หากใครได้อ่าน MY BEST FRIEND IS ME ของ ‘พวงสร้อย อักษรสว่าง’ คงได้ติดตามชีวิตนักเรียนทุนศิลปะในเยอรมนีของเธอไปบ้างแล้ว ซึ่งนอกจากงานเขียน เธอยังเป็นนักเล่าเรื่องที่มีผลงานออกมาอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นภาพถ่าย วิดีโอ บทกลอน และอื่นๆ อีกมากมาย เราเลยชวนพวงสร้อยมาคุยถึงมุมมองเกี่ยวกับ ‘ศิลปะ’ ที่ยังไม่เคยถูกเล่าที่ไหนมาก่อนกันบ้าง
— เรียนฟิล์มในโรงเรียนศิลปะ
“เราไม่ได้มองตัวเองเป็น ‘Filmmaker’ ขนาดนั้น เลยเลือกเรียนฟิล์มใน Art School แทนที่จะเรียนทำหนังจริงจังใน Film School นอกจากเรียนวิชาฟิล์มแล้ว เรายังได้เรียนวิชาศิลปะอื่นๆ อย่างวิชาปรัชญาศิลปะ ทฤษฏีศิลปะ หรือแม้แต่ Politic of Art ส่วนบรรยากาศโดยรวมอาจคล้าย Film School อยู่บ้าง เพื่อนในห้องจะเอาหนังที่ทำมาเปิดให้ดูแล้วนั่งวิเคราะห์กัน และแนวของหนังแต่ละเรื่องก็มีความหลากหลายมากกว่าที่เราเคยรับรู้ วิธีเล่าเรื่องของแต่ละคนมีความเฉพาะทางชัดเจน เวลาดูเลยเหมือนได้เซ็ตความคิดเรื่องฟิล์มของเราให้กว้างขึ้น เห็นความเป็นไปได้ในการเล่าเรื่องมากขึ้น และไม่ขังตัวเองกับวิธีการเล่าเรื่องแบบเดิมๆ”
— ศิลปะสำหรับพวงสร้อย
“สำหรับเรา ศิลปะเป็นความคิดที่แต่ละคนตีความหมายได้ไม่เหมือนกัน คนอื่นอาจไม่คิดแบบเรา ซึ่งก็ไม่ผิดที่เขาจะไม่ชอบหรือไม่เข้าใจงานเรานะ เพราะทุกอย่างมันเป็นศิลปะได้หมด อย่างในโรงเรียน ถ้าไม่ติดป้ายที่งานว่า ‘นี่เป็นงานศิลปะ’ งานเหล่านั้นอาจถูกมองว่าเป็นกองขยะแล้วโดนเก็บไปทิ้งทันที (หัวเราะ)”
— วิชาที่ชอบ
“เป็นวิชาที่แปลเป็นภาษาอังกฤษได้ว่า ‘Room In Book’ จริงๆ คือวิชาเกี่ยวกับภาพถ่ายนั่นแหละ แต่อาจารย์จะให้เรานำเรื่องที่สนใจมาทำเป็นหนังสือ เช่น บางคนหมกมุ่นกับความซ้ำ ก็นำเสนอทฤษฏีความซ้ำพร้อมกับซีร็อกซ์กระดาษไปเรื่อยๆ แล้วเย็บรวมเล่ม บางคนตั้งคำถามว่า ‘อะไรคือความขาว’ ก็นำกระดาษขาวหลายๆ แบบมารวมเล่มกัน เราก็จะได้เห็นว่ากระดาษแต่ละแบบมันมี ‘ความขาว’ ไม่เท่ากันจริงๆ
“ส่วนเรานึกถึงรูปถ่ายและข้อความที่แม่ส่งมาให้ในไลน์ทุกเช้า เช่น วันนี้กินอะไรแล้วก็ส่งรูปอาหาร หรือวันนี้ตักบาตรหน้าบ้านก็ถ่ายรูปโต๊ะตักบาตรส่งมาให้ เราแทบไม่ต้องถามเลยว่าแม่สบายดีมั้ยหรือตื่นแล้วยัง มีแค่รูปถ่ายส่งมาก็สื่อสารกันได้แล้ว เราเลยรวมรูปที่แม่ส่งมาทั้งหมดมาทำเป็นโฟโต้บุ๊ก งานชิ้นนี้เลยได้แม่เป็นช่างภาพให้โดยไม่ได้ตั้งใจ ตอนกลับไทยเราเลยถ่ายรูปเสื่อน้ำมันที่แม่ใช้ปูโต๊ะตักบาตรเอามาทำเป็นปก”
— ถ้าคนเยอรมันเป็นศิลปะ
“อันนี้ตอบไม่ได้จริงๆ เรารู้สึกว่าเขาก็เหมือนเรานะ คนเยอรมันไม่ได้ ‘เย็นชา’ หรือแข็งๆ ทื่อๆ อย่างที่เขาพูดกัน แล้วสภาพแวดล้อมของโรงเรียนศิลปะที่เราอยู่ทำให้เห็นว่าทุกคนมีความเป็นตัวเองมากๆ เราเลยคิดว่า คนเยอรมันมีหลายประเภทเหมือนศิลปะที่มีอยู่หลายแบบนั่นแหละ”
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in