แสงไฟฉายส่องไล่เข้าไปในความมืด ร่างสีดำทะมึนใหญ่โตกำลังหมอบต่ำ ร่างนั่นดูคล้ายผู้หญิงร่างยักษ์ที่พยายามจะคลานเหมือนหมา ผมดำยาวลากพื้นเป็นทาง ฉันรีบลดไฟลงทันที ในใจอัดแน่นด้วยความกลัวและความสับสนปะปนกันจนคุมไม่อยู่ จนกระทั่งเสียงเล็กๆของลูกหมาทำให้ฉันได้สติอีกครั้ง
ฉันชะโงกตัวออกไปตรงช่องระเบียง เปิดไฟฉายส่องอีกครั้งหวังว่าสิ่งที่เห็นจะเป็นภาพหลอนที่ฉันคิดไปเอง ฉันพยายามส่องหาไปตามเสียงของลูกหมานั้น แต่ไม่ใช่อย่างหวัง
ร่างยักษ์กำลังใช้เล็บยาวๆของมันฉีกเฉือนเนื้อของลูกหมาตัวเล็กๆ มันขุดคุ้ยลงไปในท้องของซากศพลูกหมา ดึงเอาอวัยวะทั้งหลายออกมากัดกินอย่างบ้าคลั่ง แม่หมานั้นพยายามเห่าและขู่คำรามสุดชีวิตของมัน แต่ลูกมันคงไม่รอดแล้ว
อึดใจเดียวที่ฉันสติหลุดลอยไปเพราะภาพตรงหน้า ร่างดำนั้นก็หันมาจ้องตากับฉันเขม็ง ราวกับว่าความสนุกสุดขีดของมันย้ายมาอยู่ที่ร่างกายของฉันแล้ว
ตาย
คำเดียวที่อยู่ในหัวของฉัน
เจ้าปีศาจนั่นเหวี่ยงซากลูกหมาทิ้งไป มันคลานเข้ามาหาฉันเรื่อยๆ ท่าทางของมันเริ่มดูคล้ายมนุษย์มากขึ้นทีละนิด จนในที่สุดมันก็หยุดยืนสองขาราวกับมนุษย์ปกติตรงหน้าฉัน ก่อนที่มันจะเอื้อมมือมาถึงตัวฉัน แม่หมาก็วิ่งมากระโดดกัดแขนดำๆของมัน น้ำสีดำข้นทะลักออกมาจากรอยกัด แต่มันไม่แสดงอาการเจ็บปวดใดๆให้เห็นสักนิด
แม่หมาที่พยายามจะช่วยฉันยังกัดแขนของมันแน่น มันใช้มือของมันจับสุนัขตัวน้อยๆยกขึ้นเหนือหัว ปากและกรามของมันอ้าออกกว้าง เขี้ยวแหลมเต็มปากงับเข้ากลางตัวแม่หมาจนขาดครึ่ง ก่อนที่มันจะสะบัดซากทั้งสองส่วนนั้นไปด้านหลัง
กรงเล็บดำใหญ่ของมันเอื้อมเข้าหาใบหน้าฉันความคิดในใจมีแต่เรื่องที่ฉันรู้สึกผิดต่อสิ่งต่างๆที่เคยทำพลาด ฉันอยากขอโอกาสอีกครั้ง ฉันจะไม่ให้มันต้องซ้ำรอยอีกแล้ว
ฉันขอโทษ
"ผิง!..ผิง!!" เสียงเรียกของเพื่อนสาวที่ฉันคุ้นเคยดังขึ้นมา
"พวกแก?...นี่ฉันเป็นอะไรน่ะ"
"แกโดนรถชนตอนข้ามถนนหน้าหอน่ะสิ ตอนนี้อยู่โรงพยาบาล"
"อ่า...ขอบคุณนะ"
หลังจากนั้นฉันใช้เวลารักษาตัวหลายสัปดาห์จนหาย เธอขอพ่อแม่ย้ายหอออกทันที เธอยังให้อาหารสัตว์เหมืนเดิม เธอยังนึกถึงความฝันในครั้งนั้นเสมอ ว่ามันคือเรื่องจริงหรือว่าแค่ฝันร้ายกันแน่ เธอยังใช้ชีวิตต่อไป เพียงแค่เธอไม่เคยเฉียดเข้าใกล้หอพักแห่งนั้นอีกเลย หรือแม้ซอกเล็กๆข้างคอนโดของเธอก็ตาม
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in