แฮร์ริสันลืมตาอยู่ในความมืดมานานแค่ไหนแล้วก็ไม่รู้ เป็นอีกคืนที่เขาไม่สามารถข่มตาหลับได้ ทั้งๆที่ร่างกายเหนื่อยล้ามาจากการเดินทางบนเครื่องบินและด้วยการทำงานตามตารางงานที่แสนอัดแน่นของวันนี้
โดยปกติแล้วแฮร์ริสันเองก็เป็นคนที่ค่อนข้างจะนอนหลับยากเป็นทุนเดิม ยิ่งต้องนอนแปลกที่ ทำให้เขาไม่สามารถนอนหลับได้สนิทไปอีก หัวสมองก็จินตนาการถึงเรื่องน่ากลัวมากมายออกมาโดยอัตโนมัติ เมื่อไม่กี่คืนก่อนแฮร์ริสันเพิ่งจะพบเจอประสบการณ์ขนหัวลุกจากการฝันร้ายไป เขายังไม่ลืมเลย
ความประทับใจแรกของห้องพักที่โรงแรมนั้น ก็คือความรู้สึกชาวาบไปทั่วทั้งแผ่นหลัง ทันทีที่สบตาเข้ากับภาพเหมือนคนมากมายในห้อง แฮร์ริสันได้แต่นึกก่นด่าอยู่ในใจว่าการเอารูปวาดพวกนี้มาประดับมีแต่จะสร้างความหลอนให้กับแขกที่มาพักมากกว่าความสวยงาม ใครจะอยากไปนอนท่ามกลางดวงตาหลากหลายคู่ที่จ้องมองลงมาที่เราคนเดียว ไม่ใช่แฮร์ริสันแน่
แต่สำหรับทอม กลับไม่ได้คิดแบบเขา รายนั้นออกจะดูตืื่นตาตื่นใจกับการที่ได้มีรูปวาดแสนประณีตแขวนอยู่ทั่วไปตามมุมต่างๆ เพื่อช่วยให้ห้องพักดูหรูหราเหมือนคฤหาสน์ของเจ้านายชั้นสูง ทอมรีบเดินไปไล่ดูรูปภาพแต่ละรูป พลางยืนพินิจพิเคราะห์และซาบซึ้งกับเทคนิคที่จิตกรใช้ในการรังสรรค์รูปเหมือนกำลังอยู่ในหอศิลป์
ถึงแฮร์ริสันจะไม่ชอบมองรูปชวนขนหัวลุกพวกนั้นก็เถอะ แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าเขาชอบมองอีกคนเวลาขะมักเขม้นกับการอะไรสักอย่างมาโดยตลอด ทอมในโหมดจริงจังให้มองยังไงก็ไม่เบื่อ
แต่ประเด็นหลักจริงๆของเรื่องเกิดขึ้นในคืนนั้น เมื่อพวกเขาเข้านอนกันหลังจากเสร็จงาน
เมื่อเข้าสู่ภวังค์ไปได้สักระยะ แฮร์ริสันก็รู้สึกเหมือนตัวเองถูกจ้องมองจากดวงตาของใครบางคน ไม่สิ หลายคนเลยล่ะ
"คงไม่ใช่รูปพวกนั้นหรอก ก็แค่รูปวาดธรรมดา" แฮร์ริสันพยายามปลอบใจตัวเองไม่ให้กลัว
แต่ในขณะเดียวกันโสตประสาทของเขาได้ยินเสียงกระซิบกระซาบ สลับกับเสียงหัวร่อต่อกระซิกดังอยู่รอบตัว แฮร์ริสันทำได้แค่พยายามหลับตาและไม่คิดจินตนาการไปไกล แต่ก็ไม่สามารถหยุดความคิดตัวเอง ทั้งๆที่ในห้องก็มีแค่เขากับทอมเท่านั้น แถมห้องพักก็อยู่สูงพอสมควร ไม่น่ามีเสียงรบกวนจากข้างล่างดังมาถึงบนนี้ได้ เขาสัมผัสได้ถึงความเย็นยะเยือกที่คืบคลานเข้ามาทีละนิด จนร่างกายของแฮร์ริสันเริ่มสั่นสะท้าน เป็นเวลาเดียวกันกับที่เสียงคุยเบาๆตอนแรกเริ่มทวีความดังขึ้นเป็นเสียงจ้อกแจ้ก กระทั่งกลายเป็นเสียงกรีดร้องโหยหวนด้วยความทรมานเสียดแทงทะลุไปทุกประสาทการรับรู้
ร่างของแฮร์ริสันสะดุ้งเฮือกขึ้นมากลางดึก เขานั่งหายใจหอบรัว สิ่งเดียวที่ทำได้คือการพยายามกอบโกยอากาศเข้าไปให้ได้มากที่สุด เหตุการณ์เมื่อครู่ทำเอาหัวใจแทบหยุดเต้น แต่โชคดีที่มันเป็นแค่ฝันร้าย และตอนนี้แฮร์ริสันก็ตื่นขึ้นมาแล้ว
...ถึงแม้จะนั่งอยู่ท่ามกลางสายตาจากรูปวาดจดจ้องมาที่เขาและอีกคนที่นอนอยู่บนเตียงเป็นตาเดียวก็เถอะ
พูดถึงอีกคน ทอมกำลังหลับสนิทอยู่ข้างๆเขา และแน่นอนว่าการที่แฮร์ริสันฝันร้าย ก็เพราะทอมแย่งผ้าห่มไปอีกแล้ว ไม่ต้องสงสัยเลยว่าทำไมในฝันจู่อากาศถึงได้เย็นขึ้นจนผิดปกติ
กว่าแฮร์ริสันจะล้มตัวลงนอนหลับได้อีกครั้งก็กินเวลาไปเกือบเช้า ซึ่งทำให้ทอมตั้งท่าเตรียมจะใช้ท่าไม้ตายแบบฮาร์ดคอร์เพื่อปลุกแฮร์ริสันที่ยังนอนไม่พอขึ้นจากเตียง ยังดีทีเจ้าแฮร์รี่เข้ามาปลุกเขาได้สำเร็จซะก่อน ไม่งั้นคงได้กระเด็นลงไปแลนดิ้งบนพื้นห้องต้อนรับวันใหม่
ทั้งหมดก็เป็นเรื่องราวคร่าวๆที่เกิดจากการนอนไม่หลับเวลานอนแปลกที่ของแฮร์ริสัน ซึ่งยังคงหลอนอยู่ในหัวของเขามาจนถึงตอนนี้ ไม่ว่าจะนอนพลิกตัว ตะแคงหรือตีลังกาท่าไหนก็ไม่ช่วยให้ง่วงเลยสักนิด
"พึ่บ"
ระหว่างที่แฮร์ริสันพยายามบังคับตัวเองให้หลับ ก็รู้สึกได้ถึงการเคลื่อนไหวจากคนข้างๆที่ตอนนี้ดึงเอาผ้าห่มไปเป็นของตัวเองจนแทบจะไม่เหลือให้เพื่อนคนนี้อีกแล้ว เป็นไปได้ยังไง ดึงผ้าห่มผืนใหญ่ๆไปกองอยู่ฝั่งตัวเองหมด วันนี้แฮร์ริสันจะไม่ยอมนอนหนาวจนฝันร้ายเหมือนคืนก่อนแน่ๆ เขายื่นมือไปดึงผ้าห่มบางส่วนกลับมา แต่ไม่เป็นผล
"ทอม...ขอผ้าห่มมั่งสิ"
เงียบ ไร้การตอบกลับ มีแต่เสียงลมหายใจเบาๆจากทอมที่นอนหันหลังให้เขาอยู่
แฮร์ริสันรู้สึกว่าคืนนี้คงไม่ได้นอนแน่ๆ ผ้าห่มก็แทบไม่มีเหลือให้เขาเเล้ว ทีนี้จะนอนหลับไปได้ยังไง ถ้าสมมติมีใครหรืออะไรมาดึงขาเข้าตอนหลับไปแล้วล่ะ ไม่อยากจะจินตนาการให้ตัวเองนอนไม่หลับไปมากกว่านี้
คนนอนไม่หลับกระเถิบตัวเข้าไปหาโจรขโมยผ้าห่มที่อยู่ข้างๆ
"ทอม...นอนไม่หลับ"
แฮร์ริสันฉุกคิดไปครู่หนึ่ง ก่อนจะตัดสินใจลองพูดสิ่งที่อยู่ในใจออกไป
"ขอนอนกอดหน่อยได้ไหม"
ทันทีที่พูดจบ แฮร์ริสันก็สัมผัสได้ถึงความร้อนที่แล่นเข้ามาบนใบหน้า ก็แค่ลองพูดดูเฉยๆ...จะเสียใจในสิ่งที่พูดออกไปตอนนี้ก็คงไม่ทัน เพราะคนที่เขาคิดว่านอนหลับสนิทไปแล้วกลับมีปฏิกิริยาตอบกลับมาซะงั้น
"...อือออ"
เขาไม่ได้หูฟาดไปแน่ สาบานต่อบรูซ เวย์นที่เคารพรักสุดชีวิตเลยก็ได้ว่าเมื่อกี๊แฮร์ริสันไม่ได้โกหก ทอมตอบรับคำขอเมื่อครู่ของเขาเบาๆในลำคอจริงๆ
หัวใจของแฮร์ริสันกำลังเต้นแรงยิ่งกว่าตอนสะดุ้งตกใจตื่นจากฝันร้ายเมื่อคืนก่อน แต่เป็นความรู้สึกที่ดีกว่ากันมาก เขาค่อยๆพลิกเปลี่ยนท่านอน พลางเอื้อมมือไปโอบกอดอีกคนไว้หลวมๆ ทอมขยับตัวเข้าหาเล็กน้อยเพื่อให้นอนสบายขึ้น สัมผัสเนื้อตัวเนียนละเอียด บวกกับกลิ่นหอมอ่อนๆของแชมพูที่ทอมใช้สระผมก่อนนอนลอยเข้ามาแตะจมูกเพิ่มความผ่อนคลายให้เขาเข้าสู่ภวังค์ได้เร็วขึ้น
แฮร์ริสันรู้สึกปลอดภัยเหมือนได้นอนอยู่ที่บ้านแสนรักของตัวเอง สำหรับเขาคำว่าบ้านไม่จำเป็นต้องเป็นเพียงแค่สถานที่อีกต่อไป แต่หมายความถึงตัวบุคคลที่ให้ความรู้สึกเหมือนกับบ้าน
"ฝันดีนะทอม"
"ฝันดีแฮซ"
ลองเดาเล่นๆ แฮร์ริสันคิดว่าอีกคนที่นอนหันหลังให้เขาอยู่ก็คงคลี่ยิ้มออกมาบางๆขณะที่พูด ตัวเขาเองก็เหมือนกัน แฮร์ริสันอดยิ้มออกมาไม่ได้ พลางกระชับอ้อมกอดเข้ามาอีกสักนิด
ถ้าหากไม่มีผ้าห่ม อย่างน้อยขอมีหมอนข้างให้นอนกอดเพื่อช่วยให้หลับสบายสักหน่อยก็ยังดี ไม่งั้นแฮร์ริสันคนนี้คงไม่ได้หลับไม่ได้นอนแน่ แต่วันหลังคิดว่าคงไม่ต้องใช้ผ้าห่มเพื่อช่วยให้นอนหลับอีกต่อไปแล้ว เขาจะจงใจเตะให้ตกเตียงไปเลย เพราะตอนนี้ต่อให้แฮซไม่ได้นอนห่มผ้าก็ไม่มีอะไรมาทำให้เขากลัวได้อีกเวลานอนหลับ ไม่ว่าจะเป็นภูติผีวิญญาณหรือสัตว์ประหลาด
ผ้าห่มคงไม่จำเป็นแล้ว
ในเมื่อแฮร์ริสันมีหมอนข้างส่วนตัวน่ารักขนาดนี้
ถ้าขอแล้วทอมให้อนุญาตน่ะนะ แต่เอาจริงๆแฮร์ริสันไม่กล้าเสี่ยงขอบ่อยๆหรอก กลัวชีวิตสั้น
ต้องถนอมรักษาไว้หน่อย ก็เพราะอยากอยู่กับทอมไปนานๆนี่นา
Fin ❤
อ้าว ฟิคงอกออกมาอีกได้ไง ฟฟฟฟ สวัสดีค่า เจอกันอีกครั้งแล้วนะคะกับฟิคแฮซทอมสำหรับมิตรรักชาวเรือลำนี้ เข็นออกมาแบบงงๆ อิ_อิ ก็แบบว่าเอ้ออออออออ เพราะดาเมจรูปน้องทอมบนเตียงในไอจีนั่นไงเล่า รูปอ่อย อ้อย อ้อนในตำนาน เอาให้ใจพังกันไปเล้ยยยยยยย พอใจหายสั่นแล้ว เลยเอามาบวกกับการที่แฮซมาเล่าเรื่องฝันร้ายกับการนอนสักสองสามครั้งในทวิต ก็เลย บู้ม!! เกิดมาเป็นฟิคที่ทุกคนเพิ่งจะอ่านจบกันไปเมื่อกี๊นี่แหละค่ะ เอาฟินล้วนๆ
ขอบคุณมากนะคะที่แวะเข้ามาอ่านกัน ขอบคุณสำหรับกำลังใจจากชาวเรือด้วยค่ะ ซึ้งใจมากเลย แงงงง > <
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in