หลายๆ คนคงจะสงสัย คณะบ้าอะไรสอบเยอะแยะขนาดนี้ เราก็สงสัยเหมือนกับหลายๆ คน ว่าทำไมคณะที่ตนเรียนอยู่ถึงได้สอบเยอะขนาดนี้!! ในขณะเดียวกันเราก็เข้าใจคณะที่ไม่ค่อยจะมีสอบ แต่สั่งโปรเจคที่เยอะถึงขั้นทับตัวนิสิตมิดก็มี

                    เพราะทุกคนเรียนไม่เหมือนกัน จึงมีระบบการศึกษาที่ต่างกัน แต่มีสิ่งหนึ่งที่เราคิดว่าเหมือนกัน คือความเดือด (และความหัวร้อนเพราะงานไม่เสร็จหรือของอ่านหนังสือไม่ทันของนิสิต) นักศึกษาทุกคน ไม่ว่าจะอ่านหนังสือสอบเป็นบ้าเป็นหลัง ตัดโมเดล ออกแบบดีไซน์ต่างๆ ในระยะเวลาที่สุดจะกระชั้นชิด ซึ่งในกรณีแบบนี้ เราก็อยากถามหลายๆ ท่านที่จบการศึกษาและทำงานแล้วว่า "ตอนทำงานจะเดือดขนาดนี้ไหมคะ" ซึ่งก็ยังคงต้องการคำตอบอยู่ดี

                     การจัดระบบการศึกษาประหลาดที่เรากำลังจะพูดถึงก็คือ การจัดให้มีการสอบหลายๆ วิชาในเวลาเพียงไม่กี่วัน อย่างเช่นของเราที่สอบ 8 วิชา ในเวลาเพียง 4 วัน บางคนอาจจะคิดว่าก็ไม่เยอะมากเท่าไหร่นะ สำหรับวัยมัธยม เราก็เคยเข้าใจแบบนั้น จะอ่านก่อนสอบคืนนึงก็ยังได้ แต่ในการศึกษาระดับอุดมศึกษานั้น ไม่ง่ายเลย

                      อีกเรื่องหนึ่งที่คิดว่าเป็นปัญหาที่สำคัญสำหรับเด็กไทยในทุกวันนี้คือ วิชาที่เรียนบางวิชาก็เหมือนเรียนเสียเปล่า บางวิชาก็คิดว่า "เรียนไปทำไม โตไปก็ไม่ได้ใช้อยู่ดี" "เรียนให้ได้วุฒิล่ะมั้ง เห็นรุ่นพี่เคยบอกมาอย่างนั้น" เราคิดว่าหลายๆ วิชามันก็ไม่ได้สำคัญกับภาควิชาที่เรียน ทำให้รู้สึกว่าเราเรียนไปทำไม เพื่ออะไร รู้สึกเสียเวลา รู้สึกงงกับหลักสูตรที่ภาควิชา ตัวอย่างเช่น ภาควิชาไม่ได้เน้น(เรียกว่าไม่ได้ใช้เลยก็ได้) พวกคณิตศาสตร์ หรือฟิสิกส์อะไรทำนองนั้น อาจารย์ผู้สอนรายวิชายังถาม "พวกคุณเรียนแคลคูลัสเรื่องการหมุนกราฟสามมิติไปทำอะไรกันน่ะ หาปริมาตรของขวดน้ำเกลือหรือ syringe หรอ (ขำเล็กน้อย)" นั่นสิ หนูก็สงสัยเหมือนอาจารย์เลยค่ะ ทุกคนก็คงสงสัยเหมือนกัน ว่าวิชาที่ตนเองเรียนแต่ไม่ได้ใช้เลยจริงๆ จะเรียนไปทำไมกัน?

                       เราคิดว่าปัญหาระบบการศึกษาของประเทศไทยนั้นไม่ได้พบในเฉพาะระดับมหาวิทยาลัยหรอก เราว่ามันมีปัญหาตั้งแต่ระดับประถมและมัธยมเสียด้วยซ้ำ และคิดว่าผู้ใหญ่หรือหน่วยงานควรจะเข้ามาใส่ใจและจัดการกับปัญหานี้อย่างจริงจังแล้วล่ะ