เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
The Wizard Next Doorpiyarak_s
Day 6 : Tranquil
  •  “เธอหนีสิ่งที่ตัวเองเป็นไม่ได้หรอก เบอร์แทรม เคลลีย์” 


    เสียงที่คอยกระซิบเตือนแว่วมาจากห้วงหนึ่งของจิตใต้สำนึก


    “ไม่มีใครเคยหนีได้ แม้กระทั่งคนที่เก่งที่สุด แข็งแกร่งที่สุด เขาก็ยังหนีไม่พ้น เพราะมันอยู่ในสายเลือดของเรา”


    เสียงกระซิบนั้นนุ่มนวลคล้ายปลอบใจ แต่แท้จริงแล้วกลับเกลี้ยกล่อมไปจนถึงบังคับให้ต้องรับความจริง 


    “ทางเลือกเดียวที่เธอมี คือ การยอมรับมัน ใช้มัน ควบคุมมัน เป็นนายมัน อย่าพลาดพลั้งเหมือนคนของเราบางคน”


    เสียงนั่นสะท้อนก้องไปมาในห้วงความคิด โดยเฉพาะประโยคสุดท้ายที่ตามข่มขู่ว่าอย่าได้เดินตามรอยคนที่ทำผิด


    “ที่ผมช่วยเขา เพราะผมคิดว่าตัวเองสมควรทำ แค่นั้นเอง” 


    ทันทีที่นึกแย้งออกไป ความมืดมิดที่โอบอุ้มเขาเอาไว้ก็แปรสภาพ เบอร์แทรมรู้สึกเหมือนตัวเองถูกฉุดลงไปใต้ผิวน้ำอย่างกะทันหัน ดำดิ่งลงไปในบรรยากาศที่หนาแน่นและบีบรัดรอบตัวเขาไว้จนแทบหายใจไม่ออก 


    เขารู้สึกว่าตัวเองร่วงหล่นถึงพื้นเยียบเย็น ก่อนกระถดตัวเองเข้าหามุมหนึ่งและขดตัวอยู่ที่นั่น ไม่ตอบโต้ ไม่ตอบสนองต่อสิ่งที่วนเวียนอยู่รอบตัวของเขาและตอกย้ำเรื่องสิ่งที่เขาควรทำและควรเชื่อ


    เปล่าเลย เขาไม่ได้ยื่นมือเข้าช่วยรัสเซลล์ โธมัสเพราะเขาตระหนักถึงอำนาจของคนที่มีสายเลือดของพ่อมดอยู่ในตัวเอง เขาแค่อยากช่วยชายหนุ่มคนนั้นเพราะเขาเห็นอีกฝ่ายตกที่นั่งลำบากด้วยความสามารถที่เขาพอมีอยู่ เขาไม่เคยคิดหนีจากสิ่งที่ถูกส่งต่อมาทางสายเลือด แต่เขาอยากมีชีวิตในแบบที่ตัวเองอยากมี อยากทำในสิ่งที่ตัวเองเชื่อ ใช้ความรู้และพลังที่มีอยู่ในแบบของตัวเอง ซึ่งแตกต่างออกไปจากสิ่งที่หลายคนที่มีสายเลือดเดียวกันเป็น เชื่อ และทำ


    ปล่อยผมไปเถอะ... คำวิงวอนนี้ช่างไร้ความหมาย เมื่อแรงต่อต้านยืนหยัดจะลุกขึ้นยังไม่มี


    เบอร์แทรม เคลลีย์ได้แต่โอบกอดตัวเองแน่นราวกับว่าหากปล่อยมือแล้ว เขาจะสูญเสียตัวตนของตัวเองไปตลอดกาล



    ------------------------------- 


    ไม่รู้ว่าอะไรทำให้เบอร์แทรมหลับลึกได้ขนาดนั้น แต่เป็นการหลับลึกที่ดูไม่สบายเอาเสียเลย


    รัสเซลล์ช้อนตัวของคนที่นอนอยู่กับพื้นและยังไม่ยอมตื่นแม้เขาจะพยายามเรียกชื่อและเขย่าปลุกขึ้นวางบนโซฟา หาหมอนอิงมาหนุนศีรษะให้ เขาลังเลอยู่พักหนึ่ง ก่อนตัดสินใจจับแขนเสื้อของอีกฝ่ายเลิกขึ้นทั้งสองข้างเพื่อหาร่องรอยของการใช้ยาเสพติดหรือร่องรอยอย่างอื่นที่บ่งบอกถึงแนวโน้มในการทำร้ายตัวเอง แต่ก็ไม่พบแม้แต่นิดเดียว สองมือของเบอร์แทรมอาจมีรอยแผลบ้าง แต่นั่นก็เป็นธรรมดาของคนทำงานฝีมือ การไม่พบร่องรอยของสิ่งที่น่าเป็นห่วงทำให้เขาโล่งใจไปได้เปลาะหนึ่ง


    อาการกระสับกระส่ายของคนที่ยังหลับตาแน่นทำให้เขายื่นมือออกไปอังที่หน้าผากและซอกคอของอีกฝ่าย แต่พบว่าอุณหาภูมิของร่างกายไม่ได้ร้อนขึ้นเหมือนคนเป็นไข้ แม้จะมีเหงื่อผุดซึมตามใบหน้า แต่ทั้งแขนและมือกลับเย็นจัดเหมือนกำลังตกอยู่ในห้วงของฝันร้าย


    นายตำรวจหนุ่มลุกขึ้นจากพื้นพรมที่ตนเองนั่งคุกเข่ามองเจ้าของบ้านที่ยังคงไม่ได้สติตื่น เดินไปยังห้องนอนของอีกฝ่ายที่เขาเคยใช้เป็นที่นอนพักเมื่อบ่ายวันก่อน และหยิบเอาผ้าห่มควิลท์ที่เขาพับวางเอาไว้ที่ปลายเตียงออกมาห่มให้ชายหนุ่มบนโซฟา แล้วหย่อนตัวลงบนโซฟาอีกตัวหนึ่งและนั่งมองอีกฝ่ายเงียบ ๆ
    ไม่รู้ว่าเมื่อคืนนี้เกิดอะไรขึ้น เขานึกสงสัย แต่ในใจก็หวังเพียงว่าจะไม่มีเรื่องร้ายใด ๆ เกิดขึ้น และอยากให้กรณีที่แย่ที่สุดที่จะเกิดขึ้นกับอีกฝ่าย เป็นเพียงแค่อาการป่วยจากการเดินตากน้ำค้างยามดึกกลับบ้านเท่านั้น


    หลังจากห่มผ้าให้พักหนึ่ง รัสเซลล์ค่อยสังเกตว่าเบอร์แทรมดูสงบลงและกลับเข้าสู่ภาวะเหมือนแค่นอนหลับ


    เขาดึงกระดาษเช็ดหน้าจากกล่องที่วางอยู่บนโต๊ะรับแขกมาซับเหนือตามใบหน้าให้อีกฝ่ายอย่างระมัดระวัง


    สีหน้าขณะหลับของเจ้าของร้านหนังสือเก่าสงบนิ่ง ลมหายใจค่อยผ่อนลงเป็นการหายใจเป็นจังหวะสม่ำเสมอ สิ่งที่เคยดูน่าเป็นห่วง ไม่เหลืออะไรให้ต้องเป็นห่วงอีกต่อไปแล้ว 


    รัสเซลล์มองภาพที่เกิดขึ้นตรงหน้าของตนเอง... 


    ภาพของชายหนุ่มที่กำลังนอนหลับตาอยู่เป็นภาพของความสงบนิ่ง แต่เป็นความสงบนิ่งที่เต็มไปด้วยชีวิต เป็นความสงบสุขที่ทำให้เขาดีใจที่ตัดสินใจจะไม่รบกวนอีกฝ่ายด้วยการปลุกมาตั้งแต่แรก


    เขาเคยนั่งมองใครคนหนึ่งนอนหลับ และคนคนนั้นก็หายไปจากชีวิตของเขานานเสียจนเกือบลืมไปแล้ว
    เบอร์แทรมไม่มีอะไรที่เหมือนกับคนที่เคยอยู่ในชีวิตของเขาในช่วงระยะเวลาหนึ่งคนนั้น แต่การนั่งมองเบอร์แทรมทำให้เขานึกถึงช่วงเวลาดังกล่าวขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้

      
    มีเสียงเหมือนถอนใจเบา ๆ มาจากคนที่นอนอยู่บนโซฟา มือที่โผล่พ้นผ้าห่มออกมาขยับน้อย ๆ ริมฝีปากที่เผยออยู่ตามปกติของคนนอนหลับขยับช้า ๆ เหมือนพึมพำอะไรบางอย่าง


    เขาแตะใบหน้าของอีกฝ่าย ใช้นิ้วเกลี่ยเส้นผมบนหน้าผากของอีกฝ่ายออกให้ และลูบเรือนผมของชายหนุ่มอีกคนหนึ่งแผ่วเบา ขณะที่วางมืออีกข้างหนึ่งบนมือของคนที่นอนอยู่แล้วบีบเบา ๆ 



    ------------------------------- 


    นานเท่าใดไม่รู้ที่เบอร์แทรมต้องเผชิญกับเสียงที่คอยเรียกร้องให้เขากลับไปในที่ที่ตัวเองควรอยู่ แต่ ณ ขณะหนึ่ง เสียงและแรงกดดันนั้นก็สลายหายไป ความอึดอัดและเย็นยะเยือกที่เคยโอบล้อมรอบกายถูกแทนที่ด้วยกระแสของความอบอุ่น ความสับสนวุ่นวายของจิตใจพลันถูกแทนที่ด้วยความสงบ 


    เขาอยากลืมตาขึ้นมองว่าเกิดอะไรขึ้น แต่เหตุการณ์ที่เพิ่งผ่านมาเมื่อคืนนี้ทำให้เขาเหนื่อยล้าเกินกว่าที่จะขยับแม้เพียงเปลือกตา สิ่งที่ฉวยโอกาสจู่โจมยามที่เขาอ่อนแอทำให้เขายังไม่พร้อมสำหรับการเคลื่อนไหวใด ๆ ทั้งสิ้น


    ร่างกายที่หนักอึ้งเบาลงและรู้สึกเหมือนถูกยกขึ้นจากพื้นที่นอนอยู่


    มีสัมผัสอ่อนโยนสัมผัสหนึ่งแตะลงบนใบหน้าและเรือนผม 


    มีเสียงเรียกชื่อของเขาแว่วเข้าหู น้ำเสียงที่เรียกเต็มไปด้วยความห่วงใย


    “เบอร์แทรม” 


    ริมฝีปากของเขาขยับเชื่องช้า มือที่วางอยู่ข้างตัวเอื้อมหามือที่แนบอยู่บนหน้าผาก


    “รัสเซลล์...” 


    To be continued >>> Day 7 : Star / Night Sky
Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in
salmonrism (@salmonrism)
แง เป็นความอบอุ่นและสบายใจของกันและกันนี่ดีเกินไปแล้วค่ะ;-;
piyarak_s (@piyarak_s)
@salmonrism บรรยากาศแบบนี้ดีมากจริงๆ ค่ะ ><
salmonrism (@salmonrism)
@piyarak_s เขินกัดผ้าห่มไปเลยค่ะ โชคดีของทั้งคู่แท้ๆที่ได้มาเจอกัน???
ยย.เองจ้า (@two64okeydokey)
แงงงง เขินมากกก เขินมากมาก
bullettransth (@bullettransth)
ดูแลดีย์ ทุกซอกทุกมุม ฮือออ
piyarak_s (@piyarak_s)
@bullettransth เพื่อความปลอดภัยค่ะ ><
smile515903 (@smile515903)
เอ็นดูการเช็ครอยแผลค่ะ ความตำรวจ555
คุณ​เคลลีย์สู้ๆ นะคะ เหนื่อยหน่อยแต่ยังโชคดีที่มีอีกคนนึงอยู่ไม่ไกล หยิบผ้าห่มวิเศษให้ทันเวลา ?
pngfo (@pngfo)
อยากมีชีวิตในแบบที่ตัวเองอยากมี อยากทำในสิ่งที่ตัวเองเชื่อ>> อันนี้อ่านแล้วรู้สึกว่าดีจัง แต่อีกใจก็เศร้า เพราะแปลว่ายังไม่ได้มา ยังต้องพยายามดิ้นรน แต่ว่าก็สู้ๆค่ะคุณพ่อมด :)
piyarak_s (@piyarak_s)
@pngfo ใช่ค่ะ คุณพ่อมดยังต้องพยายามอีกหน่อย สู้กันต่อไปค่ะ ทุกอย่างน่าจะดีขึ้น ^^