พิธีกรคนนั้นเริ่มร้องเพลงเป็นภาษาเกาหลีและแน่นอนว่าทอมไม่รู้จักภาษาเกาหลีเลยสักนิด นอกจากประโยคพื้นฐาน เท่านั้นยังไม่พอ มีท่าเต้นประกอบเพลงด้วย สมองของเขาประมวลผลตาม แต่ก็พบว่าจับใจความอะไรไม่ได้เลย มาซะรัวขนาดนั้นใครจะไปจำได้ในครั้งเดียว นอกจากคำหลักๆสามคำ
“นายานา”
มันแปลว่าอะไรเขาเองก็ยังไม่รู้ อาจจะเป็นเพลงที่กำลังฮิตอยู่ในขณะนี้ แล้วท่าชูกำปั้นขึ้นมาคืออะไร คงไม่ใช่เพลงปลุกใจเอาไว้ประท้วงตามท้องถนนหรอกนะ ทอมเองก็ไม่ค่อยแน่ใจสักเท่าไหร่
พิธีกรคนนั้นออกเสียงคำว่านายา นา พร้อมชูมือขึ้นมาเป็นจังหวะให้ดูอีกรอบ ทอมแอบเหลือบมองคนที่ยืนดูอยู่ทางขวามือของตัวเองครู่หนึ่ง เป็นทำนองว่า ขอกำลังใจหน่อย ทำไมต้องมานายานาอะไรนี่ด้วยนะ คนๆนั้นกลับขำคิก
นี่ให้กำลังใจกันมากเลยนะแฮซ
ทอมสูดหายใจเข้าลึกๆ เอาเถอะ นายา นาอะไรนี่ทำง่ายกว่าถ่ายหนังเรื่องนี้ตั้งเยอะ ลองดำน้ำกันไปสักตั้ง ทอมจะไม่ทำให้แฟนคลับเสียใจหรอก
“นายา นา...นายา นา” ทอมร้องออกไปพลางทำท่าหงึกหงักๆ ก่อนจะหัวเราะออกมาแหะๆ แต่พอเห็นปฏิกิริยาของพิธีกรตรงหน้าก็รู้สึกใจชื้นขึ้นมาหน่อยที่ทำไปเมื่อกี๊คงไม่ได้แย่
และแล้วการสัมภาษณ์รวมไปถึงตารางงานทั้งหมดของวันนี้ก็จบลงด้วยดี ทุกอย่างวันนี้ดูเหมือนจะเป็นไปได้สวยกว่าที่ทอมคิดไว้ เขาไม่นึกว่าจะได้รับการสนับสนุนจากแฟนคลับในแถบเอเชียมากมายขนาดนี้ จนกระทั่งมาเห็นด้วยตาของตัวเอง ไม่รู้จะขอบคุณยังไงดีถึงจะเพียงพอกับความรักมากมายที่ผู้คนมอบให้เขา ทั้งๆที่เขาก็เป็นเพียงเด็กวัยรุ่นธรรมดาคนหนึ่งที่ต้องการทำในสิ่งที่ตัวเองรัก เป็นการทัวร์ที่ทำให้หัวใจของเขาพองโตอย่างไม่รู้จบ
“ดูอะไรอยู่น่ะแฮซ” ทอมเอ่ยขึ้นหลังจากที่เห็นเพื่อนคนสนิทของเขาจดจ่ออยู่กับการดูวิดีโออะไรบางอย่างในมือถือมาพักใหญ่แล้ว ก่อนจะทิ้งตัวลงบนเตียงข้างๆอีกคน พลางเช็ดผมของตัวเองที่ยังคงมีหยดน้ำพรายเกาะอยู่
“เพลงที่พิธีกรให้นายร้องเมื่อตอนกลางวันไง” แฮร์ริสันตอบ แต่สายตาก็ยังไม่ละจากหน้าจอ ทอมชะโงกหน้าเข้าไปดูด้วยความอยากรู้
“คนพวกนี้ร้องเพลงนายานานั่นน่ะเหรอ” ดูๆไปแล้ว ทำไมวงนี้เป็นวงบอยแบนด์ที่มีจำนวนสมาชิกเยอะเป็นพิเศษ
“นายเต้นได้ตลกชะมัดไม่ได้เหมือนต้นฉบับเอาซะเลย” แฮร์ริสันแหย่ทอมด้วยการเลียนแบบท่าทางที่ทอมทำตอนสัมภาษณ์ ก่อนจะโดนฝ่ามือของทอมฟาดเข้าไปหนึ่งที เป็นการทำโทษฐานล้อเลียน
“เดี๋ยวฉันจะจับนายไปเต้นบัลเล่ต์ แล้วดูสิจะทำได้ไหม” แฮร์ริสันลูบแขนที่โดนคนข้างๆตีปอยๆก่อนจะเริ่มพูดขึ้นมาอีกครั้ง
“เพลงนี้เป็นเพลงประจำรายการแข่งขันเพื่อค้นหาวงไอดอลของเกาหลีที่ชื่อ Produce 101 ซีซั่นล่าสุด รายการนี้จะคัดเลือกจากเด็กฝึกทั้งหมด 101 คน เพื่อมาเป็นบอยแบนด์แค่ 11 คนจากการโหวตของกลุ่มแฟนคลับที่เรียกแทนว่าเป็นโปรดิวเซอร์แห่งชาติ ซึ่งตอนนี้กำลังเป็นที่นิยมไปทั่วเลย รายการเพิ่งจบไปก่อนที่เราจะมาได้สักพักเอง ตอนนี้ผู้ชนะทั้ง 11 คนมีวงเป็นของตัวเองที่เรียกว่า Wanna One” วิกิเคป็อปแฮร์ริสันพูดเหมือนกับว่าตัวเองเป็นหนึ่งในโปรดิวเซอร์แห่งชาติที่มีเด็กในดวงใจที่ตัวเองเชียร์อยู่อย่างงั้นล่ะ น่าหมั่นไส้
“โห เอาเด็กวัยรุ่นตั้งร้อยคนมาแข่งกันเนี่ยนะ” ทอมที่กำลังเช็ดผมของตัวเองอยู่ต้องหยุดชะงัก
เพราะมันทำให้เขานึกถึงความยากลำบากที่ผ่านมาในการเดินทางสายนี้ หลายต่อหลายครั้งที่เด็กรุ่นราวคราวเดียวกันกับเขามากมายต้องเข้ามาแคสต์ เพื่อแย่งชิงบทบาทในภาพยนตร์เรื่องแล้วเรื่องแล้ว ทอมเชื่อว่าทุกคนเกิดมาพร้อมกับความฝันเป็นของตัวเอง แต่เมื่อความฝันถูกกระหน่ำตีด้วยความเป็นจริงที่โหดร้าย รวมไปถึงอัตราการแข่งขันที่นับวันมีแต่จะสูงขึ้น ทำให้คนจำนวนนับไม่ถ้วนต้องถอดใจ ปล่อยความฝันของตัวเองให้หลุดมือไป แต่ไม่มีใครหรอกที่จะไม่อดทนต่อสู้เพื่อกอดความฝันเหล่านั้นเอาไว้ให้นานที่สุด เป็นอีกครั้งที่เขารู้สึกขอบคุณทุกสิ่งทุกอย่างที่นำพาเขาให้มาสู่จุดนี้ได้แม้มันอาจจะแลกมาด้วยอะไรหลายอย่าง
เมื่อรู้สึกว่าบทสนทนาเงียบไปแฮร์ริสันเลยเงยหน้าขึ้นมาดูอีกคน ผ้าขนหนูถูกวางอยู่บนหัว ผมสีน้ำตาลเข้มไม่เป็นทรงที่ยังแห้งไม่สนิท และดวงตากลมโตสีเข้มที่เขาคุ้นเคยมาตลอดกำลังล่องลอยออกไปไกล ทอมปล่อยตัวเองจมอยู่กับความคิด จนไม่ได้สังเกตว่าอีกคนจ้องหน้าเขาได้สักพักแล้ว
“ทอมนายสมควรได้รับทุกสิ่งที่ดีนะ ทั้งหมดเป็นเพราะความสามารถของนาย ตัวของนายเอง” ทอมรู้สึกตัวอีกครั้ง เมื่อรับรู้ถึงการเคลื่อนไหวของผ้าขนหนูบนหัว แฮร์ริสันเอื้อมมือทั้งสองมาเช็ดผมให้ทอมต่ออย่างเบามือ ทั้งคู่นั่งอยู่ด้วยกันเงียบๆ เป็นความเงียบที่ทำให้ทอมรู้สึกมีความสุขและปลอดภัย
“ขอบคุณนะแฮซ ขอบคุณสำหรับทุกสิ่ง...” เขาหมายความตามที่พูดไปอย่างสุดหัวใจ ทอมไม่มีวันจินตนาการออก ถ้าชีวิตของเขาไม่มีแฮร์ริสันคอยอยู่เคียงข้าง ทันใดนั้นเองก็เหมือนโลกทั้งใบพร่าเลือนลง ทอมก้มหน้างุดลงไปเมื่อรู้สึกถึงหยาดน้ำตาใสที่รื้นออกมา มือของแฮร์ริสันที่ยังคงเช็ดผมให้อยู่ค่อยๆประคองให้อีกคนเงยหน้าขึ้นมาสบตากัน
“ไม่ร้องนะ ร้องแล้วไม่หล่อเลย” แฮร์ริสันหยิกแก้มป่องของคนตรงหน้าอย่างเอ็นดู ก่อนจะพูดต่อ
“จะต้องให้บอกกี่ครั้งกันว่าทั้งหมดที่ทำไปก็เพราะว่าเต็มใจทำให้” ริมฝีปากหยักของทอมยกยิ้มออกมาบางๆ
“ฉันเลือกคนไม่ผิดจริงๆ ขอบคุณนะ”
“รู้แล้วน่า ถ้าฉันได้ยินคำว่าขอบคุณออกมาจากปากนายอีกเมื่อไหร่จะต้องโดนทำโทษนะ” แฮร์ริสันหยุดพูดไป รอยยิ้มกับสายตาเจ้าเล่ห์ปรากฏขึ้น
“ทำโทษด้วยการปิดปากนายด้วยปากของฉันไง...”
“งั้นไม่พูดแล้ว” ทอมรีบลุกหนีออกจากเตียงทันที ประโยคที่ได้ยินไปเมื่อกี๊ทำเอาทอมไปต่อไม่ถูกเลยทีเดียว ในใจทอมก็ได้แต่คิดว่าตั้งแต่มาเกาหลีใต้ การกระทำของเพื่อนสนิทเขาเปลี่ยนไปยังไงก็ไม่รู้ไปแอบดูซีรีส์เกาหลีมาหรือยังไง
“นี่...ต่อให้จะมี 101 คนหรือ 1,001คน ฉันก็จะเลือกแต่นายคนเดียว นายจะเป็นแบทแมน ฉันก็จะเป็นโรบินให้นาย” ทอมโผล่หน้าออกมาจากห้องน้ำ ปากคาบแปรงสีฟันอยู่ ฟองสีขาวของยาสีฟันเปรอะอยู่รอบปากเหมือนหนวดเคราตาแก่ ก่อนจะรีบปิดประตูห้องน้ำหนีดังปั้้ง
แฮร์ริสันนั่งขำอยู่คนเดียว แล้วก็ได้แต่คิดขอบคุณโลกนี้ที่มีทอม ฮอลแลนด์ ขอบคุณทุกอย่างที่ทำให้เขาได้ใกล้ชิดกับคนๆนี้ ได้เห็นมุมที่แตกต่างกันไปมากมายอย่างไม่สิ้นสุดของคนๆนี้ ก็เล่นน่ารักซะ
“ฉันก็เหมือนกัน ทอม”
แต่ไม่ต้องมาเป็นโรบินให้แบทแมนอย่างฉันหรอก เพราะตอนนี้นายเป็นถึงสไปเดอร์แมนขวัญใจของผู้คนทั่วโลกไปแล้ว
เป็นแค่ทอมของฉันแบบนี้ไปตลอดก็พอ
Fin ❤
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in