เรื่องย่อหลังปก ในยุคที่ผ้าไหมมีค่ามากกว่าทอง
ใครมีความสามารถในการผสมสีและทอผ้า
คือบุคคลที่ใต้หล้าช่วงชิงกันมากที่สุด!
ทว่าน่าเสียดาย...
เด็กสาวที่เติบโตมาพร้อมกับอัจฉริยะภาพด้านการผสมสีอย่าง ‘จี้อิงอิง'
กลับไม่ได้รับโอกาสได้ต่อยอดสิ่งที่นับเป็นพรสวรรค์อันล้ำเลิศของตน
นางเป็นบุตรสาวของโรงย้อมผ้าเล็กๆที่แสนจะเคร่งครัดในระเบียบประเพณี
โรงย้อมผ้าที่สืบทอดสูตรลับของผ้าไหมหายากสีหนึ่งมานานนับร้อยปี
จากรุ่นสู่รุ่น จากบุตรชายสู่บุตรชาย...
กฏของบ้านมีอยู่ว่า สูตรลับร้อยปีนี้จะสืบทอดเฉพาะทายาทชายเท่านั้น
มิยอมให้ตกแก่บุตรสาว เพราะบุตรสาวเป็นเพียงคนนอกที่วันหนึ่งต้องแต่งออก
สูตรลับร้อยปีนี้สามารถส่งต่อไปยังสะใภ้ได้แต่ไม่อาจถ่ายทอดให้แก่ลูกเขย
เพราะลูกเขยเป็นเพียงคนนอกที่ถูกแต่งเข้า
ดังนั้น นางจึงถูกห้ามเรียนรู้ รับรู้ หรือแม้กระทั่งก้าวเท้าเข้าไปในโรงทอผ้า
ของตระกูลตัวเอง!
แต่ชะตาของคนเรา ฟ้าลิขิตเอาไว้แล้ว... เพชรก็คือเพชร
ต่อให้เอาโคลนทั้งหีบมาสาดใส่ ก็ยังเปล่งประกายเจิดจ้าอยู่วันยังค่ำ
ใต้หล้านี้จะหาใครมากลบรัศมีของเพชรแท้ได้หรอกหรือ?
คุยกันหลังอ่าน (สปอยล์)
เรื่องนี้ 4 เล่มจบ รวมทุกเล่มก็น่าจะประมาณเกือบๆสองพันหน้าได้ เล่มนึงก็หนาทีเดียวค่ะ
เป็นผลงานอีกเรื่องของจวงจวง เรื่องนี้เป็นเรื่องของการทอผ้าไหมในราชวงศ์ถังค่ะ ก็เป็นเรื่องของตระกูลทอผ้า กับ การประกวดราชาผ้าไหม แล้วก็การสงครามข้ามแคว้นที่ก็ยังคงเกี่ยวกับการทอผ้าอยู่ดี
นางเอกของเรื่องนี้คือ จี้อิงอิง บุตรสาวคนเล็กของสกุลจี้ ที่ไม่ได้รับการสืบทอดวิชาของตระกูลแต่ก็ยังมีพรสวรรค์อัจฉริยะของตนเอง
เรื่องนี้มีผู้ชายหลายคนเหมือนเดิมค่ะ 555555 เรียงตามลำดับของคนที่เข้ามาในชีวิตนางเอก
1. จ้าวซิวหยวน : เป็นเหมือนรักแรก childhood sweetheart เหมยเขียวม้าไม้ไผ่ เติบโตมาด้วยกัน รักกันตั้งแต่อายุสิบกว่าขวบ ปักใจกันมานาน แต่ครอบครัวสกุลจ้าวไม่เห็นด้วยที่จะให้ลูกชายแต่งงานกับลูกสาวโรงย้อมผ้าคนนึง ก็เลยบังคับบุตรชายให้แต่งงานกับสตรีครอบครัวแม่ทัพ เพื่อช่วยค้ำจุนตระกูล ชิงตำแหน่งราชาผ้าไหมมาได้ ในบรรดาผู้ชายทุกคนจ้าวซิวหยวนเป็นผู้ชายที่น่าสมเพชที่สุด มีความรักแต่ไม่รักษาเอาไว้ให้ดี ...แล้วก็เหมือนกับว่าความรักของทั้งคู่เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่ทั้งสองคนยังไร้เดียงสาไปนิดนึงละมั้งคะ สุดท้ายจ้าวซิวหยวนก็ลืมจี้อิงอิงไม่ลง แต่ก็ยังคงดันทุรังเอาชนะนางอยู่อย่างนั้น จนสุดท้ายก็เลยพบกับจุดจบที่ไม่ดี
2. หยางจิ้งยวน : คุณชายสามสกุลหยาง ตระกูลอดีตราชาผ้าไหม เป็นลูกชายอนุคนหนึ่ง ถูกเลี้ยงมาแบบไม่ให้ใส่ใจการงานในบ้าน เป็นการกีดกันไม่ให้มีส่วนได้ส่วนเสียกับอำนาจในตระกูลอยู่กลายๆ คือ เป็นพระเอกที่ค่อนข้างน่าหงุดหงิดเอามาก จริงๆนางเอกก็น่าหงุดหงิดไม่แพ้กัน พอคนน่าหงุดหงิดสองคนมาเจอกัน ก็กลายเป็นความน่าหงุดหงิดแบบคอมโบ ความไม่เข้าใจ ความเข้าใจผิดซ้ำแล้วซ้ำแล้ว ซ้ำๆซากๆ ที่ไม่รู้จะเข้าใจผิดกันซ้ำๆไปอีกกี่หน ไม่ว่ากี่ครั้งก็ไม่เคยเชื่อใจกันเลย ไม่เคยพูดออกมาเลยสักครั้ง ทุกครั้งก็คิดเองเออเองกันทั้งคู่ ทำให้คนอ่านอย่างเราหงุดหงิดมากทีเดียวค่ะ แต่ถึงอย่างนั้นทั้งคู่ก็ยังมีความรักที่มั่นคงต่อกันดี
ชอบปมของหยางจิ้งยวน ปมความเป็นลูกอนุ ความรู้ความของการอยู่ในสกุลใหญ่ ชอบดราม่าตอนช่วงอนุหลิ่วตายค่ะ
3. เฉิงฟงเจื๋อ : มาถึงคนที่เราประทับใจที่สุดในเรื่อง แล้วเราก็รับรู้ได้ว่า คนเขียนก็ต้องรักตัวละครตัวนี้มากๆเหมือนกัน เพราะว่าตัวละครที่มีสีสันมาก ทำเลวมาก็มาก ทำเรื่องไม่น่าให้อภัย บีบคั้นคนมาก็เยอะ สร้างภัยให้บ้านนางเอกแบบที่ดันไปจนสุดทางแต่ก็ดันเหลือทางถอยไว้ให้สายหนึ่ง แบบว่าเค้าทำให้เรารู้สึกว่าตัวละครนี้ขัดแย้งมาก มีเสน่ห์มาก เป็นตัวละครที่แบบว่ารักใครไม่เป็น แล้วก็ดูเงอะๆงะๆในความรัก มีศักดิ์ศรีความเย่อหยิ่งค้ำคอจนทำให้พูดไม่ออก มีสถานะของตนเองที่สลัดไม่หลุด แต่ก็ยอมลงให้ผู้หญิงคนนึงเรื่อยๆแบบที่ตัวเองก็โมโหเหมือนกัน สุดท้ายยังเป็นคนส่งนางเอกออกมากับมือ แบบว่าช่วยเหลือนางเอกซ้ำแล้วซ้ำเล่า แบบที่ไม่ต้องรอให้นางเอกเสนออะไรให้ก่อน สุดท้ายก็เลยฝากร่องรอยเอาไว้ในหัวใจนางจนได้ เรารู้สึกว่าเป็นตอนจบที่ประทับใจมากสำหรับตัวละครนี้ค่ะ
ในส่วนของการดำเนินเรื่อง โอเค...จริงๆเราคิดว่าตัวเองอาจจะไม่ควรอ่านชุดนี้แต่แรก เพราะเราเองก็ไม่ได้ชอบงานจวงจวง สวรรค์ลิขิตรักก็ไม่แย่ ม่านม่านก็ไม่ได้แย่ แต่ทั้งคู่ก็คือไม่ได้อยู่ในลิสต์ที่ถือว่าชอบเท่าไหร่
เรื่องนี้ดำเนินเรื่องไปแบบค่อนข้างช้า แต่มันก็ไม่ได้ไม่สนุกนะ แต่คนที่นิยมความเร็วหน่อยอาจจะไม่ชอบกับความช้าแบบนี้ โดยเฉพาะเมื่อบวกกับความงี่เง่า ดื้อดึง ทิฐิของพระนางมันก็ยิ่งเสริมความหงุดหงิดเข้าไปใหญ่ 55555 อย่างที่เราบอกไปตอนต้น ตัวละครเดียวที่เราชอบในเรื่องก็คือป๋ายอ๋อง เฉิงฟงเจื๋อ นอกนั้นก็ไม่ได้ชอบใครเป็นพิเศษอีกแล้วล่ะ
ก็สรุปว่าอ่านได้เรื่อยๆค่ะะ
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in