอยู่ขึ้นล่ะ เป็นคอนเท็กซ์ที่ดีเลยเชียว ฉุกคิดสิ่งต่างๆได้เยอะขึ้นเลย



    The Ballad of Donkey Doug (03x05)
    "มันสำคัญมากกับการรู้ว่าตัวเองต้องการอะไร"

    ประเด็นนี้มุ่งไปที่ชิดิโดยตรงเลย ในอดีตเขามักจะตัดสินใจอะไรไม่เด็ดขาด ไม่รู้ว่าตัวเองนั้นชอบอะไรกันแน่ แต่การที่อยู่มาวันหนึ่งเขาตัดสินใจบอกเลิกแฟน อันนี้เป็นสิ่งที่เด็ดขาดพอสมควรเลย แม้แต่คนที่รู้ว่าตัวเองต้องการสิ่งไหนมาตลอดชีวิต การบอกเลิกแฟนยังเป็นสิ่งที่ยากสำหรับเขา



    A Fractured Inheritance (03x06)
    "ทุกคนมีโอกาสให้ได้ทำดีใหม่อีกครั้ง"

    ด้วยที่ทั้งสี่เริ่มที่จะทำความดีได้แล้ว การที่อยากให้คนรอบข้างทำดีด้วยก็ไม่น่าจะแปลกอะไร และการที่เริ่มจากการอยากให้ผู้เป็นพ่อแม่หรือแม้กระทั่งน้องสาวตัวเองหันมาทำความดีและเข้าใจกันบ้างก็เป็นการเริ่มต้นที่ดี ในเอพิโสดนี้เราจะได้เห็นผู้เป็นพ่อของเจสันในการที่จะเป็นคนดีขึ้น แม่ของเอเลนอร์ที่เธอเข้าใจมาตลอดว่าแม่เธอตายไปแล้ว น้องสาวของทาฮานิที่กลับมาเข้าใจกัน และชิดิที่เริ่มจะตัดสินใจอะไรได้เด็ดขาดกว่าเดิม 



    The Worst Possible Use of Free Will (03x07) 
    "ถ้าทุกอย่างถูกกำหนดไว้แล้ว สิ่งที่เราทำอยู่นี้ก็จะไม่มีความหมายอะไรเลย"

    เอเลนอร์ได้มีโอกาสดูอดีตของเธอตอนที่อยู่ที่แดนดีปลอมๆ และรู้ว่าเธอและชิดิตกหลุมรักกัน แล้วก็ยังคิดอีกว่าทั้งหมดนี้เป็นเพียงสิ่งที่ไมเคิลต้องการให้เป็น เขาต้องการควบคุมการกระทำของเธอ ซึ่งก็ใช่ส่วนหนึ่ง แต่ก็ไม่ใช่ส่วนหนึ่ง เพราะไมเคิลไม่สามารถควบคุมการกระทำของเอเลนอร์ได้เลย เธอมักจะเลือกทางเดินที่ไมเคิลคาดไม่ถึงเสมอ ทั้งหมดความเข้าใจผิดนี้จึงเป็นที่มาของ ถ้าทุกสิ่งถูกกำหนดไว้แล้ว สิ่งที่เรากำลังทำอยู่มันก็คงไม่มีความหมายอะไรเลย



    Don't Let the Good Life Pass You By (03x08) | 
    "อย่าปล่อยให้ตัวเองไม่มีโอกาสให้ทำความดี"

    ไมเคิลและเจเน็ตเดินทางไปพบผู้ชายคนหนึ่งที่ชีวิตเขามักจะทำแต่ความดี เพื่อให้คนๆนี้เป็นพิมพ์เขียวและต้นแบบของการทำความดี แต่มันก็ไม่ได้ดีเท่าที่คิดสักเท่าไร แต่คติหนึ่งที่ชายคนนี้พูดไว้ก็คือ "อย่าปล่อยให้ตัวเองไม่มีโอกาสทำความดี"


    Janet(s) (03x09)
    "การรู้ว่าตัวเองคือใครเป็นสิ่งสำคัญ"

    เอเลนอร์ ชิดี ทาฮานิ เจสัน ไมเคิล และเจเน็ตเจอกับเหล่าปีศาจที่ตามมากำจัดพวกเขาที่โลก เกิดการปะทะกันเล็กน้อย แต่ทั้งหมดก็หนีรอดมาที่ดินแดนเลวได้อย่างปลอดภัย ไมเคิลสงสัยอัลกอริทึมการนับคะแนนความดีความเลว จึงไปขอความช่วยเหลือจากนักบัญชี ซึ่งก็ไม่ได้ช่วยอะไร ส่วนมนุษย์ทั้งสี่ก็ได้ไปอยู่ในที่ว่างของเจเน็ต ระหว่างนั้นเอเลนอร์บอกความรู้สึกับชิดี ซึ่งนั่นทำให้เธอสับสนอย่างมาก แต่สุดท้ายเธอก็ได้รู้ว่าตัวเองนั้นคือใคร

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in