เรื่องย่อหลังปก
ในสังคมจีน
คำว่า 'อีปู้เติงเทียน' หรือ 'ก้าวเดียวขึ้นสวรรค์' เป็นสิ่งที่หญิงสาวใฝ่ฝันกันมาก แล้วทำอย่างไรจึงจะขึ้นสวรรค์ได้ในก้าวเดียวเล่า?
ก็ต้องหาสามีดีๆ น่ะสิ!
เพื่อที่จะแต่งงานกับผู้ชายที่ดีพร้อม 'หลิ่วอวี้หรู' ใช้เวลาสิบห้าปีในการฝึกฝนตัวเองให้เป็นสตรีที่เพียบพร้อมอ่อนหวาน ฉลาด และช่างเอาอกเอาใจ
แต่ฝันหวานสิบห้าปีของนางกลับพังทลายลง
เมื่อสุดท้ายโชคไม่เข้าข้างทำให้นางต้องแต่งกับจอมเสเพล 'กู้จิ่วซื้อ'
เจ้าลูกเหง่พ่อแม่ไม่สั่งสอนที่วันๆ เอาแต่เที่ยวเตร่สำมะเลเทเมา เก่งสุดคือหาเรื่องใช้เงิน
จาก 'ก้าวเดียวขึ้นสวรรค์' กลายเป็น 'ก้าวเดียวลงนรก' นางควรทำอย่างไรต่อดี?
อ่อนแอก็แพ้ไปอย่างนั้นรึ!
ไม่...คนอย่างหลิ่วอวี้หรูไม่เคยพ่ายแพ้ให้กับโชคชะตา
ในเมื่อนางใช้เวลาสิบห้าปีในการฝึกฝนตัวเอง จะขอใช้เวลาห้าสิบปีที่เหลือในชีวิตฝึกฝนเขาบ้าง
เริ่มปฏิบัติการเปลี่ยนไอ้ชั่วให้เป็นผัวแห่งชาติ!
เล่ม 1 - E Book : CLICK!
หลังๆเราอ่าน E-book ซะเยอะ แต่เซตนี้เราอ่านเล่มกระดาษค่ะ ก็แอบรู้สึกว่าอ่าน E-book จนชินแล้วเหมือนกัน แบบจับกระดาษแล้วรู้สึกว่าความเร็วในการอ่านลดลงน่ะ
บอกก่อนว่าเราชอบคนเขียนคนนี้ค่ะ เราเคยอ่านงานของเค้าคือ
ภูผาอิงนที ตอนนั้นชอบเรื่องนั้นมากกกก ตอนนี้ก็เลยค่อนข้างคาดหวังค่ะ ก็หลังจากอ่านเล่ม 1 ไปรู้สึกว่าไม่ผิดหวัง แล้วก็รู้สึกว่า character design, character development สมเป็นโม่ซูไป๋สุดๆ คือเรื่องนี้นางเอกเป็นบุตรสาวฮูหยินเอกที่ไม่มีอำนาจในบ้านเลย ฐานะค่อนข้างกระอักกระอ่วน ตระกูลก็เป็นตระกูลพ่อค้าธรรมดา นางเอกเป็นคนฉลาด วางแผนให้ตัวเองเพื่อจะแต่งงานคุณชายใหญ่สกุลเย่ แต่ด้วยความขี้เล่นปากเสียของพระเอกก็เลยได้แต่งงานเป็นฮูหยินน้อยสกุลกู้ซะอย่างนั้น
คือความไร้เดียงสาของกู้จิ่วซืออะ มันทั้งน่าเอ็นดู ในขณะเดียวกันในช่วงแรกๆมันก็เป็นความโหดร้ายอย่างมาก เป็นความคิดน้อยความไร้เดียงสาที่ไม่เข้าใจความร้ายแรงของสถานการณ์จากฝั่งนางเอกที่เป็นผู้หญิงเลย พระเอกอย่างกู้จิ่วซือถูกเลี้ยงดูมาอย่างตามใจเกินไป จนทำอะไรๆก็ตามใจตัวเองไปซะหมด แต่พอหลังจากแต่งงานกันแล้ว นางเอกค่อยๆรู้จักพระเอก พระเอกก็ได้รู้ว่าที่ตัวเองทำลงไปในตอนแรกมันแย่ยังไง เราก็รู้สึกว่าพระเอกเป็นคนที่ดีมากกกก
แบบไม่ใช่เป็นคาแรกเตอร์พระเอกนิยายเท่ๆอะ แต่ให้ความรู้สึกเป็นคนจริงๆที่เป็นคนดี คนดีอย่างที่หาได้ยาก มีความไร้เดียงสา คิดอะไรตรงๆแบบเด็กๆ แต่ในขณะเดียวกันก็จริงใจ ใจดี แล้วก็ใส่ใจมาก ถ้าให้นิยามพระเอกด้วยคำคำเดียว เราคงเลือกคำว่า 'ใจดี' เป็นผู้ชายที่ใจดีมากๆจริงๆ ใจดีจนเราคิดว่าไม่ว่าใครก็อดไม่ได้ที่จะซึ้งใจ เหมือนที่กู้ฮูหยินบอกว่า ลูกชายนางเป็นคนดี อยากให้ลองทำความรู้จักกันก่อน แล้วก็เป็นอย่างนั้นจริงๆ
คือแค่เล่มแรกก็รู้แล้วว่าเดี๋ยวพระเอกต้องเป็นสามีแห่งชาติแน่นนอน สามีที่แสนดีขนาดนี้
แล้วก็อีกอย่างที่เราชอบมาตั้งแต่เรื่องภูผาอิงนทีแล้ว คือตัวพระนางมีความแบบไม่ได้เก่งเวอร์มาตั้งแต่แรก แต่ด้วยสถานการณ์บีบคั้นและอะไรหลายๆอย่างก็ทำให้ตัวละครเติบโตขึ้น เป็นผู้ใหญ่ขึ้น ต่างคนก็ต่างรู้จักกันมากขึ้น เราว่ามันดีมากๆ
เราอ่านจบเล่ม 1 แบบค่อนข้างเร็วมาก คิดว่าถ้าเป็นไปได้เรื่องนี้น่าจะยิงยาวไม่ได้แวะอ่านเรื่องอื่นแน่ๆเลยค่ะ
อีกอย่างเรารู้สึกว่าชื่อเรื่องให้ความรู้สึกเหมือนเป็นรอมคอมเลย แต่จริงๆเนื้อหาดูแล้วน่าจะหนักหน่วงพอสมควรทีเดียว
เล่ม 2 - E Book : CLICK!
ช่วงเล่ม 2 เรามีเว้นช่วงไปนิดนึงแต่ก็กลับมาอ่านต่อได้แบบไม่ได้ติดอะไรค่ะ รู้สึกว่าช่วงเล่มสองเป็นช่วงที่ตัวละครมีพัฒนาการแบบก้าวกระโดดมากทั้งในแง่ของนิสัยแล้วก็ความสัมพันธ์ที่มีต่อกัน ในเล่มนี้ครึ่งแรกคือพระนางเดินทางออกจากหยางโจว เรียกได้ว่าหนีตายกันมาจนถึงโยวโจว เกือบอดตายอยู่กลางทาง เรารู้สึกว่าพระเอกกับนางเอกเป็นเพื่อนตายกันมาก แต่ในเล่มนี้ก็มีความสัมพันธ์ในเชิงโรแมนติกเล็กๆที่เริ่มงอกเงยระหว่างทั้งสองคนแล้ว คือพระนางอะชอบกันและกันมากๆอยู่แล้วในฐานะมนุษย์คนนึง แต่ในฐานะคนที่รัก เราว่าอาจจะยังไม่ถึงขั้นนั้นเท่าไหร่ พระเอกอาจจะเริ่มชอบ ส่วนนางเอกก็เรารู้สึกว่าสำหรับนางเอกมันไม่เชิงว่ารักพระเอกแล้ว แต่นางเอกไม่เคยมีความคิดจะไปจากพระเอก เพราะนางเอกคิดว่าไปไม่ได้ (ด้วยประเพณีหรืออะไรหลายๆอย่างที่ทำให้ชีวิตผู้หญิงมันยาก) ในครึ่งหลังตอนที่สองคนนี้ถึงโยวโจวแล้ว ก็เรียกได้ว่าตั้งตัวขึ้นมาใหม่ พระเอกใช้วิธีหลายๆอย่างเป็นขุนนาง ส่วนตัวนางเอกก็มีพรสวรรค์ในด้านการค้า สร้างร้านแป้งชาดของตัวเองขึ้นมาได้ พระเอกมีข้อขัดแย้งกับคหบดีในพื้นที่ (ซึ่งจริงๆก็โดนคล้ายๆที่ตระกูลตัวเองโดนนั่นแหละ) นางเอกเลยถูกจับไป ตรงนี้มีตัวละครนึงที่เราค่อนข้างชอบ คือเสิ่นหมิง รู้สึกว่าเป็นตัวละครบื้อๆที่มาในระยะเวลาสั้นๆที่มีเสน่ห์มาก ไม่รู้ว่าตอนท้ายที่พระเอกบอกให้ฆ่าทั้งหมดจะฆ่าจริงมั้ย ส่วนตัวขอเดาว่าไม่จริงนะ แต่จริงๆแล้วถ้าเพื่อชื่อเสียงของนางเอก ก็ควรจะกำจัดไปทั้งหมดจริงๆ
อีกเรื่องที่ขอเดาแบบ wild guess เลย คือเราคิดว่าพ่อของพระเอกอาจจะยังไม่ตาย
ก็จบเล่มสองแบบที่ยังชอบอยู่ค่ะ
เล่ม 3 - E book : CLICK!
เล่ม 3 เรามีช่วงที่พักไปแปปนึง เพราะว่าแวะไปอ่านอย่างอื่นก่อน แต่ก็กลับมาต่อติดนะ
สิ่งที่น่าสนใจมากอย่างหนึ่งในเล่ม 3 คือ สัญญาเงินกู้โยวโจว (จริงๆมาตั้งแต่เล่ม 2 แล้วแหละ แต่ตอนนั้นเราอ่านแบบง่วงๆเลยยังไม่ได้คิดอะไรมาก) แต่ถ้าเทียบเป็นเซตติ้งปัจจุบัน นี่คือการทำสัญญาเงินกู้กับรัฐ(โยวโจว) โดยที่เรา(คหบดีเมืองโยวโจว)มีฐานะเป็นเจ้าหนี้ รัฐ(เมืองโยวโจว แม่ทัพฟ่าน แม่ทัพโจว)มีฐานะเป็นลูกหนี้ พอถึงเวลาจ่ายดอกเบี้ยเป็นงวดๆแล้วก็คืนเงินพร้อมดอกเบี้ย จริงๆแล้วนี่ก็คือคอนเซปของตราสารหนี้รัฐบาลหรือ Government Bond ปะ เป็นการ raise fund ที่ทำกันเป็นปกติ แถมในเรื่องยังมีสิ่งที่คล้ายๆตลาดตราสารหนี้รองที่ผู้ถือสัญญาเงินกู้เทรดกันเองตามราคาตลาดด้วย รู้สึกว่าน่าสนใจมากเลยค่ะ แต่ในเรื่องเป็นเพราะว่าทำเป็นครั้งแรก มันเลยสูญเสียข้อดีที่ใหญ่ที่สุดของ government bond ไป คือเรื่องของเครดิตหรือความน่าเชื่อถือ พันธบัตรรัฐบาลถึงผลตอบแทนจะต่ำแต่มีความน่าเชื่อถือสูงทำให้มีข้อดีคือไม่มีความเสี่ยงของการเบี้ยวหนี้ แต่ในเรื่องเป็นเพราะว่าไม่เคยมีคนทำมาก่อน แม้แต่ตัวคหบดีเองก็ยังไม่เชื่อถือในการซื้อสัญญาเงินกู้โยวโจวนี้เลย
คือรู้สึกว่าเป็นไอเดียที่สนุกมากเวลามาอยู่ในนิยายจีนพีเรียด แบบคาดไม่ถึงเหมือนกันนะ คือถ้าสมมติเราเขียนนิยายแล้วรู้สึกว่าขาดเงินต้องการเงินมาจุนเจือกองทัพ สิ่งที่คิดคงไม่ใช่ออกพันธบัตรรัฐบาลแน่ๆอะ
ในเล่มนี้นางเอกหาเสบียงกับเงินเข้ากองทัพด้วยการปั่นราคาข้าว 5555 จริงๆก็นี่ก็เป็นการปั่นราคาที่ใช้กันในปัจจุบัน แบบปั่นราคาพวก commodity แล้วก็ในเล่มนี้นางเอกกลับไปหยางโจว พาเย่ซืออัน กับน้องสาวแล้วก็นายท่านกู้ที่ยังไม่ตายกลับมาโยวโจวด้วย ก็นับว่าเดาถูกว่านายท่านกู้ยังไม่ตายล่ะ ความสัมพันธ์ของพระนางก็ค่อยๆพัฒนาไปแบบน่าเชื่อถือมาก พระเอกเป็นคนน่ารักแบบมากๆๆๆๆอะ ชอบมาก ตอนท้ายของเล่มเหมือนจะเริ่มเข้าโหมดสงครามแล้วล่ะ
เล่ม 4 - E Book : CLICK!
บนปกนี่คือใคร? พระเอกนางเอกเรอะ รอยสักบนหลังนั่นมาจากไหน...
จริงๆต้องบอกว่าชุดนี้เราอ่านช้าจริงๆ ช้าในระดับที่คนที่ให้ยืมหนังสือก็รู้สึกว่าเราอ่านช้ากว่าปกติ TT^TT แต่คิดว่าไม่เกี่ยวกับเนื้อหาหรอกนะคะ
ช่วงเล่ม 4 นี้เริ่มต้นด้วยสงครามในเมืองวั่งตู พระเอกก็ทำผลงานได้อย่างสวยงาม ถึงจะมีลุ้นอยู่บ้างก็เถอะ แล้วในที่สุดคู่พระนางก็ได้นอนด้วยกันสักที เราชอบฉากนี้ตรงนี้แบบพระเอกย้ำแล้วย้ำอีกว่านางเอกเต็มใจจริงๆนะ สามารถปฏิเสธได้เต็มที่ คือ fully consent สุดๆ คุณชายกู้คนนี้เป็น man written by woman ที่แท้ทรูจริงๆ พอจบสงครามพระเอกก็ถูกเรียกเข้าเมืองหลวง แม่ทัพฟ่านได้เป็นฮ่องเต้ เรียกว่าเรื่องขยายสเกลอย่างรวดเร็ว แบบจากปมที่วางเอาไว้ในตอนนี้ก็รู้แล้วว่าเดี๋ยวต้องเกิดเรื่องใหญ่ขึ้นแน่
พอเข้าเมืองหลวงแล้วเราก็รู้สึกว่าดำเนินเรื่องเร็วมาก แต่สนุกนะ กู้จิ๋วซือได้เป็นรองเจ้ากรมคลังมีคดียักยอกเงินหลวงที่ทำให้เข้าคุก มีเรื่ององค์หญิง เรื่องของการถูกใส่ร้าย ถูกดูถูกมากมาย คือตลอดการอ่านครึ่งหลังเรารู้สึกว่ามันแบบอึดอัดใจแทนตัวละครมากก แบบขับค้องใจ แบบทำไมต้องมาเจอกับอะไรง่าวๆแบบนี้วะ แบบทำไมคนที่มีอำนาจอยู่ในมือถึงเป็นคนแบบนี้วะ หลายทำไมเต็มไปหมด คือขับค้องใจมากก ตัวร้ายก็แบบชวนให้เกลียดมาก
แต่ก็ด้วยพลอตเรื่องที่ค่อนข้างเข้มข้นของครึ่งหลังทำให้เราจบเล่มสี่ได้อย่างรวดเร็วเลยล่ะค่ะ
เล่มนี้เป็นการฟาดฟันในเมืองหลวงที่แท้ทรู ฮ่องเต้เริ่มสุขภาพไม่ค่อยดี ฝ่ายพระเอกยืนอยู่ตรงข้ามรัชทายาท (ซึ่งคือแบบไม่มีองค์ชายคนอื่นด้วยนะ ฮ่องเต้ดันมีลูกคนเดียว แล้วลูกคนนั้นดันดูโง่ๆ แถมถูกลั่วจือซางจูงจมูกไปมา) ตัวร้ายอย่างลั่วจื่อซางก็โดดเด่นขึ้นมา รู้สึกว่าเป็นคาแรกเตอร์ที่มีโพเทนเชี่ยลมาก คือเป็นตัวร้ายที่มีกลิ่นของความพระรองอะ แอบเชียร์ให้ได้ซีนที่ขโมยใจคนอ่านมากกว่านี้ ตอนนี้คือดูออกว่าชอบนางเอกก็จริง แต่มันยังไม่ได้แบบมีซีนที่กระแทกใจอะไรขนาดนั้น ส่วนเรื่องพ่อของลั่วจื่อซางเราแอบคิดตั้งแต่ตอนที่นางเอกเข้าใจผิดเพราะว่าลั่วจื่อซางตาเหมือนกู้จิ่วซือแล้วล่ะ ว่าสองคนนี้ต้องมีความเกี่ยวข้องกัน บวกกับเรื่องนี้ดันคาแรกเตอร์อย่างเจียงเหอขึ้นมาแล้วเจียงเหอเคยมีคนรักเก่าที่ตายไปแล้วบวกมีป้ายวิญญาณ คิดว่าเจียงเหอคือพ่อของลั่วจื่อซางแน่เลย ส่วนเย่อวิ้นเราอยากให้คู่กับเสิ่นหมิงมากกว่านะ แบบพื้นฐานแล้วเสิ่นหมิงเป็นตัวละครที่เราค่อนข้างชอบค่ะ
เล่มนี้สนุกมาก เรารู้สึกว่ามันแทบจะมี arc เป็นของตัวเอง มีสตอรี่ไลน์ที่แยกออกมา แต่ก็ยังเกี่ยวกับเมืองหลวงอยู่ การที่มันมีสตอรี่ไลน์แยกออกมาทำให้เรารู้สึกว่ามันกลมกล่อมมาก ในเล่มนี้กู้จิ่วซือพร้อมทั้งลั่วจื่อซางออกนอกเมืองไปแก้ปัญหาน้ำท่วมของแม่น้ำฮวงเหอ นางเอกก็มาด้วย เล่มนี้นำเสนอภาพการทุจริตของขุนนางท้องถิ่นอย่างเต็มที่ ขุนนางท้องถิ่นที่อยู่มานาน หยั่งรากลึกจนกระทั่งคนที่ไม่ใช่พวกเขาไม่มีทางอยู่ได้ ขุนนางที่เคยตั้งใจว่าจะสุจริตมือสะอาดสุดท้ายก็ต้องกลายเป็นพวกเดียวกันไปในท้ายที่สุด เราว่าพลอตเล่มนี้ค่อนข้างสนุกเลย แล้วก็ตัวละครที่ MPV สุดๆคือ เสิ่นหมิง ดีมากกกกกกก เป็นตัวละครที่แบบทำให้เสียน้ำตาได้จริงๆ เราอ่านมาชอบตัวละครนี้มากๆ อาจจะที่สุดเลยมั้ง เรายังคิดอยู่ว่าถ้าเสิ่นหมิงตายเราต้องน้ำตาแตกแน่นอน
อีกคนที่เราคงจะเสียดายถ้าเกิดว่ากลับเมืองหลวงแล้วต้องยืนคนละข้างคือลั่วจื่อซาง เล่มนี้ยังแอบแย้มๆให้คนอ่านสงสัยเกี่ยวกับเจียงเหอด้วย โดยรวมแล้วเราค่อนข้างชอบค่ะ อ่านรวดเดียวเลย ทั้งๆที่ช่วงนี้เราค่อนข้างเหนื่อย อ่านหนังสือช้ากว่าปกติ
เล่ม 7 - E Book : CLICK!
เล่มนี้เราก็อ่านค่อนข้างไว คือคิดว่าเป็นช่วงที่พลอตหลักมันงวดเข้ามาแล้ว เป็นช่วงระส่ำระสายที่จะตัดว่าใครจะอยู่ใครจะไป แต่ก็เอาจริงๆไม่ได้เหนือความคาดหมาย ฟ่านเซวียนตาย ฟ่านอวี้ขึ้นแทน ลั่วจื่อซางกลับมาเมืองหลวง กู้จิ่วซื่อไปโยวโจว แม่ทัพโจวก่อกบฎ (สุดท้ายเราว่าเผลอๆโจวเย่ได้เป็นฮ่องเต้) ส่วนนางเอกกลับหยางโจวไปจัดการกำลังของลั่วจื่อซาง
จริงๆแล้วเราคิดว่าโม่ซูไป๋ทำได้ดีมากๆในการเขียนการเติบโตของตัวละคร โดยเฉพาะกู้จิ่วซือ เย่ซืออัน เย่อวิ้น เสิ่นหมิง รอจะอ่านเล่ม 8 ไม่ไหวแล้วล่ะค่ะ เราคงอ่านต่อเลย คิดว่าถ้าไม่มีอะไรผิดพลาด คืนนี้ก็น่าจะจบละมั้ง
ปล.เคมีระหว่างกู้จิ่วซือกับเย่ซืออันดีมาก ตอนท้ายเล่มอะ
เล่มนี้เป็นเล่มจบแล้ว เรียกว่าเดินเรื่องเร็วเหมือนวิ่งเลยล่ะค่ะ กู้จิ่วซือและหลิ่วอวี้หรูทำงานหนักมาก ทั้งคู่ยังเป็นคนที่ดีมากๆ ดีที่สุดในเรื่องแล้ว ส่วนเย่ซืออัน โจวเย่ โจวเกาหล่าง ก็ทำให้เรารู้สึกว่าในถึงที่สุดแล้วไม่ว่าใครๆก็ไม่ได้แตกต่างไปจากลั่วจื่อซาง ซึ่งในความเป็นจริงมันก็คงจะเป็นอย่างนั้นคนส่วนมากคงจะถูกสิ่งแวดล้อมหล่อหลอมให้ทำชั่ว ให้กลายเป็นคนที่ไม่เห็นค่าชีวิตของคนอื่น ถ้าตกอยู่ในสถานการณ์แบบนั้น แต่กู้จิ่วซือไม่เหมือนกัน กู้จิ่วซือไม่ใช่คนที่ไร้เดียงสาจนทำตัวเป็นคนดี แต่จากเรื่องที่เกิดตอนแม่น้ำฮวงโหทำให้เรารู้สึกว่าคนคนนี้เป็นคนดีจากเนื้อในจริงๆ กู้จิ่วซือไม่ได้แคร์แค่หลิ่วอวี้หรู แต่มีประชาชนอยู่ในนั้น เหมือนที่ฟ่านเซวียนเคยพูดไว้ แผ่นดินต้าเซี่ยโชคดีที่มีกู้จิ่วซือ ตัวละครแบบเย่ซืออัน โจวเย่ โดยเฉพาะสองคนนี้ทำให้เรารู้สึกว่าเหมือนถูกทรยศ ถ้าสองคนนี้ไม่เห็นด้วยกับโจวเกาหล่าง กู้จิ่วซือกับหลิ่วอวี้หรูคงไม่ต้องลำบากขนาดนี้ ไม่ต้องเสี่ยงชีวิตขนาดนี้ ถึงขั้นที่เรารู้สึกว่ามันไม่ยุติธรรมเลย ไม่ยุติธรรมเลยจริงๆ ความรู้สึกนี้มันเหมือนตอนที่เราอ่านเล่ม 6 ตอนที่กู้จิ่วซือถูกชาวบ้านทำร้าย แต่อันนี้มันร้ายแรงกว่าคือมันเป็นคนที่ร่วมทุกข์ร่วมสุขกันมาตั้งแต่ต้น เคยตายแทนกันได้อะ ซีนที่โจวเกาหล่างยกทัพเข้าเมืองหลวงคึอแบบรู้สึกแย่มากอะ ทำไมต้องให้จิ่วซือเอาชีวิตมาเสี่ยงขนาดนี้ด้วย (อินมาก 555)
ส่วนตัวละครอื่นแอบคิดว่าจุดจบของลั่วจื่อซางไม่แย่นะ สุดท้ายได้ตายในอ้อมกอดของพ่อตัวเองด้วย แต่แอบรู้สึกว่าถูกเนิร์ฟนิดหน่อย เฮ้อ เราเข้าใจนะว่าหนังสือจะสื่อว่าแต่ต้นแล้วพวกเขาทุกคนก็ล้วนเป็นคนดี ต่างก็ถูกสิ่งแวดล้อมบีบคั้นทั้งนั้น แต่เอาเข้าจริงเราก็รู้สึกว่าโจวเย่ เย่ซืออัน โจวเกาหล่างที่เคยหันหลังให้กู้จิ่วซือมันชวนให้ใจสลายอะ
อีกตัวละครที่เราค่อนข้างประทับใจคือซีฟ่ง รู้สึกว่าทั้งหยางฮุยทั้งฮ่องเต้มีใจให้ซีฟ่งจากใจจริง ขนาดฮ่องเต้ในช่วงเวลาที่สับสนที่สุดอ่อนแอที่สุด ยังเป็นห่วงซีฟ่ง กลัวว่านางจะไม่รอด
ตอนจบยังมีตอนพิเศษเล็กๆของกู้จิ่นกับโจวผิง ที่แบบเออ น่ารักดีนะ
ก็อ่านจบแล้วคิดว่าสนุกดีค่ะ แบบรู้สึกว่าเป็นการเดินทางอันยาวไกล เห็นการเติบโตการตกต่ำของแต่ละตัวละคร (ในหลายๆแง่) ได้เจ็บปวดใจ ได้สุขใจไปพร้อมๆกัน ก็รู้สึกว่าเป็นอีกผลงานของโม่ซูไป๋ที่ดีมากๆ ถึงเราจะคิดว่าเราชอบภูผาอิงนทีมากกว่า แต่เรื่องนี้ก็ดี ดีมากๆค่ะ
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in