เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
To all the movies I've watched beforeilysm
Movie Review “Malila (มะลิลา) - The Farewell Flower"
  • Movie Review

    “Malila: The Farewell Flower"

    มะลิลา”




       
              อะไรบางอย่างบอกเราว่ามะลิลาไม่ใช่หนังธรรมดาๆ อาจเพราะจากเทรลเลอร์แล้ว ภาพ แสง มู้ดและโทนของเรื่อง แตกต่างไปจากหนังวายขายความฟินที่คนไทยเคยผลิตออกมา หนังมีความนุ่มนวลชวนเหงาที่อธิบายไม่ถูก แต่สะกดเราไว้อยู่หมัด แถมเทรลเลอร์ก็ไม่สปอยล์เนื้อเรื่องเลย ต้องชมว่าตัดต่อออกมาน่าสนใจดี ผสมผสานบายศรี รักเพศเดียวกัน (แม้จริงๆ จะไม่โฟกัสประเด็นนี้เลย) และสัจธรรมสำคัญอย่าง 'การจากลา' ได้กลมกล่อมทีเดียว และพอไปดูก็พบว่า เออ คิดไม่ผิด            ปล. ปกติรีวิวยาว และแฝงสปอยล์ แต่บล็อกนี้จะปลอดการสปอยล์เพราะไม่มีเวลาเขียนวิเคราะห์และประเมินแบบจริงจัง แง feel free ที่จะอ่านก่อนไปดู แต่ถ้ารู้สึกว่าดีเทลยังเยอะอยู่ ก็ค่อยกลับมาอ่านหลังดูก็ได้ แชร์ความรู้สึกกันเฉยๆ


     เรื่องย่อ (แต่แนะนำว่าไปดูแบบไม่รู้อะไรเลยได้อรรถรสกว่า)

                  เชน เจ้าของสวนมะลิ และพิช คนทำบายศรี กลับมาเจอกันอีกคร้ั้งหลังจากพิชย้ายไปอยู่ที่กรุงเทพ ทั้งสองต้องพบเจอกับความตายของคนใกล้ตัวที่ตอกย้ำความไม่แน่นอนของชีวิต ไม่ต่างจากบายศรีที่ได้อวดความสวยงามเพียงช่วงสั้นๆ ไม่นานก็เหี่ยวเฉา




    ตัวละคร

                    นักแสดงเล่นเก่งมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก เก่งมากมาก หรือเราไม่ค่อยดูหนังไทยก็ไม่รู้ ไม่คิดว่า เวียร์ ศุกลวัฒน์ จะเซอร์ไพรส์เราขนาดนี้เหมือนกัน เนื่องด้วยไดอะล็อกค่อนข้างน้อย นักแสดงจะสื่อสารได้ผ่านทางภาษากาย สายตา สีหน้า เท่านั้น แต่ทั้งเวียร์และ โอ อนุชิต สามารถถ่ายทอดความรู้สึกของตัวละครได้อย่างเป็นธรรมชาติ โดยเฉพาะเลิฟซีนที่ไม่ใช่แค่เลิฟซีน มันไม่ใช่การร่วมเพศ มันคือการสื่อสาร การส่งผ่านความรัก การแสดงความโหยหาและหม่นหมองได้อย่างมีศิลปะ มีชั้นเชิง แต่ก็ไม่ได้ดูประดิษฐ์ สวยงามจนน้ำตาเราไหล จริงๆ นะ แบบประทับใจอะไรไม่รู้ อาจเพราะมันเป็นช่วงเวลาที่ตัวละครเอกทั้งสองได้ใกล้ชิดกันมากที่สุด เปล่าเปลือยมากที่สุด ไม่ใช่ในแง่ของร่างกาย แต่เป็นแง่ของจิตวิญญาณ สารภาพว่าฉากมันก็วาบหวิวและเรทประมาณนึง แต่ด้วยเมสเสจที่แข็งแกร่งมาก ฉากนี้เลยไม่อนาจาร แถมยังดูเป็นฉากสำคัญด้วย

                      ดังนั้น จุดแข็งคือนักแสดงตีบทแตก มีบ้างท่ี่หงุดหงิดเสียงและลักษณะการพูด (เราคิดว่าจังหวะพูดเหมือนโดนป้อนโปรแกรมเลย ฮือ) แต่ไม่ได้ทำให้อารมณ์ดรอปลง กลับเร้าให้เรารู้สึกมากขึ้นเรื่อยๆ ตามเวลาที่ผ่าน ขอชื่นชมเวียร์เป็นพิเศษเพราะซีนที่ต้องปลดปล่อยความรู้สึกออกมาเป็นครั้งแรกตราตรึงใจมาก 

                      ตัวละครไม่ได้นำเสนอใครคนใดคนหนึ่ง ไม่ได้นำเสนอคนรักร่วมเพศ แต่นำเสนอทุกๆ คนที่เคยผ่านความรู้สึกต้องลาจากอะไรสักอย่าง เราว่าอินตามได้ไม่ยาก และไม่รู้สึกว่านักแสดงพยายามอธิบายว่าพวกเขารู้สึกยังไง นักแสดงแค่รู้สึก แล้วเราก็เข้าใจได้ง่ายโดยไม่ต้องการบทพูดยาวๆ เยอะๆ



    พล็อต

                   บทจะเนิบนาบ ราบเรียบ นิ่ง และดำเนินไปช้าๆ บางทีก็ตัดสลับ ทำให้งงไทม์ไลน์หรืองงสถานการณ์บ้าง เราไม่ค่อยชอบบทตรงที่ทิ้งให้คิดเองค่อนข้างเยอะ คือไม่ใช่ทุกคนที่ดูปุ๊บจะเก็ทว่าฉากไหนหมายความยังไง T v T เหมือนหนังโยนเราเข้ากลางทุ่ง แล้วทิ้งให้เราปะติดปะต่อเนื้อเรื่องเองหมดเลย โดย pick up จากสิ่งที่นักแสดงพูดว่ามันเกิดอะไรขึ้นบ้าง แต่ละประโยคของพวกเขาจะคลี่คลายตัวหนังออกเอง ซึ่งข้อดีคือมัน realistic เหมือนอะไรที่เราจะคุยกันในชีวิตทั่วไป และเหมาะกับข้อความที่หนังต้องการจะสื่อ นั่นคือ สัจธรรมอันเที่ยงแท้ อย่างการเกิด แก่ เจ็บ ตาย แต่ข้อเสียคือถ้าไม่ชอบหนังเงียบๆ จะหลับได้ และเนื้อเรื่องก็ไม่ได้มีอะไรหวือหวา ไม่ได้น่าจดจำ 

                     แต่สิ่งที่ต้องยอมรับจริงๆ คือหนังใจถึงอะ เราได้เห็นทุกสิ่งที่ตัวละครเห็น เหมือนเป็นคนๆ หนึ่งที่ประสบเรื่องราวเดียวกัน เพราะแบบนี้หนังจึงสะท้อนความเป็นจริงของชีวิตได้ ฉาก ตัวละคร สัญลักษณ์ ล้วนจัดวางไปทิศทางเดียวกัน ดอกมะลิยังมีวันร่วง สักวันเราก็ต้องลาจากโลกนี้เช่นกัน และทิ้งความเศร้าไว้ให้ใครสักคนเบื้องหลัง แต่หนังไม่ได้ hopeless เสียทีเดียว (แม้อารมณ์หนังจะหม่นหนัก ดาร์กๆ ไม่ได้มีความโรแมนติกอย่างที่คิด) หนังเสนอทางแก้ไขให้เรารู้จักปล่อยวางและยอมรับ

                     ถ้าถามว่าชอบเนื้อเรื่องไหม มีจุดที่งง อึน ไม่เก็ท ดังนั้นไม่ค่อยชอบ แต่ถ้าถามเรื่องสื่ออารมณ์และแก่นเรื่อง เราคิดว่าทำได้ดีมากๆ



    ฉาก

                   หนังที่สวยขนาดนี้ที่ดูล่าสุดคือเรื่อง Call me by your name กล้าพูดว่างานภาพ งานแสง ไม่ทำให้ผิดหวัง ซ้ำยังเข้ากันดีกับเนื้อหาและอารมณ์แต่ละฉาก อาจจะพิเศษตรงสอดแทรกความเป็นไทยเข้าไปเยอะ ทำให้เราได้ appreciate ความงามของวัฒนธรรมชาติตัวเองบ้าง ชอบฉากทำบายศรี การลอยบายศรี ฯลฯ เหมือนได้มาพินิจงานฝีมือละเอียดๆ ทั้งๆ ที่ไม่เคยสนใจมันมาก่อน

                    กรี๊ดทุกฉากที่มีสายน้ำ .__. เรื่องนี้น้ำมีความสำคัญ ไม่ว่าจะในแง่ทางสายกลางหรือในแง่การปล่อยวาง ปล่อยให้ทุกอย่างไหลไปตามน้ำ หรือความไม่แน่นอนของอนาคต ก็เหมือนกับที่เราไม่รู้ว่าสายน้ำจะพาเราไปไหน ไม่ใช่แค่น้ำหรอก หนังพิถีพิถันในรายละเอียดอื่นๆ จนองค์ประกอบเรียงร้อยกันออกมาเป็นภาพที่นุ่มนวลละมุนละไม เอาจริงๆ แค่เข้าไปดูฉากก็รู้สึกคุ้มแล้ว ๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕ เพลงประกอบก็เพราะด้วย

                     แต่ขอติเรื่องไทม์ไลน์อีกรอบ ด้วยความที่ฉากมันต่อๆ กันไปหมด เราก็ไม่รู้ว่านี่พูดถึงอดีต ปัจจุบัน ความฝัน ความจริง หรือมิติพิศวงอะไร กรณีนี้ฉากที่ไหลลื่นเกินไปยิ่งเพิ่มความงงให้ตัวเรื่อง คนดูรับไม่ทัน ไม่ทันได้ดื่มด่ำกับความหมายในฉากก็เปลี่ยนฉากแล้ว



    ภาพรวม

                    ไม่ใช่อย่างที่คิดไว้ซะทีเดียว คิดว่ามีเซอร์ไพรส์หลายจุด แต่หนังไม่ได้ทำให้เราตื่นเต้นใดๆ ก็เอื่อยๆ เรื่อยๆ ต้องใช้สมาธิในการทำความเข้าใจ ผู้กำกับเหมือนซ่อนอะไรหลายอย่างที่รอการปอกเปลือก ถามว่าเรางงไหม บอกเลยว่างง ดิสคัสกับเพื่อนก็ยังงง แต่ด้วยฝีมือการแสดงชั้นเลิศของตัวเอกทั้งสองก็พยุงเรื่องนี้ไปจนจบ ดังนั้น ถ้าใครหวังไปดูเอาเนื้อเรื่องสนุก คิดว่าไม่ตอบโจทย์ แต่ถ้าอยากจะเข้าใจชีวิต อยากเข้าไปขบคิดเยอะๆ เรื่องนี้ก็เป็นหนังไทยท็อปฟอร์มเรื่องนึงที่อยากแนะนำ แม้ว่าสุดท้ายเราคงไม่อาจตัดขาดความรู้สึกอาลัยอาวรณ์ได้ แต่เราก็เรียนรู้ที่จะอยู่กับมันได้

                    8/10 เจอคำถามบ่อยๆ ว่าเรื่องนี้ a must มั้ย, ก็ไม่ แต่แนะนำให้ดูนะ ยิ่งถ้าชอบสไตล์ Call me by your name นิ่งๆ เงียบๆ เน้นไปที่ตัวละครมีมิติ มีความรู้สึกลึกล้ำที่ relate กับชีวิตเราได้ เรื่องนี้ก็น่าลองเหมือนกัน

                    ถึงสุดท้ายดอกมะลิจะโรยรา แต่ช่วงที่บานสะพรั่งก็หอมละมุนเนอะ


    - ilysm.


        






               





















     
                    
Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in
Piti Pui (@pitipui)
อ่านรีวิวแล้ว เห็นแววหลับยังไงก็ไม่รู้ เราไม่สันทัดหนังแนวนี้ แต่คนข้าง ๆ เขาอยากไปดู เขานอยเรื่องพลาด call me by your name ไปหนละไง วีคนี้น่าจะได้ดูอันนี้ ไว้ไปดูแล้วอาจจะแวะมาเม้าน้า :)
ilysm (@ilysm)
@pitipui หนังนิ่งมากจริงๆค่ะ T w T อาจหลับได้เลย