เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
ครั้งแรก เหมือนเขาบ้างNarut Sirithip
ออนเซ็น ครั้งแรกๆ
  •     ก็แช่น้ำพุร้อนนั่นแหละครับ แต่ถ้าเรียกออนเซ็นมันเหมือนจะดูดีขึ้นมาอีกหน่อย ถ้านับครั้งแรกจริงๆก็เด็กเลยครับจำได้ว่าที่เชียงใหม่ จำไม่ค่อยได้รู้แต่ว่ามีลวกไข่ ส่วนถ้าจะแช่ก็จะมีห้องแต่นั้นจำได้ว่าแยกห้องกัน หรือจริงๆก็ลงทั้งกางเกงก็ไม่ได้แปลกอะไรครับ แต่ไม่ใช่สำหรับ ออนเซ็น หลังจากนั้น ที่จะพูดถึง 

      ครั้งแรกของผมจริงๆอยู่ที่เกาหลีใต้ คือไม่ได้มีแต่ที่ญี่ปุ่นนะครับ และอีกสองครั้งล่าสุดหน่อยก็ค่อยเป็นที่ญี่ปุ่น ก็คือไปเที่ยวครั้งหนึ่งโรงแรมไหนมีก็ต้องลงซะหน่อยครับ เพราะไกด์มันก็จะยุทุกครั้งทุกทัวร์ ถ้าไม่ลงก็เหมือนมาไม่ถึง อะไรของมันก็ว่าไป แต่ก็ฟังๆไว้ครับ จะได้รู้ข้อปฏิบัติเคร่าๆเพื่อป้องกันการเงิบของคนไม่เคยเช่นคนเมืองร้อนอย่างบ้านเรา(ปกติแม่มก็ร้อนตาย...อยู่ละ ใครจะยังไปแช่น้ำร้อนอีกวะ) 

     

       สิ่งที่เน้นย้ำเรื่องต้นๆก็คือถอดครับ ถอดให้หมด ไม่ต้องเหลือสิ่งที่จะมาปิดบังอะไรไว้  แต่ครับ ยังโชคดีที่เราจะได้ผ้าอยู่ผืนหนึ่งติดตัวเข้าไปได้ (ซึ่งเราจะมารู้กันหน้างานว่าผืนที่มันให้เอาเข้าได้ เรียกได้ว่าผ้าเช็ดหน้าดีๆนี่เอง ซึ่งถึงจะพยายามปิดก็ไม่มิดหรอกครับ /อันนี้ไม่ได้อวดอะไรนะ/ คือมันไม่น่าจะปิดอะไรได้มิด แม้ใครจะเลือกเอาไปปิดหน้าก็ตาม แต่ถ้าปิดตานั้นพอได้ครับ)

     

       อ้อ เอาสาระส่วนหนึ่งที่จำได้ ไกด์เล่าว่าการออนเซ็น ที่ต้องถอดให้หมดไม่ใช่แค่ป้องกันสิ่งสกปรกอะไรแค่นั้นครับ แต่ยังเป็นกุศโลบายที่ว่า ยศ อำนาจ งาน หรือตัวตนต่างๆที่ผูกติดมากับเครื่องแต่งกาย จะถูกถอดทิ้งไว้ข้างนอก ทุกคนที่เข้ามาจะมีแต่เพียงร่างกายของตนอย่างเท่าเทียม(ซึ่งจริงๆก็ไม่น่าเท่าอยู่ดี ... ผมๆ หมายถึง ผม) ก็ประมาณว่าทิ้งภาระงานอะไรออกไปให้หมดมั้งครับ เพราะญี่ปุ่น เขาจริงจังงานเป็นงาน พอปล่อยวาง พักผ่อน ก็คงอยากจะให้วางจริงๆมั้งครับเดาเอา (แต่ไม่รู้ว่าเกงในมันเกี่ยวอะไร ถึงจะต้องวางทิ้งไว้ด้วย)   

     

         ถึงเวลาจริงครับ พอเข้าโรงแรมปึบทานอาหารเย็น พักซักนิด ก็ถึงเวลาลงไปแช่ครับ จะไม่มีนัดอะไรกันหรอกครับเพราะไปกับทัวร์ก็ไม่ได้รู้จักมากมายถึงขนาดชวนกันไปแก้ผ้าแช่น้ำขนาดนั้น  ก็ไปครับเอาผ้าเช็ดตัวติดไปจากห้องด้วยผืนหนึ่ง(ผืนใหญ่) ถึงปึบ แม้จะฟังๆมาแล้วแต่ก็ยืน งงๆ ครับ เห้ยถอดหมดที่ว่านี่แม่มหมดจริงป่ะวะ จนเห็นคุณปู่คนหนึ่งเดินไปกับหลาน โอเค! ไกด์ไม่ได้อำ เอาวะ! ฟึบ เราจะทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น แม้เจอคนจากคณะทัวร์เดียวกันซึ่งเข้ามาก่อนแล้วหรือตามมาทีหลังก็ตามที อ้อ อย่าลืมหยิบผ้าผืนที่น่อยๆนั้นติดตัวไปด้วยครับ เพราะเป็นสิ่งเดียวนอกจากร่างกาย ที่จะนำติดตัวเข้าไปได้ 

     

            มาถึงก็มีที่ให้ล้างตัวครับ จะมีเก้าอี้เตี้ยๆให้นั่ง กาละมังไม้ใบหนึ่ง ฝักบัว ก็ล้างๆไป เมื่อเรียบร้อยแล้วก็ลงแช่ (ตอนนี้ความอายจะเริ่มลดลงไปละครับ เพราะคงจะเริ่มชิน รู้สึกกลมกลืน) เหือกกก!! น้ำแม่ม ร้อนเอี้ยๆเลยครับ ไม่ใช่น้ำอุ่นนี่ร้อนเลย ต้องค่อยๆลง งั้นไม่ไหวจริง กว่าจะลงได้จนทั้งตัวใช้เวลาอยู่ครับ(แต่ก็เคยเห็นแบบโปรๆมาถึงปึบลงชิวๆก็มี)

          แช่ไปครับซักพักมันจะรู้สึกสบายๆ เอาผ้าขุนหนูเล็กๆจุ่มน้ำเช็ดๆหน้า(ไม่นิยมดำน้ำลงไปนะครับ ยังไม่เห็นใครเขาทำ) เอามาไว้บนหัวบ้าง โอะ! แต่แบบ สบายจริงๆครับ แต่สบายที่ว่า ก็อยู่ได้ไม่นานครับ หน้ามันเริ่มแดงๆเลือดลมเดินดีไปซักพักมันเหมือนจะวูบๆ ก็จะพอรู้ตัวเองครับก็ลุกออกมา แล้วค่อยไปแช่ต่อหรือ จะพอก็แล้วแต่สะดวก จริงๆมันมีซาวนาในตัวด้วยสำหรับบางที่ แต่ไม่ไหวครับเปิดเข้าไปก็หายใจไม่ออกแล้ว  

     

          เสร็จจากแช่เราก็จะมาที่จุดล้างตัวเหมือนเดิมครับเพื่อปิดรูขุมขน(ไกด์บอก) เก็บแร่ธาตุไว้ภายใต้ผิวหนัง(ไกด์ย้ำ) แต่ไม่ใช่ลุกมาร้อนๆ ลาดน้ำเย็นพั๊วเลยนะครับ ดูมันน่าจะวูบก่อนกระชับ เคยไปที่หนึ่งมันจะมีน้ำแต่ละอุณภูมิให้ คงไว้ให้เราค่อยๆปรับ แต่ถึงมีอ่างเดียวก็ไม่มีปัญหาครับ

     

       อ้อ จากประสบการณ์สิ่งเดียวที่ไม่อยากเจอตอนออนเซ็น คือ เด็กวัยจำไมผู้เริ่มสงสัยช่างซังถาม โดยเฉพาะเวลามันถามเรื่องส่วนตัวตามร่างกายนี่ =.= น้องไปถาม พ่อ!! เถอะครับเหมือนกัน    

          พอล้างตัวเสร็จก็ออกมาครับเช็ดเนื้อเช็ดตัว ก็จะมีกระจกใบใหญ่ๆ ผ้าห่มนี่ก็ที่เอาไปจากห้องพัก เหมือนเคยไปที่หนึ่งแล้วเขาไม่มีให้ต้องเอาลงมาจากห้องเองเท่านั้น ไม่มีห้องให้ไปเปลี่ยนชุดครับเช็ดกันหน้ากระจกนั่นแหละ มีคัตเติลบัด หวี ไดร์เป่า (ซึ่งเราก็ควรจะใช้เป่าด้วยสำนึกในใจว่าเป็นของใช้สาธารณธใช้ในที่ที่ถูก ที่ควร) แต่งตัวออกมาเป็นอันเสร็จ

          โหยย สบายตัวมากก ถึงมากที่สุด (ตอนนั้นไปอากาศมันค่อนข้างหนาวทีเดียว) คือรับรองว่าถ้าได้ไปอีกยังไงก็ต้องไปแช่ให้ได้ ในที่ที่ไปเขามีไอติมรสผลไม้ให้ทานด้วยครับ ยิ่งฟิน ส่วนน้ำจะกินหยอดเหรียญเลือกกดเอา ชอบ คาลพิส เป็นการส่วนตัว แต่บางอารมณ์ ยาคูลก็โอเค (เหมือนที่ไปเจอยาคูลเขาขวดจะออกไปทางสีส้มๆแต่รสเหมือนกัน)((อยากบอก))  

       อ้อที่เล่ามานี้ แยกหญิงชายครับ แล้วนี่ก็ที่โรงแรมไม่ใช่ outdoor กลางหิมะท่ามกลางป่าเขาแบบในการ์ตูนที่จะมีเพียงไม้ไผ่สูงๆกั้นด้วย (เห็นว่าแบบ outdoor แพงกว่าด้วย ไม่รู้จริงรึป่าว) แบบไม่แยกอันนี้ไม่มีข้อมูลครับ      

     

    คือภาพนี่ไม่ใช่อย่างที่ไปเลยครับ ตรงที่เคยไปนี่ในโรงแรมภาพมันดูไม่ได้ฟิว(จาก google)

    มีโอกาสได้ไปแล้วก็ต้องไปลองนะครับ สบายจริงๆ ONSEN...

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in