เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
To all the movies I've watched beforeilysm
Movie Review “SENSEI! My Teacher"
  • Movie Review

    “SENSEI! My Teacher"

    เพราะหัวใจแอบรักเซนเซย์”






                     ถ้าถามว่ารอเรื่องนี้อย่างใจจดใจจ่อแค่ไหน บอกเลยว่ามาก เพราะต้องยอมรับว่าแม้หนังญี่ปุ่นจะไม่ค่อยใช่แนว แต่ Trailer ภาพสวยงาม และตัดฉากออกมาได้เย้ายวนชวนให้ไปดู เพราะว่าฟินมากกกกกกกกกกก ไม่ว่าจะกลิ่นอายความรักตลบอบอวล เนื้อเรื่องแนวครู-นร ซึ่ง is somehow my thing และที่สำคัญคือพระเอกหล่อมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก โทมะ อิคุโตะ คือหล่อสะท้านไปหมด ไม่ไหวๆๆๆๆๆ ต้องไปจัดสักหน่อย พอดูจบ เออแฮะ แปลกใจที่เลือกเขียนรีวิวเรื่องนี้แทน The Shape of Water เพราะยอมรับเลยว่าเรื่องนี้อิมแพคใจเรามากกว่า



     

    เรื่องย่อ

                  ฮิบิกิ สาวน้อยมัธยมปลายแอบรักคุณครูวิชาประวัติศาสตร์โลก อิโตะเซนเซย์ ผู้ที่เด็กๆ เม้าท์กันว่าหยิ่งนักหยิ่งหนา แต่ฮิบิกิรู้สึกว่าเขาแสนจะอ่อนโยนและดีกับเธอ แต่ความเป็นครูและศิษย์ก็กลับกลายเป็นกำแพงหนาคั่นกลางระหว่างทั้งคู่ พร้อมด้วยอุปสรรคสารพัด





    ตัวละคร

                    นักแสดงเล่นดีทีเดียว แม้เราจะตงิดใจกับบทฮิบิกินิดหน่อย มีความคิดความอ่านที่เหมือนคัดกรองมาจากในคอมมิค (แต่ยังไม่เคยอ่านคอมมิคเรื่องนี้นะ) จนมันดูไม่เรียล ไม่ได้เป็นธรรมชาติขนาดนั้น และเรามีปัญหากับการฟังผู้หญิงญี่ปุ่นพูด โดยเฉพาะเพื่อนนางเอก คือเสียงแหลมเล็กแล้วระคายหูแปลกๆ ฮือ ๕๕๕๕๕๕๕๕ แต่ตัวนางเอกสวยมากกกกกกกกกกกกกกจนมองข้ามช่องโหว่ต่างๆ และรู้สึกว่ามีความไร้เดียงสา จริงใจ คิดอะไรแสดงออกแบบนั้นจริง

                    ส่วนผลงานการแสดงของโทมะ ขออวยแบบไม่ลืมหูลืมตาว่าถ่ายทอดความรู้สึกได้ดีทั้งๆ ที่บทพูดน้อย อาจารย์แกหล่อๆ คูลๆ คาร์เย็นชาแบบพระเอกการ์ตูนญี่ปุ่นนั่นแหละ แต่บทจะหัวเราะก็ทำเอาโลกสดใส บทจะจริงจังก็จริงจัง ทำให้หนังโรแมนติกได้ทั้งๆ ที่ตัวละคร non-romantic ใจชั้ลบางงงงงงงงไปหมดแล้ว เซนเซย์หล่อค่ะ ชอบนะคะอยากได้ .////. แต่ไอ้ที่บอกว่าแสดงเก่งคือพูดจริงๆ แบบตัดคะแนนหน้าตาออกไปแล้ว เพราะด้วยความที่ตัวละครนี้พูดน้อย ทางเดียวที่จะ express ความรู้สึกข้างในออกมาให้ผู้ชมรับรู้ คือผ่านสีหน้า สายตา ท่าทาง ซึ่งโทมะก็ประสบความสำเร็จ




    มีสปอยล์


                     ฉากที่เราชอบเป็นพิเศษมีสองตอน ตอนแรก อิโตะเซนเซย์อยู่บนดาดฟ้ากับนางเอก ซึ่งเราก็ไม่คาดคิดว่ามันจะเป็นฉากที่แบบโคตรไฮไลท์ของเรื่อง เพราะพอนางเอกก้มลงสาบานรักปุ๊บ เราแอบหลุดขำ มันดูการ์ตูนเกินไปนิดดดดด แต่พอจังหวะที่โคลสอัพหน้าอาจารย์ แล้วอาจารย์มองนางเอกด้วยสายตาอบอุ่นและเปี่ยมล้นไปด้วยความรู้สึก เราถึงกับชะงัก น้ำตาค่อยๆ ซึม เห้ยยย มันเป็นฉากที่สวยงามมากเลยนะ เซนเซย์ค่อยๆ พ่ายแพ้ต่อความต้องการจริงแท้ และจูบฮิบิกิแบบละมุนละไม สวย สวยมากกกกกกกกกกกกกกกกก /ปาดน้ำตา 

                      อีกฉากที่ประทับใจไม่แพ้กันคือตอนที่อิโตะเซนเซย์อยู่ในรถกับนางเอกสองคน แล้วนางเอกก็ถามความในใจ เซนเซย์เหมือนกำลังจะสารภาพรัก แต่ภาพตัดไปว่าเขาเห็นเด็ก ม.ปลาย จูงมือเดทกันงุ้งงิ้งเสียก่อน แล้วสายตาเขาเปลี่ยนไปเลยอะ กลายเป็นเวิ้งว้างว่างเปล่า เหมือนมีอะไรมาฉุดรั้ง ว่าทำแบบนี้ไม่ได้ เลยตัดใจพูดแย่ๆ ใส่ฮิบิกิอีกครั้ง ซึ่งประโยคนั้นจะไม่สื่อใจความตรงข้ามขนาดนี้ถ้าโทมะไม่ได้แสดงออกผ่านสายตาว่าเขารักและแคร์ฮิบิกิจริงๆ แต่ต้องพูดตัดความสัมพันธ์ไปงั้นเอง

                    หลังชมเรื่องฝีมือการแสดงแล้ว ก็ขอติเรื่องใช้ตัวละครไม่คุ้มนัก เสียดายพระรอง น่าจะมีบทให้ฟุจิโอกะมากกว่านี้นะคะ T v T ออกมาเตือนสตินางเอกแล้วก็ไป ซึ่งทำให้เราได้แต่สงสัย อ้าว นางเอกบอกให้พระรองรูปหล่อเลิกหวังยังนะ ตอนจบของตัวละครนี้เป็นยังไง เพราะหลังๆ หนังก็โฟกัสกลับไปที่พระนางจนลืมพระรองไว้กลางทางซะงั้น

                    หมดสปอยล์




                     ประเด็นที่ตัวละครเรื่องนี้ได้ทำหน้าที่ส่งสารอย่างสมบูรณ์แบบคือมุมมองที่แตกต่างของเด็กกับผู้ใหญ่ หรือก็คือช่องว่างระหว่างวัย ผู้ใหญ่อย่างบรรดาอาจารย์เก็บความรู้สึกเก่งและจัดการปัญหานู่นนี่ด้วยความเยือกเย็น ซึ่งบางครั้งก็แฝงการโกหก ทำให้ผู้ใหญ่กลายเป็นสิ่งมีชีวิตที่ระบบความคิดซับซ้อนวุ่นวาย เด็กไม่เก็ทว่างั้น ช่างคอนทราสต์กับตัวละครเด็กในเรื่องที่ล้วนใสซื่อ มองโลกในแง่ดี จริงใจ และเปลี่ยนแปลงยืดหยุ่นได้เพื่อสิ่งที่ต้องการ หนังเจาะให้เราเห็นทีละนิดว่าปัญหาไม่ได้อยู่ที่ ครู-นร รักกันไม่ได้ แต่อยู่ที่ผู้ใหญ่และวัยรุ่นสื่อสารกันไม่เข้าใจ ไม่ยอมฟังกัน น่าสนใจที่ไอเดียนี้ไม่ได้หยุดอยู่แค่ในหนัง แต่รวมไปถึงข้อขัดแย้งอื่นๆ ที่เกิดขึ้นว่าบางทีสาเหตุอาจจะแค่คนสองวัยไม่พยายามปรับตัวเข้ากันก็เป็นได้ หนังไม่ได้ยกย่องวัยไหนเป็นพิเศษ แต่สะท้อนให้เห็นว่าเด็กก็ทำให้คนอื่นเดือดร้อนได้ถ้าเอาแต่ใจตัวเอง และผู้ใหญ่ก็จะไม่ได้สิ่งที่ต้องการถ้าเอาแต่หลบซ่อนไม่ยอมรับความจริง ดูเผินๆ ก็เป็นแค่หนังครู-นร ธรรมดา แต่จริงๆ หนังจี้ประเด็นนี้ได้ดีกว่าที่เราคิด 

                      สุดท้ายนี้ ตัวละครในเรื่องมี Character development ไม่ชัด แต่ก็ likely ที่จะ develop อะ เพราะตัวละครรู้จักข้อผิดพลาดตัวเองและแก้ไขได้ สารภาพว่าตกหลุมรักเซนเซย์มากค่ะ ไม่แปลกใจที่ฮิบิกิจะหลง งงมากกว่าว่าทำไมเด็กคนอื่นไม่หลง ฮือออออออออออออออออ ฮอตเบอร์ล้าน เคมีพระนางเค้ามาแรงนะ แบบเข้าซีนแต่ละทีมันช่างหอมละมุนกลมกล่อม อ่าห์ age gap is the best 





    พล็อต

                    ธรรมดามาก โคตรจะตามแพทเทิร์นของนิยายแนวนี้ คือถ้าเคยอ่านอะไรคล้ายๆ กันมาบ้างก็จะเดาได้เลยว่าเริ่มต้นไง จบยังไง แต่เราก็เซอร์ไพรส์นะที่ตัวเองอินขนาดหนัก ปกติดูหนังรักไม่ได้ยิ้มแก้มแทบแตกแล้วจิกแขนตัวเองเอาเป็นเอาตาย แต่ก็เป็นกับเรื่องนี้ แถมยังร้องไห้อีกต่างหากทั้งๆ ที่หนังไม่ได้เศร้ามากเทียบกับผลงานก่อนหน้าของผู้กำกับ (Tomorrow I will date with yesterday you) ด้วยความที่พล็อตมันง่ายๆ ไม่ซับซ้อน แต่เป็นสิ่งที่ใครๆ หลายคนน่าจะเคยเจอ ใครมีประสบการณ์แอบรัก หรือใครเคยรักอาจารย์ ก็จะรู้สึก related ได้ไม่ยาก 

                    สำหรับเรา เนื้อหามันเพ้อฝันไปนิด ดูขายแฟนตาซี แต่ถ้ามองในแง่อิมแพคแล้ว เห้ย มันกระแทกใจเราว่ะ มีหลายประโยค หลายฉากเหลือเกินที่ทำให้เรา high school sick---คิดถึงความรู้สึกตอนเป็นเด็กมัธยม ความรู้สึกตอนตั้งใจเรียนเพื่อใครสักคน ความรู้สึกตอนแอบรัก และมันทำให้เรามีชีวิตอีกครั้ง เรากลายเป็นส่วนหน่ึ่งของหนัง เราอยากจะตะโกนแบบ เห้ย เป็นเหมือนกันเว่ย ใส่หนังหลายรอบมาก๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕ รู้ตัวอีกทีก็ซับน้ำตาจนทิชชู่แฉะไปหมด หนังที่ง่ายที่สุดมักจะเล่นงานเราหนักที่สุด ถ้าเราเข้าใจตัวละคร เข้าถึงเนื้อเรื่อง เหมือนมันเกิดกับตัวเอง เหมือนมันเกิดเมื่อวาน แบบนี้เลย





    มีสปอยล์


                   และที่สำคัญ เนื้อเรื่องซัพพอร์ตศีลธรรมแบบกำลังดี ไม่ยัดเยียดว่าอะไรถูก-ผิด เหมือนนำเสนอเฉยๆ ว่าสังคมจะเลือกทางออกนี้วันยังค่ำ ทางเดียวที่ทำได้คือปล่อยให้ความรักมันทำงาน และถ้า you two are made for each other จริงๆ อายุหรืออุปสรรคอื่นไม่ใช่ปัญหาเลย คุณสองคนจะลงเอยด้วยกัน ในวันที่สังคมเห็นพ้องและยอมรับ เอาล่ะ มันก็คือตอนจบที่ไม่ได้ encourage การทำผิดจรรยาบรรณนั่นแหละ แต่เราว่ามันคือทางที่ดีที่สุดแล้ว ในเมื่อมีอะไรต้องคำนึงถึงหลายอย่างถ้าครูจะเดทกับนักเรียน มันไม่ใช่แค่คนสองคน มัน involve ความเป็นโรงเรียนมาด้วย ยกตัวอย่างเช่น การตัดเกรด ครูก็จะถูก question ชัวร์ๆ ดังนั้น พบกันครึ่งทางคือแฟร์พอควร

                   อีกเมสเสจน่ารักๆ ที่เรื่องนี้เน้นตลอดก็คือ 'ใช้เวลาให้คุ้มค่า จะได้ไม่เสียใจภายหลัง' มันคือวลีที่อมตะ ไม่ได้จำกัดแค่ชีวิตมัธยมเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงตลอดชีวิตที่เหลือเนี่ย ว่าเราจะใช้มันยังไงให้ไม่มีคำว่า regret และเราก็ชอบมากที่นางเอกรู้สึกว่าตัวเองได้ใช้มันอย่างเต็มที่ ได้รักใครสักคนอย่างสุดหัวใจ ในอนาคตนางเอกจะได้บอกใครได้ว่าครั้งหนึ่งเคยมีชีวิตที่มีสีสันขนาดนี้ เราอิจฉานะ มีความทรงจำให้คิดถึงดีกว่าไม่มีอะไรเลย

                   สุดท้าย ถ้าพูดถึงระดับความโรแมนติก ให้ 10/10 เลยนะ ฉากเขินมากกกกกกกกกกกกกกกกกกก น่ารักสุดๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ดูแล้วอิ่มกับความฟิน พอฉากซึ้งก็ซึ้ง เราเจ็บชะมัดตอนนางเอกตัดพ้อว่า 'ทำไมหนูต้องเป็นเด็ก' 'อยากเป็นผู้ใหญ่เร็วๆ จัง' เออคือแบบ อินว้อยยยยยยยยยยยย ใช่เลย ใช่! แต่ถามว่ารักมันเจ็บปวดมากๆ แล้วย้อนเวลากลับไปจะไม่รักมั้ย ก็เห็นด้วยกับคำตอบนางเอกว่า 'I wouldn't change a thing' เลยอะ ต้องยกความดีความชอบให้ผู้กำกับเขาจริงๆ รู้จังหวะ ทำให้หนังรักที่พล็อตไม่ได้มีอะไรมากสามารถดำเนินไปจนจบได้โดยบิ๊วอารมณ์คนดูได้ดี อย่างน้อยก็ดึงเราไว้อยู่หมัดคนนึง ๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕


    หมดสปอยล์


                   




    ฉาก


                      ภาพสวย สีสวย สไตล์หนังญี่ปุ่น สีสันทำให้ทุกอย่างดูซอฟต์และโรแมนติกเหลือเชื่อ จะถ่ายมุมไหนก็ดูอบอวลไปด้วยความรัก และเพลงประกอบคือดีมากกกกกกกกกกกกกกกกกกก ดีงามดาวห้าล้านดวง บางทีร้องไห้เพราะเพลงส่งอย่างเดียวเลย ฉากแช่ค้างเราก็ชอบ แม้คนจะบอกว่าทำให้หนังเนิบ

    มีสปอยล์

                      อีกอย่าง ก็เป็นหนังที่พิถีพิถันกับรายละเอียดยิบย่อยใช้ได้ เช่น การเลือกใช้กล่องนมรสสตรอเบอร์รี่ อันนี้อาจจะมาจากคอมมิคอยู่แล้ว แต่มันสะท้อนความเป็นเด็กชัดเจน ตัดกับกาแฟที่ถูกมองว่าสะท้อนความเป็นผู้ใหญ่ การที่อิโตะเซนเซย์เลื่อนสถานะเครื่องดื่มให้ฮิบิกิก็คือการยอมรับเธอในฐานะผู้หญิง ไม่ใช่คนที่เป็นนักเรียน หรือจะเป็นการใช้ธีมชุดแต่งงาน ฉากที่ครูพูดว่า ดูไม่เหมาะกับเธอ สะท้อนว่าเขายังมองฮิบิกิเป็นเด็ก แต่ชุดแต่งงานคือชุดที่แสดงความเป็นผู้ใหญ่ แทนวันสำคัญของผู้หญิง ซึ่งก็ในแง่หนึ่งก็ทำให้เราเชื่อว่าความรักที่ฮิบิกิมีต่ออิโตะเซนเซย์เลยจุดที่เรียกว่า puppy love มาแล้ว

                      และสัญลักษณ์เบาๆ (นับได้ไหมนะ) ที่ชอบที่สุด คือฉากที่ฮิบิกิจักรยานล้ม เข่าและขาถลอกไปหมด แต่ก็ยังพยายามฝืนวิ่งมากอดเซนเซย์ เห็นชัดเลยว่าถึงจะเจ็บแต่เธอจะเดินไปให้ถึงจุดหมายปลายทาง ก็เหมือนความรักที่ดูเป็นไปไม่ได้ของเธอกับอิโตะนั่นแหละ

     

    หมดสปอยล์





    ภาพรวม

                    ผิดคาดอะ คิดอยู่แล้วว่าน่าจะชอบ คงฟินตาย พอไปโรงคือฟินกว่าที่คิด ใจไม่พร้อมมมมม อหๆๆๆๆๆๆๆๆ แต่ความรู้สึกที่ได้กลับไปอยู่ไฮสคูลก็หอมหวานไม่แพ้กลิ่นความรักระหว่างทั้งคู่เลย รู้สึกดีนิดนึงตรงคนที่ไปดู นอกจากจะได้เสพความหล่อของโทมะจนแทบช็อกตายคาโรงแบบเราแล้ว ยังได้เห็นแง่มุมใสบริสุทธิ์และสวยงามของความรักครู-นร ว่ามันไม่ได้ creepy และผิดแปลกขนาดที่ใครบางคนคิด เพราะ "ไม่มีใครไม่สมควรได้รับความรัก" ดังนั้น จงใช้เวลาให้คุ้มค่า อย่าให้ตัวเองต้องเสียดายที่ไม่จ่อมจมลงไปในห้วงรักนั้น เพราะมันอาจไม่มีครั้งที่สอง

                    ปล. ความอินขึ้นอยู่กับประสบการณ์ เรามี soft spot ให้เรื่องแบบนี้ หนังที่เราชอบก็คือหนังที่เราชอบ ไม่ได้แปลว่าเป็นหนังดี หนัง recommended แต่ถ้าใครชอบหนังรักโรแมนติก ยืนยันว่าเรื่องนี้จะกระตุ้นให้คุณรู้สึกอะไรบ้างสักนิด อาจจะรู้สึกกลับมามีชีวิตแบบเราก็เป็นได้


                    8.5/10 จริงๆ อยากเพิ่มอีก 9.5 ให้ความหล่ออาจารย์ อ้าว ไม่ได้หรอ 


    - ilysm.




Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in