25. อิฐบล็อก“ปิดโทรศัพท์มือถือก่อนดีไหม จะได้ไม่มีอะไรมาขัดจังหวะ” วินเซนต์บอก เมื่อได้ยินเสียงข้อความเข้า
ผมสไลด์โทรศัพท์ดูข้อความที่ถูกส่งมาทางแอพพลิเคชั่นสำหรับสื่อสาร ก่อนปิดเครื่องตามคำแนะนำ
วางมันลงบนโต๊ะที่เจ้าของบ้านใช้วางหนังสือ และพวกรีโมทโทรทัศน์ต่าง ๆ เลิกคิ้วมองเขา
คู่สนทนาของผมยิ้มอย่างพอใจ “ผมชอบคนเอเชีย นักเรียนเอเชียที่ผมเคยสอนสุภาพ ฉลาด แต่ว่าง่าย”
“รวมถึงผมด้วยหรือเปล่า” ผมยิ้มตอบ จัดเสื้อผ้าที่ยุ่งเหยิงเพราะกิจกรรมที่ถูกขัดจังหวะให้เข้าที่
“เป็นคำถามที่ดี” อาจารย์สาขาคหกรรมหัวเราะ อาการหงุดหงิดเพราะเสียงโทรศัพท์ของผมหายไปแล้ว
“ผมหลงคุณจะแย่อยู่แล้ว ไม่คิดไม่ฝันเลยด้วยซ้ำว่า คุณจะยืนอยู่ตรงหน้าของผมอย่างตอนนี้”
“ถ้าผมไม่มาอยู่กับคุณตรงนี้ คุณจะทำยังไง” ผมกระซิบ รู้สึกว่าเสียงแหบพร่า และเบาจนแทบไม่ได้ยิน
“ทำทุกวิถีทางที่ผมทำได้” ลมหายใจของเขาแรงขึ้น ดวงตาของเขาที่มองผมทำให้หัวใจผมแทบหยุดเต้น
“เมื่อไหร่แล้ว วินเซนต์ คุณเจอผมตั้งแต่เมื่อไหร่ แล้วเริ่มชอบผมตั้งแต่เมื่อไหร่”
เขาเงียบ
“คุณไม่จำเป็นต้องตอบก็ได้” ผมยอมถอยให้เขา ไม่พยายามเซ้าซี้ และนั่นทำให้สถานการณ์ของเราดีขึ้น
เขายิ้ม เมื่อผมรับจูบของเขาอย่างว่าง่าย “คุณเป็นเด็กดี ฮารุ ขอแค่คุณเชื่อฟัง ผมจะทำให้คุณมีความสุข
ผมจะทำให้คุณมีความสุขอย่างที่ใครก็ให้ไม่ได้ แม้แต่คนที่คุณหลงรักและทำให้คุณสับสนอย่างทุกวันนี้”
เขาเกลี่ยนิ้วโป้งบนริมฝีปากของผม สายตาเขาไม่ละไปจากใบหน้าของผม ผมได้ยินเสียงเขากลืนน้ำลาย
เมื่อผมขบเบา ๆ บนปลายนิ้วของเขาที่เริ่มรุกล้ำเข้ามาภายในปาก และจับมือของเขาเอาไว้ให้หยุด
“ผมเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นกับผมที่ท่าเรือไบรตันในคืนวันนั้นให้คุณฟังแล้วไม่ใช่เหรอ วินเซนต์” ผมมองเขา
“ขนาดผมยังไม่แน่ใจเลยว่า จะมีอะไรเกิดขึ้นกับผมต่อไป คุณแน่ใจเหรอว่า อยากทำมันกับผมจริงๆ”
“คุณตัวสั่น” เขาประคองหน้าของผมให้หันกลับมาสบตากับเขา “คุณกลัวอะไร ฮารุ... บอกผมได้ไหม”
“ผมไม่รู้ วินเซนต์” ผมโอบแขนรอบตัว ซุกหน้าลงกับบ่าของวินเซนต์ แอปเปิลบี้ รู้สึกได้ทันทีว่าเขาชะงัก
ก่อนที่จะกอดผมตอบ และลูบหลังผมปลอบใจ “ผมไม่รู้ว่า ตัวเองคิดถูกหรือเปล่าที่กลับมาไบรตัน...”
“ใจเย็น ๆ ... ผมรู้ว่าเรื่องที่คุณเจอมันเลวร้าย” เสียงของเขาเหมือนยินดีมากกว่าเห็นใจกับสิ่งที่เกิดกับผม
แต่สีหน้าของเขาไม่ได้แสดงออกมาให้เห็น เมื่อเขาคลายแขนจากตัวของผม
“แต่คุณคิดถูกที่เผชิญหน้ากับมัน”
ริมฝีปากของรองผู้อำนวยการฝ่ายกิจการนักศึกษาคลี่ออกเป็นรอยยิ้ม “กำแพงของความกลัวที่คุณคิดว่า
มันหนาเหมือนทำจากหินก้อนใหญ่ ที่จริงแล้วอาจจะเป็นแค่กำแพงที่ก่อจากอิฐบล็อกก็ได้
มันอาจจะดูแข็ง ดูหนา แต่มันไม่ได้ทำลายยากอย่างที่คิดไว้หรอกนะ เชื่อผมสิ ฮารุ คุณเริ่มต้นได้ดีแล้ว”
“อย่างนั้นละ ที่รัก” วินเซนต์วางมือลงบนแก้มของผม รอยยิ้มของเขากว้างยิ่งขึ้น “ยิ้มอย่างนั้นละ”
“คุณยิ้มสวยมากเลยรู้ไหม แล้วก็เชื่อฟังเหมือนคนที่ผมเคยชอบ ผมอยากทำให้คุณยิ้มอย่างนี้ตลอดไป”
“คุณทำได้จริงหรือ วินเซนต์”
“คุณไม่เชื่อผมเหรอ ฮารุ” เขาหัวเราะเบา ๆ “เชื่อผมสิ ผมจะทำให้คุณหลับฝันดีตลอดไป ผมสัญญา”
26. Mask
“เชื่อสิ... ผมเชื่อ”
ผมสบตากับเขา ยิ้มให้ และโอบแขนรอบคอของคนที่วางสองมือของเขาไว้ที่เอวของผม
ถ้าหากเขาไม่ได้เล่นละครเก่งเหมือนนักแสดงมืออาชีพ แววตาของเขาบ่งบอกถึงความพอใจอย่างยิ่ง
เขาชอบการมีอำนาจเหนือกว่า เขาชอบคนที่อายุน้อยกว่า ชอบคนที่มีสถานะต่ำกว่า ชอบคนที่เชื่อฟัง
เขามีจุดที่เหมือนกับจิตแพทย์ผู้ให้คำปรึกษาแก่ลีโอ แต่ในขณะเดียวกันก็มีส่วนที่แตกต่างอย่างชัดเจน
ทั้งแอปเปิลบี้และเครตช์เมอร์ ต่างมองว่าตนเองเหนือกว่าคนแอฟริกัน คนเอเชีย และคนยุโรปตะวันออก
การแสดงออกของพวกเขาแตกต่าง เครตช์เมอร์ชังอย่างเปิดเผย แต่แอปเปิลบี้เห็นโอกาสที่จะควบคุม
นีลกับคอนสแตนติดน่าเป็นตัวอย่างที่เขาชักจูงได้ง่าย ถึงไม่ใช่ลูกศิษย์โดยตรง แต่ทั้งสองคนก็คงรู้จักเขา
ผมไม่แน่ใจว่า นีล แม็คเคนซีเป็นเหยื่อรายแรกหรือไม่ หรือเขามีเหยื่อรายอื่นที่ลองผิดลองถูกมาก่อน
แต่ที่แน่ ๆ นีลอาจเป็นเหยื่อรายแรกที่เขาเลือกที่จะใช้เล่นเกมเพื่อพิสูจน์ว่า ตัวเองเก่งกาจขนาดไหน
พระเจ้าบันดาลความเป็นความตายให้มนุษย์ และไม่เคยมีใครตำหนิพระเจ้าว่าทำผิด
หรือต่อให้ตำหนิ หรือตะโกนถามขึ้นไปบนฟ้า ก็ไม่มีใครหน้าไหนเอาผิดกับผู้อยู่ในฐานะพระเจ้าอยู่ดี
ไม่ว่าเขาจะรู้ตัวหรือไม่ แต่ผมสังเกตเห็นว่า เขาเลือกเหยื่อที่เล่นด้วยยากขึ้น และไกลตัวขึ้นเรื่อย ๆ
นีลเป็นนักเรียนสาขาคหกรรมโดยตรง โอกาสที่จะได้พบกับอาจารย์ในสาขาอย่างเขามีมากที่สุด
ในขณะที่คอนสแตนติน่า เป็นนักเรียนนอกสาขา แต่เธอก็ยังรู้จักเขาในฐานะอาจารย์ฝ่ายกิจการนักศึกษา
แล้วผมล่ะ...
ผมไม่ได้เป็นใครสักคนในวิทยาลัยการอาชีพที่เขาสอนอยู่และอยู่ในฐานะที่จะนับถือเขาสักนิด
แต่ผมมีคุณสมบัติที่กระตุ้นเร้าความต้องการที่ซ่อนเร้นลึกล้ำในส่วนดำมืดของจิตใจเขาอย่างครบถ้วน
ผมเป็นลูกครึ่งญี่ปุ่นกับอังกฤษ มีลักษณะของคนเอเชียชัดเจนกว่าชาวตะวันตก และอายุน้อยกว่า
ถึงจะจบปริญญาโท แต่ก็สู้เขาที่จบปริญญาเอกไม่ได้ และที่สำคัญอาชีพตำรวจ ไม่เคยดูดีในสายตาใคร
ความสำเร็จในการทำคดีของผมขึ้นอยู่กับข้อมูลจากเขา และบุคคลที่อยู่ในการกำกับดูแลของเขาทั้งสิ้น
ถ้าเขาสามารถชักจูงผมให้คล้อยตามได้ และยอมเป็นเหยื่อของเขา ความปรารถนาของเขาก็จะเติมเต็ม
หลายคนอยู่ในข่ายต้องสงสัย ไม่เว้นแม้แต่ลีโอ คนที่ผมเป็นห่วงที่สุดและผมก็ทำตัวให้เขาเป็นห่วงเสมอ
แต่ผมตัดสิ่งที่ไม่ตรงกับ criminal profiling ของอาชญากรในคดีนี้ออกไปทีละข้อ ลีโอถูกตัดเป็นคนแรก
ดร. เครตช์เมอร์เป็นรายถัดมาที่ถูกตัดออกไป หลังพิจารณาอยู่นานพอสมควร ผมเสนอให้ตัดเขาออกเอง
เพราะคนที่เหยียดสีผิวและเชื้อชาติอย่างเขา ไม่มีทางที่จะทำให้คนประเภทที่เขาเกลียดไว้วางใจ
จิตแพทย์ของลีโอมีแนวโน้มที่จะเป็น ‘bottom’ มากกว่าเป็น ‘top’
เขาชอบลีโอ เพราะลีโอมีลักษณะของผู้ชายฝ่ายรุก และมองผมว่าแย่งความสนใจไปจากเขา
จึงมีความเป็นไปได้น้อยมาก ที่เขาจะเป็นฝ่ายจู่โจมผมที่ท่าเรือไบรตัน และล่วงละเมิดทางเพศแบบนั้น
แม้ว่า ดร. เครตช์เมอร์จะมีลักษณะที่ตรงกับบุคคลต้องสงสัยหลายอย่าง ไม่ว่าเรื่องที่เขาเป็นแพทย์
และอยู่ในสถานะที่จะเข้าถึงยาระงับประสารทได้ง่ายกว่าใครเพื่อน แต่พฤติกรรมของเขาไม่ใช่เลย
เหลือแต่วินเซนต์ แอปเปิลบี้... หรือเรียกกันอย่างให้เกียรติแก่คุณวุฒิของเขา คือ ดร. แอปเปิลบี้
เขาเป็นคนเรียนเก่ง สุภาพ เป็นมิตร มีเสน่ห์ เข้ากับคนง่าย แต่ไม่เคยคบหาใครจริงจังมาตลอดชีวิต
ประวัติของเขาที่พีทกับผมสืบหามาได้ พ่อที่เสียชีวิตไปเมื่อสิบปีก่อนของเขาเคยเป็นวิสัญญีแพทย์
พ่อของเขาเป็นหมอที่เก่ง แต่ค่อนข้างเก็บเนื้อเก็บตัว ในขณะที่วินเซนต์ก็เป็นเด็กดี ไม่เถลไถลไปไหน
ตลอดระยะเวลาที่พ่อของเขายังมีชีวิตอยู่ เด็กชายวินเซนต์เลิกเรียนแล้วดิ่งตรงกลับบ้านทุกครั้ง
ที่โรงเรียน เขาไม่เคยทำอะไรเสียหาย เป็นเด็กดีที่ครูและเพื่อนรัก มีความโดดเด่นในวิชาวิทยาศาสตร์
เขาเคยบอกกับทุกคนว่า เขาสนิทกับพ่อมาก และอยากเป็นแพทย์เหมือนกับพ่อของเขา
เขามุ่งมั่นจนสอบเข้าโรงเรียนแพทย์ได้ แต่หลังจากจบปีที่สอง เขากลับลาออกไปเสียดื้อ ๆ
เป็นเรื่องแปลก เพราะการเรียนของเขาอยู่ในขั้นดีเลิศ แต่เมื่อพ่อเขาไม่ว่าอะไร ก็ไม่มีใครว่าอะไรได้
ประวัติที่ผ่านมาของเขาเป็นคำตอบให้ได้ว่า เขามีความใกล้ชิดกับวิชาในโรงเรียนแพทย์แค่ไหน
และมีโอกาสที่เขาจะเรียนรู้อะไรหลาย ๆ อย่าง ที่อาจไม่สมควรนัก จากพ่อของเขามามากเอาการ
แต่นั่นก็มากเพียงพอแล้วที่ผมจะสงสัยเขา เมื่อรวมข้อมูลนี้เข้ากับการกระทำและพฤติกรรมที่แสดงออก
ทั้งลีโอและ ดร. เครตช์เมอร์ ไม่มีพฤติกรรมในการพยายามชักจูงหรือชี้นำความคิดให้ผมคล้อยตาม
แต่วินเซนต์ทำทุกอย่างที่ทั้งลีโอและ ดร. เครตช์เมอร์ไม่ทำ คือ เสนอความเห็นและตัวคนที่ต้องสงสัย
เขาสนุกกับการที่ได้เห็นผมเล่นตามเกม เขาพอใจกับการทำให้ผมหัวปั่น จนต้องยอมเชื่อฟังเขา
เมื่อเทียบกับนีลและคอนสแตนติน่า ผมเป็นเหยื่อที่เล่นด้วยยาก แต่นั่นทำให้เขายิ่งสนุก
เขาต้องการสิ่งที่ตอบสนองความใคร่ของเขาจากผม แต่ผมไม่คิดว่า เขาต้องการร่วมรักกับผม
มี ‘อะไรบางอย่าง’ ที่เขาอยากทำกับร่างกายของผม เช่นเดียวกับที่เขาได้จากนีลและคอนสแตนติน่า
เมื่อคิดทบทวน ผมก็พอจะมองสาเหตุที่เขาทำให้ผมสลบและฉีดโรฮิปนอลเข้ากล้ามเนื้อของผมออก
และความคิดนั้นที่แวบเข้ามาสมอง ก็ทำให้ผมรู้สึกคลื่นไส้อย่างบอกไม่ถูก โดยเฉพาะเมื่ออยู่กับเขา
ในภาวะที่กำลังสลบและหลับลึกเพราะยา ผมอยู่ในสภาพที่แทบไม่ต่างอะไรจากคนที่ตายไปแล้ว
นั่นละ คือ สิ่งที่ทำให้คนที่เล่นงานผมมีความสุข มันไม่เพียงแต่ท้าทายและทำลายความมั่นใจของผม
แต่สิ่งที่มันทำกับผมก็เพื่อสนองความใคร่ที่ควบคุมไม่ได้ของมันไปในเวลาเดียวกัน
เพราะคนตายไม่เคลื่อนไหว ไม่มีปากเสียง ไม่มีทางต่อต้าน และมันจะทำอะไรกับคนที่ตายแล้วก็ได้
“ผมเชื่อคุณ แต่ผมยังสงสัยว่า คุณจะทำให้ผมยิ้ม และหลับฝันดีตลอดไปได้ยังไง” ผมถามคนตรงหน้า
ภายใต้หน้ากากของอาจารย์แสนดี สุภาพบุรุษในสายตาของทุกคน วินเซนต์ แอปเปิลบี้ คือ ฆาตกร
ใบหน้าที่แท้จริงของเขายังคงหล่อเหลา มีเสน่ห์ดึงดูดดังเดิม แต่แววตาและรอยยิ้มบนใบหน้าเดิมนั้น
แปรเปลี่ยนเป็นดวงตาของคนที่วางตัวเองไว้ในฐานะพระเจ้าที่ยิ้มเมื่อทุกสิ่งเป็นไปตามที่ตนเองพอใจ
“ตามผมมาสิ ฮารุ” เขาโอบเอว ดึงตัวผมให้เดินไปพร้อมกับเขา “เดี๋ยวก็รู้เองว่า ผมทำได้ยังไง”
To be continued >>> Day 27-28 : Flip and Forget
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in