เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
#TranslationFoundThe Mellow Being
[บทแปลเฉพาะกิจ] แนวทางป้องกันการระบาด COVID-19 จาก CDC (ฉบับวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2020)
  • กลับมาปัดฝุ่นบล็อกนี้หน่อยกับการแปลเฉพาะกิจ
    พอดีเห็นทวิตแนะนำผ่านตาว่าทางศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของสหรัฐ CDC มีแนวปฏิบัติสำหรับควบคุมและป้องกันโควิด-19 ที่กำลังระบาดหนักช่วงนี้อยู่ ส่วนตัวเห็นว่าส่วนที่จะนำมาแปลเผยแพร่ต่อไปนี้น่าสนใจ และน่านำไปปฏิบัติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับคนที่ได้รับการวินิจฉัยหรืออยู่ระหว่างรอวินิจฉัยว่าติดเชื้อโควิด-19 หรือไม่ค่ะ หวังว่าจะเป็นประโยชน์ต่อทุกท่านที่สนใจนะคะ

    บทความต้นฉบับ: Preventing COVID-19 from Spreading

    เขียนโดยศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค สหรัฐอเมริกา (CDC; Centers for Disease Control and Prevention)

    จาก: ว็บไซต์ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค สหรัฐอเมริกา

    อัพเดทล่าสุดเมื่อวันที่: 14 กุมภาพันธ์ 2563



    แนวปฏิบัติชั่วคราวฉบับนี้ถูกจัดทำขึ้น จากข้อมูลทางระบาดวิทยาเท่าที่เป็นที่ทราบในปัจจุบันของโรคไวรัสโควิด-19 ร่วมกับข้อมูลเรื่องการแพร่เชื้อของไวรัสก่อโรคในระบบทางเดินหายใจอื่นๆ CDC จะปรับปรุงแก้ไขแนวปฏิบัติชั่วคราวนี้เท่าที่เล็งเห็นความจำเป็น และเมื่อได้รับข้อมูลเพิ่มเติมต่อไป


    โคโรน่าไวรัส (Coronavirus) เป็นตระกูลไวรัสที่ประกอบไปด้วยสายพันธุ์ย่อยมากมาย บางสายพันธุ์ก่อให้เกิดโรคในมนุษย์ ในขณะที่บางสายพันธุ์สามารถอาศัยอยู่ในตัวสัตว์หลากหลายชนิด เช่น อูฐ แมว และค้างคาว ในบางกรณี เมื่อมนุษย์สัมผัสกับสัตว์ที่ติดเชื้อ โคโรน่าไวรัสก็สามารถแพร่พันธุ์จากสัตว์สู่มนุษย์ และจากมนุษย์สู่มนุษย์ด้วยกันเอง อย่างที่เคยเกิดขึ้นในกรณีของเชื้อเมอร์ส (MERS-CoV) และซาร์ส (SARS-CoV) คาดว่าอุบติการณ์ของโควิด-19 ที่เกิดจากเชื้อไวรัส SARS-CoV-2 ก็มีต้นเหตุมาจากกรณีนี้เช่นกัน การปฏิบัติตนตามแนวทางชั่วคราวฉบับนี้อาจช่วยป้องกันการแพร่ไวรัสสายพันธุ์นี้ไม่ให้ระบาดกระจายจากคนสู่คนในที่พักและชุมชนได้


    แนวปฏิบัติชั่วคราวนี้จัดทำขึ้นเพื่อบุคคลต่อไปนี้:


    • ผู้ที่ได้รับการยืนยันแล้วว่าติดเชื้อ COVID-19 หรือผู้ที่ต้องสงสัยว่าติดเชื้อ COVID-19 รวมถึงผู้ที่อยู่ในระหว่างการวินิจฉัยโรค ที่มีอาการไม่รุนแรง ได้รับการพิจารณาว่าไม่มีความจำเป็นต้องเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาล และสามารถพักรักษาตัวที่บ้านได้ (อ่านแนวทางปฏิบัติชั่วคราวสำหรับผู้ป่วย COVID-19 เพื่อพักรักษาตัวที่บ้านได้ ที่นี่ - ฉบับภาษาอังกฤษนะคะ)


    • ผู้ที่ได้รับการยืนยันแล้วว่าติดเชื้อ COVID-19 ที่เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลจนอาการบรรเทาลง และได้รับการพิจารณาแล้วว่าสามารถออกจากโรงพยาบาลไปพักรักษาตัวต่อที่บ้านได้


    • สมาชิกร่วมที่พักอาศัย บุคคลใกล้ชิด และผู้ให้การดูแลผู้ที่ได้รับการยืนยันแล้วว่าติดเชื้อ COVID-19 และมีอาการแสดง

  • แนวทางป้องกันโรค
    สำหรับ ผู้ที่ได้รับการยืนยันแล้วว่าติดเชื้อ COVID-19 หรือผู้ที่ต้องสงสัยว่าติดเชื้อ COVID-19 รวมถึงผู้ที่อยู่ในระหว่างการวินิจฉัยโรค ที่มีอาการไม่รุนแรง ได้รับการพิจารณาว่าไม่มีความจำเป็นต้องเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาล และสามารถพักรักษาตัวที่บ้านได้


    และ


    ผู้ที่ได้รับการยืนยันแล้วว่าติดเชื้อ COVID-19 ที่เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลจนอาการบรรเทาลง และได้รับการพิจารณาแล้วว่าสามารถออกจากโรงพยาบาลไปพักรักษาตัวต่อที่บ้านได้


    คุณจะได้รับคำพิจารณาจากบุคลากรทางการแพทย์ผู้ให้การรักษาคุณ ว่าคุณสามารถพักรักษาตัวที่บ้านของคุณได้หรือไม่ เมื่อคุณได้รับการพิจารณาแล้วว่าอาการทรงตัวพอที่จะพักรักษาตัวที่บ้านแล้ว คุณจะยังอยู่ภายใต้การเฝ้าสังเกตอาการจากผู้ให้บริการทางการแพทย์ประจำโรงพยาบาล หรือสถานบริการทางสุขภาพในชุมชนของคุณ CDC แนะนำให้คุณปฏิบัติตนตามแนวทางป้องกันโรคต่อไปนี้ จนกว่าผู้ให้บริการทางการแพทย์ประจำโรงพยาบาล หรือสถานบริการทางสุขภาพในชุมชนของคุณอนุญาตให้คุณกลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติก่อนติดเชื้อ:

    เก็บตัวไม่ออกจากที่พัก นอกจากจะต้องเดินทางไปเพื่อรับการรักษา 
    คุณไม่ควรประกอบกิจกรรมใดๆ นอกที่พัก ยกเว้นการเดินทางเพื่อไปรับการรักษา ไม่ควรไปทำงาน ไปโรงเรียน/สถานศึกษา หรือเข้าร่วมกิจกรรมใดในสถานที่สาธารณะ หลีกเลี่ยงการใช้ระบบคมนาคมสาธารณะ การใช้รถแท็กซี่ และการนั่งรถยนต์ร่วมกับผู้อื่น

    หลีกเลี่ยงการคลุกคลีกับสมาชิกและสัตว์เลี้ยงร่วมที่พักของคุณ

    • หลีกเลี่ยงสมาชิกร่วมบ้าน: คุณควรพักอาศัยในห้องแยกจากสมาชิกร่วมบ้านคนอื่นๆ หากเป็นไปได้ ควรใช้ห้องน้ำแยกจากผู้อื่นด้วย
    • หลีกเลี่ยงสัตว์: คุณควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสคลุกคลีกับสัตว์เลี้ยง รวมถึงสัตว์อื่นๆ ในบริเวณบ้านในระหว่างที่ติดเชื้อ COVID-19 เช่นเดียวกันกับการหลีกเลี่ยงผู้อื่น แม้จะยังไม่มีรายงานข้อมูลใดๆ บ่งชี้ว่าสัตว์เลี้ยงหรือสัตว์อื่นสามารถป่วยด้วยเชื้อ COVID-19 ก็ตาม (ปัจจุบันมีรายงานสัตว์เลี้ยงติดเชื้อแล้วค่ะ แต่ยังไม่มีรายงานว่าสามารถแพร่ให้เจ้าของหรือคนใกล้ชิดได้หรือไม่ แนวปฏิบัตินี้อักเดทล่าสุดเมื่อเกือบครึ่งเดือนที่แล้ว ข้อมูลส่วนนี้จึงอาจจะยังไม่ได้มีเพิ่มนะคะ) ผู้ติดเชื้อ COVID-19 ก็ควรงดสัมผัสคลุกคลีกับสัตว์จนกว่าจะมีรายงานข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับตัวไวรัส หากเป็นไปได้ ควรฝากฝังให้สมาชิกร่วมบ้านผู้อื่นดูแลสัตว์เลี้ยงแทนที่คุณในระหว่างนี้ กรุณาหลีกเลี่ยงการสัมผัสใดๆ ตั้งแต่การลูบ กอด ให้อาหารสัตว์เลี้ยง รวมถึงการให้สัตว์เลี้ยงเลีย ในกรณีที่คุณจำเป็นต้องดูแลหรือคลุกคลีกับสัตว์เลี้ยงอย่างเลี่ยงไม่ได้ ควรล้างมือก่อนและหลังการคลุกคลีกับสัตว์เลี้ยง และสวมหน้ากากอนามัย สามารถตรวจสอบข้อมูลว่าด้วยโรค COVID-19 กับสัตว์เพิ่มเติม ที่นี่ (ภาษาอังกฤษ)

    ติดต่อแพทย์ล่วงหน้าทุกการนัดหมาย 

    หากคุณมีนัดหมายตรวจสุขภาพ กรุณาติดต่อแพทย์หรือผู้ให้บริการทางสุขภาพของคุณล่วงหน้า และแจ้งให้พวกเขาทราบ ว่าคุณติดเชื้อ COVID-19 หรือสงสัยว่าตนกำลังติดเชื้อ COVID-19 การปฏิบัติตนเช่นนี้ จะช่วยให้ผู้บริการทางการแพทย์ดำเนินแผนการต่างๆเพื่อป้องกันบุคลากรทางการแพทย์และผู้เข้าใช้บริการคนอื่นจากการติดเชื้อได้

    สวมหน้ากากอนามัย 

    คุณควรสวมหน้ากากอนามัยเมื่ออยู่ในสถานการณ์ที่ต้องพบปะผู้อื่น (เช่น การใช้ห้องหรือรถยนต์ร่วมกัน) เข้าใกล้สัตว์เลี้ยง และเมื่อต้องเดินทางไปยังโรงพยาบาลหรือสถานบริการทางสุขภาพ ในกรณีที่คุณไม่สามารถสวมหน้ากากอนามัย (ด้วยเหตุผลบางประการ เช่น หน้ากากอนามัยทำให้คุณหายใจไม่สะดวก) สมาชิกร่วมที่พักหรือผู้ใกล้ชิดคุณไม่ควรใช้พักอาศัยหรือใช้ห้องพักร่วมกับคุณ หรือควรสวมหน้ากากอนามัยทุกครั้งที่จำเป็นต้องอยู่ในห้องร่วมกับคุณ 

    ปิดปากและจมูกเมื่อไอจาม

    กรุณาปิดปากและจมูกของคุณด้วยกระดาษทิชชู่ทุกครั้งที่ไอหรือจาม ทิ้งกระดาษทิชชู่ที่ให้แล้วลงถังขยะ และล้างมือของคุณทันทีด้วยสบู่และน้ำ โดยให้ใช้เวลาล้างนาน 20 วินาทีเป็นอย่างน้อย หรือทำความสะอาดมือของคุณ ด้วยน้ำยาล้างมือผสมแอลกอฮอล์เข้มข้น 60-95% ชะโลมน้ำยาให้ทั่วมือแล้วถูมือเข้าหากันจนกว่าคุณจะรู้สึกว่ามือแห้งดีแล้ว หากมือของคุณมีคราบสกปรกชัดเจน ควรล้างมือด้วยน้ำและสบู่แทนการใช้น้ำยาล้างมือ

    ทำความสะอาดมือเป็นประจำ

    ล้างมือสม่ำเสมอด้วยสบู่และน้ำ โดยให้ใช้เวลาล้างนาน 20 วินาทีเป็นอย่างน้อย หรือทำความสะอาดมือของคุณ ด้วยน้ำยาล้างมือผสมแอลกอฮอล์เข้มข้น 60-95% ชะโลมน้ำยาให้ทั่วมือแล้วถูมือเข้าหากันจนกว่าคุณจะรู้สึกว่ามือแห้งดีแล้ว หากมือของคุณมีคราบสกปรกชัดเจน ควรล้างมือด้วยน้ำและสบู่แทนการใช้น้ำยาล้างมือ หลีกเลี่ยงการสัมผัสตา จมูก และปากตัวเองก่อนการล้างมือ

    หลีกเลี่ยงการใช้สิ่งของร่วมกัน

    คุณไม่ควรใช้จาน แก้วน้ำ ถ้วย อุปกรณ์การกิน ผ้าเช็ดตัว หรือที่นอนร่วมกับผู้อื่นและสัตว์เลี้ยงในบ้านของคุณ และควรทำความสะอาดเครื่องใช้เหล่านี้ด้วยน้ำและสบู่ให้สะอาดหลังใช้

     

     

    ทำความสะอาดพื้นผิวสิ่งของที่จับต้องเป็นประจำทุกวัน

    พื้นผิวสิ่งของที่จับต้องเป็นประจำ ในที่นี้ มีความหมายไปถึงโต๊ะ ลูกบิดประตู สุขภัณฑ์ (อ่างล้างหน้า อ่างอาบน้ำ ชักโครก ฯลฯ) โทรศัพท์ แป้นพิมพ์คอมพิวเตอร์ แท็บเล็ต และโต๊ะข้างเตียง นอกจากนี้ ควรทำเช็ดทำความสำอาดทุกพื้นผิวที่อาจเปื้อนคราบเลือด อุจจาระ หรือสารคัดหลั่งใดๆ ด้วยสเปรย์หรือน้ำยาทำความสะอาดตามขั้นตอนและปริมาณที่ระบุของแต่ะผลิตภัณฑ์ หากสารทำความสะอาดที่ใช้ระบุให้ปฏิบัติตนป้องกันตัวเป็นพิเศษ เช่น ควรสวมถุงมือก่อนใช้ หรือ ควรใช้ในสถานที่ที่มีอากาศถ่ายเท ควรปฏิบัติตามแนวทางป้องกันเหล่านั้นด้วย

     

     

    เฝ้าสังเกตอาการตนเอง

    ติดต่อแพทย์ทันทีหากอาการป่วยของคุณรุนแรงขึ้น (เช่น หายใจไม่สะดวกมากขึ้น) ให้ข้อมูลกับแพทย์ล่วงหน้าเสมอ ว่าคุณติดเชื้อหรือต้องสงสัยว่าติดเชื้อ COVID-19 และสวมหน้ากากอนามัยทุกครั้งก่อนเข้าไปยังสถานบริการทางสุขภาพ การปฏิบัติตนเช่นนี้ จะช่วยให้ผู้บริการทางการแพทย์ดำเนินแผนการต่างๆ เพื่อป้องกันบุคลากรทางการแพทย์และผู้เข้าใช้บริการคนอื่นจากการติดเชื้อได้ ขอความร่วมมือให้ผู้ให้การรักษาของคุณติดต่อหน่วยงานสาธารณสุขระดับชุมชนหรือรัฐ ผู้ที่อยู่ระหว่างการสังเกตอาการโดยบุคลากรทางการแพทย์หรือเฝ้าระวังอาการด้วยตนเองควรปฏิบัติตัวตามคำแนะนำของหน่วยงานสาธารณสุขระดับชุมชน/รัฐ หรือบุคลากรทางการแพทย์ผู้เชี่ยวชาญตามความเหมาะสม

    หากคุณมีความจำเป็นต้องติดต่อแพทย์โดยฉุกเฉินหรือใช้บริการสายด่วนทางสุขภาพใดๆ กรุณาแจ้งให้เจ้าหน้าที่ปลายสายทราบเสมอว่าคุณติดเชื้อหรือต้องสงสัยว่าติดเชื้อ COVID-19 และสวมหน้ากากอนามัย (หากทำได้) ขณะรอเจ้าหน้าที่มาถึง

     

    ข้อพิจารณาสำหรับการเลิกกักตัว

    ผู้ป่วย COVID-19 ควรกักตัวในที่พักไปจนกว่าตนจะมีความเสี่ยงต่อการแพร่กระจายเชื้อสู่ผู้อื่นในระดับต่ำ ผู้ป่วยควรได้รับคำปรึกษาจากผู้ให้บริการทางการแพทย์ ตลอดจนถึงหน่วยงานสาธารณสุขระดับชุมชนและรัฐ เพื่อตัดสินว่าตนควรเลิกกักตัวป้องกันการแพร่โรคหรือไม่ โดยจะต้องทำการพิจารณาเป็นรายกรณี

  • แนวทางป้องกันตนจากโรค

    สำหรับสมาชิกร่วมที่พักอาศัย บุคคลใกล้ชิด และผู้ให้การดูแลนอกสถานพยาบาลของ

    ผู้ที่ได้รับการยืนยันแล้วว่าติดเชื้อ COVID-19 จากผลทางห้องปฏิบัติการ และแสดงอาการของโรค

    หรือ

    ผู้ที่อยู่ในระหว่างการวินิจฉัย และต้องสงสัยว่าติดเชื้อ COVID-19

     

    สมาชิกร่วมที่พักอาศัย บุคคลใกล้ชิด* และผู้ให้การดูแลนอกสถานพยาบาล ที่มีความจำเป็นต้องติดต่อคลุกคลีกับผู้ป่วย COVID-19 ที่ได้รับผลทางห้องปฏิบัติการยืนยันการติดเชื้อแล้วและแสดงอาการ จะต้องสังเกตอาการของตนเองเช่นเดียวกับผู้ป่วย หากพบว่าตนเริ่มมีอาการต้องสงสัยติดเชื้อ COVID-19 (เช่น มีไข้ ไอ หายใจไม่สะดวก) ควรติดต่อผู้ให้บริการทางสุขภาพทันที (อ่านแนวปฏิบัติชั่วคราวสำหรับการประเมินความเสี่ยงและดำเนินการทางสาธารณสุขกับผู้มีความเสี่ยงติดเชื้อโคโรน่าไวรัสสายพันธุ์ 2019 (COVID) ระหว่างการท่องเที่ยวหรือในที่ชุมชนของสหรัฐอเมริกาได้ ที่นี่ (ภาษาอังกฤษ))

     

    ผู้ใกล้ชิดผู้ป่วย (หรือผู้ต้องสงสัยว่าจะป่วย) ควรปฏบัติตามคำแนะนำต่อไปนี้:

    • ทำความเข้าใจคำแนะนำในการปฏิบัติตนสำหรับผู้ป่วยจากแพทย์ และช่วยให้ผู้ป่วยที่คุณใกล้ชิดด้วยปฏิบัติตามคำแนะนำเหล่านั้น คุณควรช่วยเหลือผู้ป่วยให้สามารถปฏิบัติกิจกรรมพื้นฐานในการดำเนินชีวิตที่บ้านได้ และให้ความช่วยเหลือในกิจวัตรต่างๆ เช่น ช่วยออกไปซื้ออาหารและเครื่องใช้ จัดซื้อยาและอุปกรณ์ดูแลสุขภาพ รวมถึงความต้องการส่วนตัวอื่นๆ ของผู้ป่วย


    • เฝ้าสังเกตอาการของผู้ป่วย หากอาการของผู้ป่วยทรุดหนักลง ควรติดต่อแพทย์หรอผู้ให้การรักษาของเขา และแจ้งให้เจ้าหน้าที่ทราบว่าผู้ป่วยติดเชื้อ COVID-19 โดยได้รับการยืนยันการวินิจฉัยโรคจากผลตรวจทางห้องปฏิบัติการแล้ว การปฏิบัติตนเช่นนี้ จะช่วยให้ผู้บริการทางการแพทย์ดำเนินแผนการต่างๆ เพื่อป้องกันบุคลากรทางการแพทย์และผู้เข้าใช้บริการคนอื่นจากการติดเชื้อได้ ขอความร่วมมือให้ผู้ให้การรักษาของคุณติดต่อหน่วยงานสาธารณสุขระดับชุมชนหรือรัฐ หากคุณมีความจำเป็นต้องติดต่อแพทย์โดยฉุกเฉินหรือใช้บริการสายด่วนทางสุขภาพใดๆ กรุณาแจ้งให้เจ้าหน้าที่ปลายสายทราบเสมอ ว่าผู้ป่วยติกเชื้อ COVID-19 หรือกำลังอยู่ในระหว่างการวินิจฉัยโรค COVID-19


    • สมาชิกร่วมที่พักอาศัยไม่ควรพำนักอยู่ในห้องเดียวกันกับผู้ป่วย ควรอาศัยในอีกห้องแยกจากกัน และหากเป็นไปได้ ควรใช้ห้องน้ำและห้องนอนแยกจากผู้ป่วยด้วย


    • ไม่ควรอนุญาตให้ผู้อื่นมาเยี่ยมผู้ป่วยที่บ้าน หรือมาประกอบธุระที่บ้านโดยไม่จำเป็น


    • สมาชิกร่วมที่พักอาศัยควรให้การดูแลสัตว์เลี้ยงในบ้าน ไม่ควรดูและสัตว์เลี้ยงหรือสัตว์อื่นในบ้านหากกำลังไม่สบาย


    • จัดสภาพบ้านให้บริเวณห้องที่ใช้ร่วมกันในบ้าน (เช่น ห้องนั่งเล่น ห้องครัว) มีอากาศถ่ายเท ด้วยการใช้เครื่องกรองอากาศ หรือเปิดหน้าต่างเมื่อสภาพอากาศอำนวย


    • ทำความสะอาดมือตนเองเป็นประจำ ล้างมือสม่ำเสมอด้วยสบู่และน้ำ โดยให้ใช้เวลาล้างนาน 20 วินาทีเป็นอย่างน้อย หรือทำความสะอาดมือของคุณ ด้วยน้ำยาล้างมือผสมแอลกอฮอล์เข้มข้น 60-95% ชะโลมน้ำยาให้ทั่วมือแล้วถูมือเข้าหากันจนกว่าคุณจะรู้สึกว่ามือแห้งดีแล้ว หากมือของคุณมีคราบสกปรกชัดเจน ควรล้างมือด้วยน้ำและสบู่แทนการใช้น้ำยาล้างมือ


    • หลีกเลี่ยงการสัมผัสตา จมูก และปากตัวเองก่อนการล้างมือ


    • คุณและผู้ป่วยควรสวมหน้ากากอนามัยทุกครั้งที่อยู่ในห้องร่วมกัน


    • ส่วมหน้ากากอนามัยและถุงมือแบบใช้แล้วทิ้งเมื่อต้องสัมผัสกับเลือด อุจจาระ หรือสารคัดหลั่งอื่นๆ ของผู้ป่วย เช่น น้ำลาย เสมหะ น้ำมูก อาเจียน และปัสสาวะ 


    • ทิ้งหน้ากากอนามัยและถุงมือหลังใช้ทุกครั้ง ไม่ใช้ซ้ำ


    • ขั้นตอนการถอดอุปกรณ์ป้องกันตัวหลังสัมผัสคลุกคลีกับผู้ป่วย: 1.) ถอดและทิ้งถุงมือก่อน 2.) ล้างมือด้วยสบู่และน้ำหรือน้ำยาล้างมือผสมแอลกอฮอล์ทันที 3.) ถอดและทิ้งหน้ากากอนามัย 4.) ล้างมืออีกครั้งทันที ด้วยสบู่และน้ำหรือน้ำยาล้างมือผสมแอลกอฮอล์


    • หลีกเลี่ยงการใช้สิ่งของร่วมกันกับผู้ป่วย คุณไม่ควรใช้จาน แก้วน้ำ ถ้วยชาม อุปกรณ์การกิน ผ้าเช็ดตัว เครื่องนอน ตลอดจนถึงเครื่องใช้อื่นใดร่วมกับผู้ป่วย ทำความสะอาดเครื่องใช้ให้สะอาดทุกครั้งหลังจากผู้ป่วยใช้จนเสร็จ (อ่าน การซักผ้าให้สะอาด ประกอบด้านล่าง)


    • ทำความสะอาดพื้นผิวสิ่งของที่จับต้องเป็นประจำ ในที่นี้ มีความหมายไปถึงโต๊ะ ลูกบิดประตู สุขภัณฑ์ (อ่างล้างหน้า อ่างอาบน้ำ ชักโครก ฯลฯ) โทรศัพท์ แป้นพิมพ์คอมพิวเตอร์ แท็บเล็ต และโต๊ะข้างเตียง นอกจากนี้ ควรทำเช็ดทำความสำอาดทุกพื้นผิวที่อาจเปื้อนคราบเลือด อุจจาระ หรือสารคัดหลั่งใดๆ ด้วยสเปรย์หรือน้ำยาทำความสะอาดตามขั้นตอนและปริมาณที่ระบุของแต่ะผลิตภัณฑ์ หากสารทำความสะอาดที่ใช้ระบุให้ปฏิบัติตนป้องกันตัวเป็นพิเศษ เช่น ควรสวมถุงมือก่อนใช้ หรือ ควรใช้ในสถานที่ที่มีอากาศถ่ายเท ควรปฏิบัติตามแนวทางป้องกันเหล่านั้นด้วย


    • การซักผ้าให้สะอาด: 1.) ถอดชิ้นผ้าที่เปื้อนเลือด อุจจาระ หรือสารคัดหลั่ง ออกจากเครื่องนอนหรือเครื่องใช้ทันที 2.) สวมถุงมือแบบใช้แล้วทิ้งขณะหยิบจับผ้าและสิ่งของที่เปื้อนสารคัดหลั่ง โดยพยายามอย่านำสิ่งของเหล่านั้นเข้ามาใกล้ตัว ล้างมือ (ด้วยน้ำและสบู่ หรือน้ำยาล้างมือผสมแอลกอฮอล์) ทันทีหลังถอดถุงมือ 3.) อ่านและปฏิบัติตามข้อแนะนำการใช้ผลิตภัณฑ์ซักผ้าตามที่ระบุบนฉลาก โดยทั่วไป สามารถใช้ผลิตภัณฑ์ซักผ้าทั่วไปตามปริมาณและขั้นตอนสำหรับการใช้ในเครื่องซักผ้าได้ และตาก/อบผ้าให้แห้งด้วยอุณหภูมิสูงสุดตามคำแนะนำจากฉลากของผ้าแต่ละชิ้น


    • ทิ้งถุงมือ หน้ากากอนามัย และอุปกรณ์ปนเปื้อนสารคัดหลั่งอื่นๆ ลงในภาชนะบุด้วยถุงขยะรองรับและมีฝาปิดก่อนนำไปกำจัดพร้อมขยะประเภทอื่นในบ้าน ล้างมือ (ด้วยน้ำและสบู่ หรือน้ำยาล้างมือผสมแอลกอฮอล์) ทันทีหลังจัดการกับขยะเสร็จ หากมือของคุณมีคราบสกปรกชัดเจน ควรล้างมือด้วยน้ำและสบู่แทนการใช้น้ำยาล้างมือ


    • ขอคำปรึกษาเพิ่มเติม จากผู้ให้บริการทางสุขภาพและเจ้าหน้าที่สถานบริการทางสุขภาพในชุมชนและรัฐของคุณ

     

    หมายเหตุ

    บุคคลผู้ใกล้ชิด หมายถึง

    a.) บุคคลใดๆ ที่อยู่ใกล้กับผู้ป่วยในรัศมี 2 เมตรโดยประมาณเป็นเวลานานในสถานการณ์ต่างๆ เช่น การเข้าให้การดูแลผู้ป่วย การอาศัยใต้ชายคาเดียวกัน การเยี่ยมเยียน หรือการอยู่ในห้องรอเข้ารับการตรวจโรคในห้องพยาบาล

    -หรือ-

    b.) บุคคลใดๆ ที่สัมผัสกับสารคัดหลั่งของผู้ป่วยโดยตรง (เช่น ถูกผู้ป่วยไอหรือจามใส่)


Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in