การมาทำงานที่นี่ทำให้พวกเราได้รู้จักคินก้า คินก้าถือได้ว่าเป็นคนดูแลเราในทุกๆเรื่องระหว่างปฏิบัติหน้าที่ใน
ทุกๆเย็นหลังเลิกงานคินก้าจะมีหน้าที่คิดแพลนการเที่ยวหรือทำอะไรก็แล้วแต่ เพื่อไม่ให้พวกเราเบื่อ
อย่างที่รู้ๆกันว่ายุโรปนั้นอยู่ในเขตอบอุ่น (ฮ่าๆ แม่งจะต้องเกริ่นแบบนี้ตลอด) ทำให้อากาศนั้นไม่ได้ร้อนจัดแบบไทยแลนด์แดนซ้อมตกนรก ผมคิดว่ามันเป็นสาเหตุทำให้คนยุโรปนั้น ไม่ค่อยได้ซักผ้ากันบ่อยเท่าไหร่เพราะอากาศที่ค่อนข้างเย็น (เท่าที่เห็นและสัมผัสได้ และนี่แหละอีกปัญหาหนึ่งของอากาศเย็น) เหงื่อก็แทบจะไม่ออกเลย ดังนั้นร้านซักอบรีดที่ยุโรปจึงมีน้อยมาก (หรือแต่เฉพาะโปแลนด์ อันนี้ก็ไม่แน่ใจนัก) น้อยจนผมคิดว่าแม่งไม่มีร้านซักอบรีดแน่ๆ
เอาจริงๆพวกเราตามหาร้านซักรีดตั้งแต่ก่อนมา Suwalki แล้วแหละ
ผมถามเพื่อนๆโปลิชว่ามีร้านซักรีดไหมคำตอบที่ผมได้คือ
"I don’t know" ไอไม่รู้อะยู
อ้าวกรรม....เวรแล้วไงคือ งง อะ
ที่นี่หอพักนักศึกษามันเป็นไปไม่ได้ที่จะไม่มีที่ซักผ้าอะเมิ๊งงงง It’s impossible อะเข้าใจไหม
พวกเราถามเพื่อนๆโปลิชหลายคน ก็ได้คำตอบเดิมๆคือ ไม่รู้ ไม่ทราบ เห้ยยย แล้วที่พวกมึงอยู่หอนี่ซักผ้ากันยังไงเนี่ยมึงใส่เสื้อผ้าไม่ซักกันเลยไง๊?
การที่ไม่มีใครสามารถตอบผมได้ว่าร้านซักอบรีดอยู่ไหนมันเหมือนกับการไปถามคนอื่นว่า มนุษย์ต่างดาวมีจริงไหม แล้วคือมันก็จะตอบทำนองว่ารู้นะว่ามีอะ แต่กูก็ไม่รู้ว่ามันอยู่ที่ไหนอะ เอ๊าพอกูถามว่ากูจะซักผ้าได้ที่ไหนจะซักได้ยังไงมึงก็ตอบกันไม่ได้อีก เอองงใช่มะ กูก็งงเหมือนกันแหละ มึงจะใส่เสื้อผ้าโดยไม่ซักเลยงี้หรอเห้ย มัน อิมพอสซิเบิลอะ (ผมมารู้ที่หลังว่าจริงๆแล้วที่หอพักมีเครื่องซักผ้าแต่มันสกปรกมากๆ)
ถ้าจะให้นึกถึงประเทศใดประเทศหนึ่งในยุโรป พวกเราคงพูดได้เต็มปากว่าโปแลนด์คงไม่ใช่ประเทศแรกๆที่คนไทยจะนึกถึงนัก ผมก็เหมือนกันโปแลนด์เป็นประเทศที่พัฒนาแล้ว แต่เนื่องจากอยู่ติดกับประเทศที่มีเศรษฐกิจดีกว่าอย่างเยอรมนี และถ้าหันมาดูด้านขวามือของโปแลนด์ในแผนที่ รัสเซียก็ใหญ่เบิ้มจนประเทศเล็กๆน้อยๆไม่เป็นที่รู้จักหรือคุ้นหูซักเท่าไหร่ โปแลนด์ก็อาจจะโดนกลืนไปกับประเทศเล็กๆเหล่านี้จนรู้สึกว่าไม่มีความโดดเด่นใดๆ
เมื่อมาถึงโปแลนด์สัญชาติญาณผมได้ทำงานอย่างว่องไวเลยว่า ที่นี่ไม่ใช่ถิ่นนักท่องเที่ยวแน่นอน สังเกตจากการที่ คนโปลิช ส่วนใหญ่ พูดภาษาอังกฤษไม่คล่อง (แม้กระทั่งในเมืองหลวงอย่างวอร์ซอ) และที่สำคัญคือ หัวทอง ผิวขาว ตาฟ้าตาเขียว คือคนปกติสำหรับที่นี่ ดังนั้นแล้ว การที่มีเอเชีย หัวดำ ตาดำ ตัวดำ เดินมาดุ่มๆ มันก็ไม่น่าแปลกใจนักที่คนโปลิช จะมองตั้งแต่ต้นซอยยันท้ายซอย โดยเฉพาะกับเมืองที่ห่างไกลอย่าง Suwalki ดังนั้นการที่พวกเราเป็นเอเชียเพียงกลุ่มเดียว ใน Suwalki จึงเป็นการถูกจับตามองเป็นพิเศษ (มากๆ)
การมองของคนฝรั่งเนี่ยจะต่างจากคนไทยตรงที่คนไทยจะมีความเกรงใจเมื่อคนถูกมองรู้ตัว คนไทยก็จะมีการหลบสายตาแบบเนียนๆ แต่สำหรับคนที่นี่แล้วเนี่ย เขาจะจ้องแบบไม่ละสายตาจ้องแบบเอาจริงเอาจัง
แม้ผมจะมองกลับไปด้วยสายตาแบบ “พอได้แล้ว มึงมองกูนานไปแล้ว”
พวกเขาก็จะไม่หลบสายตาไปไหนและจ้องมองอย่างต่อเนื่อง ประหนึ่งว่า ยูคือตัวอะไรทำไมมาอยู่ที่นี่ โอยมองขนาดนี้เอาไม้มาตีหัวกู จับกูไปเลยไม๊ล่ะ มองจนเข้าไปถึงกระเพาะปัสสาวะแล้วมั้งน่ะเฮ้ยหยุดได้แล้ว
ด้วยความโดดเด่นของเรา 4 คน คนไทย 2
อย่างที่บอกไปว่าโฮสของพวกเราน่ารักมาก หลังเลิกงานเหล่าโฮสก็จะพาพวกเราไปหากิจกรรมทำยกตัวอย่างเช่น เดินเล่น เดินห้าง เดินป่า ตั้งแคมป์ ปีนเขาโอ้วทุกอย่างฟังเหมือนจะดูดี ซึ่งมันก็ดีจริงๆ แต่มันจะไม่ดีตรงที่อากาศแม่งเย็นมาก โดยเฉพาะตอนเย็นๆถึงตอนพระอาทิตย์ตก (ตอน
ย้อนกลับไปก่อนมาโปแลนด์ ผมมีโรคประจำตัว ซึ่งมันก็ไม่ใช่โรคแปลกอะไร แต่มันสร้างความเดือดร้อนให้นับครั้งไม่ถ้วนนั่นก็คือ ภูมิแพ้....ใช่ครับ เวลาอากาศเปลี่ยน ฝนตก อาการก็จะกำเริบ แต่พักหลังๆมาอาการค่อนข้างดีขึ้นและทรงตัว ผมเลยคิดว่า เออมันคงดีขึ้นแล้วแหละ
ผมก็รู้แหละว่ายุโรปคือเมืองอบอุ่นที่ต้องเจออากาศที่เย็นประมาณนึง และด้วยความที่ผมพยายามจะไม่กินยา หรือพ่นจมูก อยากจะให้ร่างกายนั้นค่อยๆหายเองจากอาการเหล่านี้เอง ผมจึงตัดสินใจที่จะเอายาแก้แพ้ไปเพียง 2 แผง ซึ่งแม่งก็เป็นการตัดสินใจที่ผิดอีกครั้ง ใครจะไปรู้ว่าตัวผมเนี่ยจะต้องมาอาศัยอยู่ที่ที่เย็นขนาดนี้ แล้วกับ Suwalki เมืองที่หนาวที่สุดในโปแลนด์ เออไม่ต้องพูดถึงเลย
พอรู้ว่าพวกเราต้องรับมือกับอากาศหนาว ผมก็ค่อนข้างเซฟตัวเองประมาณหนึ่ง อย่างที่บอกว่าผมต้องไปอาบน้ำที่บ้านโฮสทุกๆตอนค่ำ (5ทุ่ม –
ส่วนคินก้าผู้เดินชิลๆใส่เสื้อผ้าสบายๆก็มันจะถามกูตลอดเวลาว่า
“Are you cold?”
เอ่อ....คินก้ากูคลุมขนาดนี้แล้วกูร้อนมั้ง ให้เกียรติผ้าขนหนูหนาๆบนหัวกูด้วย
ก็อย่างว่าแหละสำหรับนาง นางก็จะบอกว่าอากาศแบบนี้เนี่ยกำลังดี
เอ่อออ....มันก็ดีแหละแต่สำหรับกูคือดีออก ดีกะผีน่ะซิ กูหนาวอะอย่าลืมสิว่ากูมาจากประเทศที่อุณหภูมิ 30 องศานะเว้ยยย แล้วที่นี่คืออะไร บางคืนแม่ง 10 องศายังไม่ถึงเลยมั้งแล้วลองจินตนาการว่ากูต้องเดินไปกลับแบบนี้ เกือบจะทุกวัน กูไม่แข็งตายก็บุญแล้วมึง
คินก้าเล่าให้ฟังว่าที่ซัมเมอร์อากาศดีก็เพราะถ้าเป็นหน้าหนาวของที่นี่นั้นอุณหภูมิจะติดลบ แถมบางปีจะมีหิมะถึง
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in