ช่วงนี้ฝนตกทุกวัน มีใครประสบปัญหาต้องเดินลุยน้ำขังหรือไม่?
อย่าเพิ่งตกใจไป เราไม่ได้จะเปลี่ยนจากขายหนังสือมาขายรองเท้าบูทลุยน้ำ ทีมแซลมอนแค่ชวน ‘พี่เพลีย’ ที่ตอนนี้เรียนจบไปเป็นหมอผู้เชี่ยวชาญเรื่องผิวหน้า มาให้เคล็ดลับการดูแลผิวเท้าให้กับเรา (ก...ก็เรื่องผิวเหมือนกันแหละเนอะ)
— พี่เพลียกับน้ำท่วมขัง
“ส่วนใหญ่เราจะเลี่ยงการเดินลุยน้ำ เพราะกลัวสิ่งที่มากับน้ำอย่างพวกงู ตะขาบ แมลงสาบ แต่ถ้าเลี่ยงไม่ได้ เราจะใช้สัญชาตญาณตุ๊กแก กระโดดเกาะกำแพงไปเรื่อยๆ ทำยังไงก็ได้ให้โดนน้ำน้อยที่สุด”
— ในน้ำมีอะไร ทำไมถึงน่ากลัว
“นอกจากสัตว์มีพิษแล้ว ยังเสี่ยงต่อการติดโรคต่างๆ ด้วยนะ เช่น ‘โรคน้ำกัดเท้า’ หรือที่รู้จักกันในชื่อ ‘ฮ่องกงฟุต’ หลายคนคงงงว่าทำไมต้องฮ่องกง เป็นเจแปนฟุตได้มั้ย คือจริงๆ มันมีที่มาจากสมัยสงครามฝิ่น ทหารอังกฤษไปรบในฮ่องกงแล้วเป็นโรคน้ำกัดเท้า แต่เขาไม่รู้จักโรคนี้กันมาก่อน เลยมโนไปว่าเป็นโรคระบาดในฮ่องกง แต่จริงๆ มันคือโรคที่เกิดจากเชื้อราและแบคทีเรียที่เท้านี่แหละ ซึ่งเป็นกันได้ง่ายมาก แค่เท้าชื้นๆ หรือสวมรองเท้าเปียกๆ ก็เป็นได้แล้ว ถ้าใครลุยน้ำมาแล้วเท้าเกิดผื่นคันหรือมีกลิ่นเหม็น แนะนำให้ไปหาหมอ ทายาตามที่หมอสั่ง แป๊บเดียว เดี๋ยวก็หาย
“อีกเรื่องที่ควรระวังคือถ้าเท้าเรามีแผลแล้วไปลุยน้ำท่วมขัง มีสิทธิ์ผิวหนังอักเสบเป็นหนองแน่นอน แถมยังเป็นการเปิดช่องทางให้แบคทีเรียที่เป็นสาเหตุของ ‘โรคฉี่หนู’ ชอนไชเข้ามาในร่างกายอีก ซึ่งไม่ได้มีแค่ฉี่หนูที่เป็นพาหะของโรคนะ ฉี่หมา ฉี่แมว หรือสัตว์อื่นๆ ก็เป็นพาหะได้ อาการตอนแรกๆ ของโรคฉี่หนูจะคล้ายไข้หวัดเลยอาจดูไม่ออก แต่ถ้าเยื่อบุตาเริ่มแดง ปวดกล้ามเนื้อ มีไข้หนาวสั่น หรืออาการแทรกซ้อนอื่นๆ บอกเลยว่าให้รีบไปหาหมอจะดีที่สุด”
— เพื่อสุขภาพเท้าที่ดี
“กลับถึงบ้านรีบล้างเท้า ฟอกสบู่ให้สะอาด ผึ่งให้แห้งก็น่าจะพอแล้ว เพราะสบู่ก็ฆ่าเชื้อได้ประมาณหนึ่ง แต่ถ้าเกิดหาที่ล้างเท้าไม่ได้ ลองหาเจลล้างมือหรือทิชชูเปียกที่มีแอลกอฮอล์ใช้ล้างเท้าแก้ขัดไปก่อน แล้วค่อยไปทำความสะอาดด้วยสบู่ทีหลัง เพียงเท่านี้ผิวเท้าของเราก็จะสะอาดใสหายห่วงแน่นอน”
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in