Movie Review
“Justice League
จัสติซ ลีก”
เล็งหนังเรื่องนี้ไว้ตั้งแต่ไหนแต่ไร ถึงจะผิดหวังจาก Batman VS Superman มาก็ยังมีความหวัง พอเห็นฟอร์มดีซีจากเรื่อง Wonder Woman ไปเริ่มใจชื้นแล้ว ถึงแม้ผู้กำกับจะคนละทีมแต่อย่างน้อยมีแม่กัลก็รู้สึกคุ้ม เลยท้าทายกระแสลบๆ ด้วยการไปพิสูจน์ด้วยตัวเอง
เรื่องย่อ
จากความตื่นตัวเรื่องการกอบกู้ศรัทธาจากมนุษย์ และด้วยแรงบันดาลใจจากความเสียสละของซูเปอร์แมน บรูซ เวย์นจึงขอความช่วยเหลือจากเพื่อนใหม่ ไดอาน่า ปรินซ์ เพื่อผนึกกำลังไปเผชิญหน้ากับศัตรูด้วยกัน แบทแมนและวันเดอร์วูแมนต้องรวมทีมยอดมนุษย์เพื่อต่อสู้กับมหันตภัยร้ายครั้งใหญ่ที่กำลังจะมาถึง แต่การรวมทีมเหล่าฮีโร่ที่ไม่เคยมีมาก่อนอย่างแบทแมน วันเดอร์วูแมน อะควาแมน ไซบอร์ก และ เดอะแฟลช อาจสายเกินไปสำหรับการกอบกู้โลกจากกลุ่มเหล่าร้ายที่บุกจู่โจม
(ลอกเรื่องย่อจาก Major Cineplex เลยค่ะ)
ตัวละคร
สำหรับเรา จุดแข็งของ JL อยู่ที่ตัวละครแต่ละตัว ผู้กำกับมีวิธีแนะนำตัวละครให้เรารู้จักแบบคร่าวๆ แต่เข้าใจง่ายและน่าสนใจ แบทแมนที่คุ้นหน้าคุ้นตาดีอยู่แล้ว ภาคนี้เพิ่มลูกเล่นให้ได้เห็นอุปกรณ์ของแบทแมนมากขึ้น และจุดที่ชอบคือการกล่าวถึงประเด็นความเป็นผู้นำของแบทแมน ความรู้สึกผิดของบรูซต่อการตายของคลาร์ก และมุก I'm rich ก็กอบโกยซีนให้ป๋าเบนแบบสุดๆ แด๊ดดี้สายเปย์เว่อออ
สำหรับเจ้าหญิงไดอาน่า ก็ยังคงเป็นตัวละครโปรดของเราโดยไม่ต้องสงสัย ความ mature ความแข็งแกร่ง ความคมเฉี่ยวช่าง contrast กับตอนเป็นวันเดอร์วูแมนใสซื่อในหนังเดี่ยวของตัวเอง ซึ่งก็ทำให้เห็นพัฒนาการตัวละคร (แบบข้ามภาค) และยังเห็นพัฒนาการสำคัญอย่างการกล้าเปิดตัวเองให้สาธารณชนมากขึ้นอีก สาวสวยหนึ่งเดียวที่อาจมองเป็นสัญลักษณ์ของ Feminist ในปัจจุบันทำให้เราขนลุ๊กกกขนลุกก ทุกฉากที่เธอออกมาวาดลีลา และรู้สึกคุ้มค่าเสมอเวลาซาวด์ WW ขึ้น
ตัวละครใหม่ที่เราได้ทำความรู้จักในภาคนี้หนึ่งในนั้นคือ เดอะแฟลช ซึ่งไม่น่าเชื่อเลยว่าเอซร่า (ที่เราติดตาแต่ภาพเครเดนซ์) จะแสดงออกมาได้สดใสเป็นสีสันประดับความมืดหม่นของหนังดีซี ซึ่งแตกต่างจากหนังดีซีเรื่องอื่นๆ จะว่าตลกก็ตลก จะว่าเด๋อก็เด๋อ น้องน่ารักกกกก อยากได้เป็นลูก ชอบประเด็นพ่อ-ลูก ของเดอะแฟลชมาก เสียดายที่ได้พูดถึงแบ็กกราวน์แบร์รี่น้อย เรายังอยากรู้จักเค้ามากกว่านี้
อีกสองคน อควาแมน คนนี้เราตามไม่ค่อยทัน เพราะไม่รู้จักมาก่อนเลย แต่ชอบตรีศูรโพไซดอนพี่แกนะ5555555 ชอบความดิบๆ เถื่อนๆ ด้วย ส่วนไซบอร์กก็คูลมาก ล้ำยุคมาก เห็นเวลาเอามือไปเชื่อมต่อระบบทีไรใจสั่น แต่ข้อเสียก็คือตัวละครทุกตัวมีจุดเด่น มีเสน่ห์ แต่ DC ยังเฉลี่ยบทได้ไม่ดีนัก เวลาอยู่ด้วยกันบางคนจะกลืนหายไปเลย อย่างไรก็ตาม ผู้กำกับอาจตั้งใจเน้นตัวละครใดตัวละครหนึ่ง อันนี้เราก็ไม่อาจรู้ได้
มีสปอยล์
ส่วนซูเปอร์แมน ให้ความรู้สึกหลากหลายมาก การปรากฏตัวเท่กว่าตอน BvS เยอะ แต่ก็กลายเป็นคล้ายๆ god in the machine คือโผล่มาแค่พอให้หนังคลี่คลายง่ายๆ ง่ายไปอะ ดื่มด่ำหนังไม่เต็มที่ เค้ากลายเป็น God เป็นอะไรที่อยู่เหนือทุกสิ่ง ซึ่งเป็นตอนจบที่ไม่ประทับใจเท่าไหร่ เพราะมันกลายเป็นเราไม่ได้เรีียนรู้อะไรจากเรื่องนี้ ประเด็นความสามัคคีในตอนแรกทุบไม่แตกอะ ก็ค้างๆ คาๆ awkward ยังไงไม่รู้
แต่โดยรวมแล้ว จัดว่าถ้าแต่ละตัวละครมีหนังเดี่ยว (โดยเป็นนักแสดงกลุ่มนี้รับบท) เราก็อยากจะไปดูทุกตัวเลย เท่มากๆ นึกถึงธอร์ เรื่องนั้นใช้เฮล่าไม่ค่อยคุ้ม เฮ้อ555555 อีกข้อเสีย JL คือตัวร้ายช่างไร้ความน่ากลัว ดูอ่อนด้อยมาก นี่จุดจบโลกแล้วหรอ ไม่ยิ่งใหญ่สมเป็น JL เท่าไหร่ เหมือนหนังไปไม่ถึงสเกลที่วางไว้ เราก็มาลุ้นกันว่าแล้ว Infinity wars จะสามารถ make it right เหมือนคราว Civil War ปะทะ BvS ได้มั้ย (นี่ก็ขี้เสี้ยมจ้า)
พล็อต
ถ้าคาร์เป็นจุดแข็งพล็อตคงเป็นจุดอ่อน เพราะรู้สึกว่าวางพล็อตมาไม่ค่อยดี เทน้ำหนักไปตอนปูเรื่องเสียเป็นส่วนใหญ่ บิ๊วอารมณ์ใช้ได้นะ แต่พอไต่ถึงไคลแมกซ์แล้วคลี่คลายไวเกิ๊น climax ยังไม่ทันถึงจุดพีค ก็ปล่อย resolution เข้ามาอย่างง่ายดาย อธิบายให้เห็นภาพก็คือยังไม่ทันหลั่งเลือดหรือมีฉากตราตรึงใดๆ ก็ตัดเข้าตัวร้ายตายแล้วอะ นี่แหละสาเหตุที่คนบอกว่าหนังจบเร็วเกิน ทั้งๆ ที่ความยาวก็ไม่ได้ถึงกับน้อย เป็นเพราะช่วง crisis - climax - denouement จัดสรรสัดส่วนไม่ค่อยดีนั่นเอง
แต่ในแง่การดำเนินเรื่องโอเคเลย พอใจมาก ไม่ยืดยาดและทำให้พอเห็น point ความสามัคคี แม้จะรู้สึกว่าหนังเร่งรัดให้มารวมตัวกันมากไปนิด จนไม่ค่อยเห็นพัฒนาการด้านความสามัคคี ไปไม่สุดว่างั้นเถอะ แต่ถ้าถามว่าสนุกมั้ยก็สนุกนะ ดูเพลิน จังหวะมุกดี ดูผ่านการครุ่นคิดมาแล้วไม่ใช่เอะอะยัดๆแบบ BvS เลยไม่ค่อยเข้าใจการที่คะแนนหล่นไปอยู่ใกล้ๆ กัน เฮ้ยยยยยย มันไม่ได้แย่ขนาดนั้น เนื้อหาก็หนังฮีโร่ ไม่ต้องคิดเยอะ
อาจจะชอบเพราะเรื่องนี้เส้นเรื่องตรงๆ ก็เป็นได้ ชัดเจนว่าอะไรคือ conflict อะไรคือ resolution แม้จุดโฟกัสจะยังก้ำๆ กึ่งๆ เอ๊ะตกลงจะสื่ออะไรนะ เป็นต้น
ฉาก
สองจิตสองใจกับ Visual effects ใจนึงก็คิดว่าสวยงามดี อีกใจก็คิดว่าแต่ไอ้ที่ใส่มามันไม่ได้ดีขนาดจะ slow motion โชว์บ่อยๆได้ เข้าใจนะว่าอยากเน้นให้เห็นพลังของเดอะแฟลช แต่แทนที่มันจะดูเร็วกลับใช้เทคนิคนี้ยืดจนดูช้า ดูแล้วยังไม่อินพลังเดอะแฟลชเท่าที่ควร
ในแง่ของเพลง ขัดใจซาวแทรคตอนเริ่มต้นมาก ทำไมใส่เพลงแบบนั้นนนนน เพลงที่เลือกมาก็เพราะแต่หย่อนเปิดจนไม่เหมือนหนังฮีโร่ ฮือออออออออ มันกึ่งๆ จะเศร้าก็ไม่สุด จะเท่ก็ไม่เท่
แต่ยอดเยี่ยมตรงไหน ฉากแอคชั่น ฉากสู้ รู้สึกสะใจมากกกกกกกกกกกกกกกกกก ลายท่าต่างๆสวย ละเอียด คม มีเอกลักษณ์ โดยเฉพาะวันเดอร์วูแมน /อวยแม่กัลซ้ำๆ ทำให้เรานึกถึงตอนดู WW มากๆ ก็เท่แบบนี้แหละถึงตกหลุมรัก เต็มอิ่มกับฉากสู้ของฮีโร่มากเลย แบ่งบทพอให้ทุกตลคได้โชว์ของ จัดว่าฉากต่อสู้ต้องยอม DC เขาเลย
ภาพรวม
โดยสรุปแล้ว เป็นหนังฮีโร่ที่ดูง่าย ย่อยง่าย และทำให้รู้จักตัวละคร DC มากขึ้น เราชอบนะ ไม่ได้แย่อย่างหลายๆเพจรีวิว ตรงกันข้าม แอบชอบมากกว่าธอร์ ไม่รู้เพราะของมาร์เวลมันเน้นประหลาดเหนือความคาดหมายจนเส้นเรื่องออกจะพังๆ เละๆ รึเปล่า (แต่นี่แฟนมาร์เวลนะ ออกตัวไว้ก่อน) เราชอบหนังไม่เยอะแบบ JL นะ แต่ต้องติเลยว่าเหมือนซูเปอร์แมนมาแบบไม่เนี้ยบอะ ทำให้อะไรหลายอย่างที่ดีอยู่แล้วร่วงๆ ไงไม่รู้ บวกกับการตัดต่อกับงาน Visual ที่อาจจะขัดใจหลายคนไปบ้าง แต่ถ้าดูเอามันส์ ดูเอาตัวละคร ดูเอาความฮีโร่ เรื่องนี้ก็เป็น choice ที่ดีและฟอร์มดีกว่า BvS ในความรู้สึก
ปล. แต่สิ่งที่เศร้ามากคือรีบกลับ เลยออกไปก่อนได้ดูเอนด์เครดิตที่ได้ยินว่าคุ้มค่าควรนั่งรอ ฮืออออออ
สรุปให้ 8/10 เอนเอียงให้ Wonder Woman มากหน่อย ๕๕๕๕๕
- ilysm.
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in