โตมร: “จริงๆ แล้วร้านหนังสือที่ผมนึกถึงอยู่เสมอไม่ใช่ร้านหนังสือนะครับ แต่เป็นเหมือน ‘โกดัง’ หนังสือเก่ามากกว่า ชื่อว่า The Book Thing อยู่ที่เมืองบัลติมอร์ ในสหรัฐอเมริกา เพื่อนที่อยู่ที่นั่นพาไป ไปแล้วต้องตะลึง เพราะมันคือสถานที่ที่ผู้คนเอาหนังสือที่ตัวเองไม่เก็บแล้วมาบริจาค ซึ่งไม่ได้แปลว่าเป็นหนังสือขยะ แต่ The Book Thing มีหนังสือหลากหลายล้นเหลือเกินจินตนาการของผู้คน มีอาสาสมัครที่ทำงานในนั้นคอยคัดแยกหนังสือที่ได้รับบริจาคมา แล้วก็เอาขึ้นชั้นตามหมวดหมู่ต่างๆ ให้คนที่มาเยือนสามารถ ‘เลือก’ หนังสือเล่มไหนก็ได้เอากลับบ้านไป ใช่ครับ—เอากลับไป ‘ฟรีๆ’!
“อย่างไรก็ตาม ความน่าประทับใจของ The Book Thing ไม่ได้อยู่ที่ ‘ความฟรี’ แต่อยู่ที่การฉายชัดให้เห็นเลยว่า บัลติมอร์เป็นเมืองที่มี ‘วัฒนธรรมแห่งการอ่าน’ และ ‘วัฒนธรรมแห่งการแบ่งปัน’ มากแค่ไหน ถ้าคนอ่านหนังสือไม่มากพอ The Book Thing ไม่มีทางเกิดขึ้นได้ เพราะจะไม่มีปริมาณหนังสือที่มากจนสามารถคัดเลือกเป็นหมวดหมู่ได้ขนาดนั้น มีตั้งแต่นิยายธรรมดาๆ ไปจนถึงงานวรรณกรรมของนักเขียนใหญ่ๆ ส่วนงาน Non-Fiction ก็มีตั้งแต่งานแบบ Pop Science จนถึงเรื่องทางสังคมศาสตร์ ศิลปะ ปรัชญา ภูมิศาสตร์ เฟมินิสม์ Queer Study และมีแม้กระทั่งเรื่อง Thai Studies
“ในเวลาเดียวกัน ถ้ามีแต่วัฒนธรรมการอ่าน แต่ไม่มีวัฒนธรรมแห่งการแบ่งปัน The Book Thing ก็จะเกิดขึ้นไม่ได้อีกเช่นกัน เราเห็นได้เลยว่า หนังสือใน The Book Thing ไม่ใช่หนังสือที่คน ‘ทิ้ง’ เพราะมันมีหนังสือดีๆ เต็มไปหมด จริงอยู่ บางคนอาจมีหนังสือซ้ำ บางคนอาจไม่มีที่แล้วเลยต้องตัดใจ แต่โดยมาก คนที่เอาหนังสือมาบริจาคที่นี่ก็เพราะรู้ว่า The Book Thing จัดการหนังสืออย่างคนรักหนังสือ และคนที่หยิบจับเลือกสรรไป ถ้ารักหนังสือเล่มนั้นจริงๆก็จะเก็บเอาไว้อย่างดี แต่ถ้าเมื่อไหร่ไม่ต้องการแล้ว ก็สามารถนำกลับมา ‘หมุนเวียน’ ให้คนอื่นอ่านได้ที่ The Book Thing อีกครั้ง
“The Book Thing จึงเป็นร้านหนังสือ (ที่ไม่ใช่ร้านหนังสือ) ที่ผมประทับใจมาก แม้เอาเข้าจริงอาจมีปัญหาอะไรซ่อนอยู่เบื้องหลังที่เราไม่เห็น แต่ก็ไม่ได้แปลว่าจะลดทอนคุณค่าและความตั้งใจเดิมแท้ของ The Book Thing ลงไปได้
“ล่าสุด The Book Thing เพิ่งถูกไฟไหม้ ร้านน่าจะเปิดใหม่กลางปีนี้ โดยมีอาสาสมัครเข้าไปช่วยดูแลทำความสะอาดและเก็บกวาดหนังสือที่ถูกไฟไหม้กันมากมาย ทำให้เห็นว่า The Book Thing ยังมีหน้าที่เป็นศูนย์รวมของคนในชุมชนอีกด้วย”
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in