เซอร์เอ็ดเวิร์ดพูดจาโยกโย้เป็นปริศนาจนน่ารำคาญใจก็จริง แต่ข้าพเจ้ากลับรู้สึกว่า ตลอดเวลาที่พูดกับข้าพเจ้า เขาไม่ได้โกหกเลยแม้แต่คำเดียว ตรงกันข้าม เขากลับพยายามทำให้ข้าพเจ้ารู้สึกว่าเขากำลังพูดเท็จจนน่าสงสัยเสียมากกว่า
“แสดงว่าคุณเคยซื้อบริการจากถนนคลีฟแลนด์”
“ถูกต้อง”
“คนที่คุณซื้อบริการเป็นใคร”
เขามองข้าพเจ้าแล้วยิ้ม
“เด็กหนุ่มที่ชื่อจิมมี่... ดูเหมือนจะเป็นคนที่คุณทำคดีของเขาอยู่ใช่ไหม”
คำถามของเขาเหมือนตั้งใจจะทดสอบว่าข้าพเจ้าจะยอมแลกความจริงฝ่ายของตนเองกับความจริงจากฝ่ายของเขาหรือไม่
“ใช่ ผมกำลังทำคดีที่เกี่ยวข้องกับจิมมี่ ซัลลิแวน เด็กส่งโทรเลขที่ทำงานเป็นแมรี่แอนน์ของสถานค้าบริการที่ถนนคลีฟแลนด์อยู่” ข้าพเจ้าตอบ “ดูเหมือนว่า นักเรียนทุนในความอุปถัมภ์ของคุณจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับเด็กหนุ่มคนนี้ด้วย”
“ไม่ผิด แอนโธนีรักเพื่อนคนนี้ของเขามานานทีเดียว และเมื่อรู้ข่าวว่า เพื่อนของเขาคิดจะไปทำงานให้กับนิวเลิฟและแฮมมอนด์ พ่อหนุ่มนักรักของผมก็แทบเสียสติ” เซอร์เอ็ดเวิร์ดสลับขาที่ไขว่ห้างอยู่เป็นอีกข้างหนึ่ง เอนหลังพิงพนัก และยิ้มมุมปากเมื่อนึกถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น “ในฐานะผู้อุปถัมภ์ที่ดี ผมก็ควรจะสงเคราะห์และชี้ทางให้กับเด็กหนุ่มที่อ่อนด้อยประสบการณ์เกี่ยวกับความรักเสียหน่อย”
“ด้วยการซื้อบริการจากจิมมี่ แล้วนำตัวเขามาให้แอนโธนี เกรเซียนอย่างนั้นหรือ”
“หนุ่มน้อยนักแสดงที่กำลังโด่งดังย่อมมีความกลัวเป็นธรรมดา ผมจึงอยากให้เขาเรียนรู้ว่า บางสิ่งบางอย่างก็ไม่ได้ยากเย็นจนเกินไป และเขาควรเรียนรู้ที่จะเสี่ยงเพื่อความรักบ้าง”
คราวนี้ เขาไม่ได้ตอบคำถามตามตรง แต่คำตอบนั้นก็ชัดเจนพอที่จะทำให้เข้าใจได้ว่า การที่แอนโธนีตัดสินใจเช่าห้องพักในที่ที่ไม่มีคนสนใจเอาไว้และการซื้อตัวของจิมมี่ออกมาหลับนอนด้วยกันเป็นครั้งคราว เพื่อให้เด็กหนุ่มยากจนผู้นั้นมีเงินไปรักษามารดาและในขณะเดียวกัน ก็ทำให้จิมมี่ไม่ต้องไปหลับนอนกับชายอื่นมีใครเป็นต้นคิด
“คุณสอนเขาแม้กระทั่งเรื่องบนเตียงเลยอย่างนั้นหรือ”
เซอร์เอ็ดเวิร์ดทำเสียงคล้ายอุทานออกมาเบา ๆ แสร้งทำสีหน้าเหมือนไม่อยากเชื่อว่าข้าพเจ้าจะกล้าถามคำถามนั้นออกมา แต่เมื่อข้าพเจ้าไม่แสดงท่าทีอื่นใดกับเขานอกจากการนิ่งรอฟังคำตอบ เขาก็ค่อยเปิดปากพูด
“ถ้าคุณเกิดในสมัยกรีกโบราณ คุณย่อมรู้ว่านั่นเป็นหน้าที่ของผู้ชายที่เป็นผู้ใหญ่แล้วพึงสอนเด็กหนุ่มในความดูแลของตัวเองให้รู้แจ้งในสิ่งที่ควรรู้” เขาแตะปลายนิ้วของทั้งสองมือเข้าหากัน “และเมื่อเด็กหนุ่มเติบโต เขาก็ย่อมสามารถทำหน้าที่เดียวกันให้กับเด็กหนุ่มที่อายุน้อยกว่าด้วยเช่นกัน”
“คุณหมายถึงระบบพีเดอราสตรีของกรีกโบราณ”
ริมฝีปากใต้เรียวหนวดที่ตัดเล็มอย่างดีของเขาคลี่ออกเป็นรอยยิ้มกว้างขึ้น
“ไม่คิดว่าตำรวจอย่างคุณจะรู้เรื่องนี้ด้วย” เขาหัวเราะ “แต่พอมานึกได้ว่า คุณสนิทสนมกับใคร ผมก็เริ่มไม่แปลกใจ เพียงแค่คิดไม่ถึงว่า คุณกับโทบี้ ฟอล์กเนอร์จะคุยกันเกี่ยวกับกิจกรรมทางเพศของชายกับชายในสมัยกรีกโบราณด้วย”
“ไม่ใช่แค่สมัยกรีกโบราณ” ข้าพเจ้าบอก “เราคุยกันเกี่ยวกับการรื้อฟื้นระบบนี้ขึ้นในโรงเรียนมหาดเล็กของจักรพรรดิฮาเดรียนในยุคโรมันด้วย... เป็นเรื่องที่น่าสนใจทีเดียว คุณเห็นด้วยไหม”
“ถ้าผมบอกว่า นั่นคือเหตุผลที่ทำให้ผมรับอุปถัมภ์เด็กหนุ่มให้ได้รับการศึกษาที่ดีตามขนบธรรมเนียมปฏิบัติของระบบพีเดอราสตี คุณจะเชื่อไหม”
“แล้วคุณมีเหตุผลอะไรที่จะต้องโกหกผมด้วย”
มีเสียงหึเบา ๆ ออกมาจากลำคอของคนที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามกับข้าพเจ้า
“คุณเป็นคนที่น่าสนใจกว่าที่ผมเคยรับรู้มามาก สารวัตรเฟย์ ถ้าไม่นับเรื่องที่คุณกุมความสนใจและความเชื่อใจของโทบี้ ฟอล์กเนอร์เอาไว้ได้อย่างน่าอิจฉา” เซอร์เอ็ดเวิร์ดกล่าว ใบหน้าของเขายังคงเต็มไปด้วยรอยยิ้ม และดูจะไม่มีสิ่งใดที่สามารถทำลายความมั่นใจในตัวเองของเขาได้เลย เขาดูพอใจกับการถูกท้าทายและสนุกกับการท้าทายคนอื่นที่เขาคิดว่าสมน้ำสมเนื้อกัน “ถ้าผมจะโกหกคุณ มีเหตุผลเดียว ก็คือเพื่อที่จะปั่นหัวตำรวจอย่างคุณเล่นเท่านั้นละ เพราะไม่มีใครคนไหน ไม่มีหลักฐานอะไร นอกจากคำพูดของผมที่คุณได้ฟังระหว่างที่เราอยู่ด้วยกันเพียงสองคนเป็นพยานหลักฐานทั้งหมด และด้วยสถานะอย่างผม ย่อมมีคนเชื่อถือมากกว่าตำรวจอย่างคุณแน่นอน”
“แล้วที่คุณบอกว่าคุณนำเอาระบบพีเดอราสตีมาใช้กับเด็กหนุ่มในอุปถัมภ์ของคุณ... คุณรับเอา ‘ทุกอย่าง’ มาใช้เลยใช่หรือไม่”
เซอร์เอ็ดเวิร์ดเลิกคิ้วสูง “พูดให้ชัดหน่อย สารวัตร”
ข้าพเจ้าอยากจะถอนใจออกมาแรง ๆ แต่จำต้องระงับใจเอาไว้
“ผมหมายถึง ‘ทุกอย่าง’ รวมทั้งวิธีการถ่ายทอดความรู้เกี่ยวกับการร่วมประเวณีตามแบบแผนของอีราสเตสและอีโรเมนอส หรือการร่วมประเวณีที่คุณสอนให้เด็กหนุ่มเหล่านี้เกินเลยไปกว่านั้น”
“เท่าที่มีแบบแผนเดิมกำหนดไว้ ไม่มากกว่านั้นอย่างแน่นอน” เซอร์เอ็ดเวิร์ดตอบ
“ไม่ทำให้ใครบาดเจ็บด้วยอย่างนั้นหรือ”
“คุณอยากทำให้รูปปั้นหินอ่อนที่สวยงามมีตำหนิอย่างนั้นหรือ... ไม่มีทางหรอก... แม้ว่าคุณจะอยากทำก็ตาม”
ข้าพเจ้าหรี่ตาลง ชายที่อยู่ตรงข้ามกับข้าพเจ้ายังคงเยือกเย็นกับการตอบคำถามและให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี
มีอะไรหลายอย่างที่ข้าพเจ้าอยากถามออกไปตามตรง ไม่ว่าเรื่องที่เขาใช้นามแฝงในการซื้อบริการจากจิมมี่ ซัลลิแวนว่า ‘ฮาเดรียน’ หรือไม่ และเขาเคยใช้บริการจากจิมมี่ในห้องเช่าที่แอนโธนีเช่าไว้ใช้สำหรับหลับนอนกับเพื่อนหนุ่มคนสนิทหรือไม่ แต่ไม่ทันจะได้เอ่ยปากถามออกไป เสียงเคาะประตูห้องสมุดก็ดังขึ้น
“เข้ามาได้”
ทันทีที่สิ้นเสียงขานรับ ประตูห้องก็เปิดออก และสิ่งที่อยู่ระหว่างประตูที่เปิดอ้าไว้นั้นก็ทำให้ข้าพเจ้าถึงกับชะงัก
“ด็อกเตอร์ฟอล์กเนอร์บอกว่ามีธุระด่วนกับสารวัตรเฟย์ แขกของท่าน และยืนยันว่าต้องการจะพบให้ได้”
พนักงานของสโมสรกล่าวด้วยสีหน้าไม่สบายใจนักในขณะที่เหลือบตามองไปยังชายหนุ่มด้านหลังที่ยังแต่งกายเต็มยศ ถือทั้งหมวกและไม้เท้าอยู่ในมือโดยไม่ยอมส่งให้ใครนำไปเก็บ ดวงตาสีเขียวสว่างของเขาจับจ้องยังเซอร์เอ็ดเวิร์ดก่อนที่จะย้ายมายังใบหน้าของข้าพเจ้า
“ขออภัยที่เสียมารยาท แต่ผมมีธุระสำคัญเกี่ยวกับคดีที่ต้องพูดกับสารวัตรเฟย์” น้ำเสียงของศัลยแพทย์หนุ่มเรียบนิ่ง แต่ข้าพเจ้าจับได้ถึงความเย็นชาและความไม่อยากวิสาสะกับอีกฝ่ายโดยไม่จำเป็น มีความร้อนรนปนอยู่ในท่าทีของเขา แต่ความรู้สึกนั้นดูจะเบาบางลงและเปลี่ยนเป็นความโล่งใจเมื่อเห็นข้าพเจ้า
ดวงตาสีฟ้าคมปลาบเหมือนตาเหยี่ยวของนักธุรกิจเดินเรือเป็นประกายขึ้นมาแวบหนึ่ง
“ไม่เป็นไร”
เขาลุกขึ้นจากเก้าอี้นวมของตนเอง และเดินตรงเข้าไปหาชายหนุ่มที่ก้าวเข้ามาในห้องก่อนที่พนักงานของสโมสรจะปิดประตูเพื่อให้พวกเราสามารถสนทนากันอย่างเป็นส่วนตัวอีกครั้ง
“คงแวะไปโรงอาบน้ำตุรกีก่อนที่จะมาตามหาสารวัตรเฟย์ที่นี่สินะ” เซอร์เอ็ดเวิร์ดเอ่ย โน้มใบหน้าเข้าไปใกล้ศัลยแพทย์หนุ่ม “กลิ่นหอมแบบตะวันออกยังติดตัวคุณหมออยู่”
นพ. ฟอล์กเนอร์ก้าวถอยโดยอัตโนมัติ แต่ไม่ทันที่ทั้งเขาและข้าพเจ้าจะได้ขยับตัวทำอะไร ชายผู้นั้นก็จับต้นแขนของคนอายุน้อยกว่าเอาไว้ และก้มลงเอ่ยกับเขาที่ข้างหู ทว่าดังพอที่ข้าพเจ้าจะได้ยิน
“ยินดีที่คุณมาถึงที่ทำการของสโมสรของผม แม้ว่าจะไม่ได้ตั้งใจจะมาหาผมเลยก็ตาม”
กล่าวแล้ว เขามิได้รอฟังว่าอีกฝ่ายจะเอ่ยสิ่งใดกลับมา แต่กลับทำให้นายแพทย์หนุ่มต้องผวาสุดตัว ยกมือขึ้นจับหลังคอของตน สลัดแขนหนีออกจากการเกาะกุมของเขา ในวินาทีเดียวกันกับที่ข้าพเจ้าลุกขึ้นจากที่นั่ง ปราดเข้าไปฉุดแขนของโทเบียส ฟอล์กเนอร์ให้พ้นจากอีกฝ่าย
มหาเศรษฐีนักเดินเรือมองเขาก่อนยิ้มน้อย ๆ ให้กับข้าพเจ้าราวกับไม่มีสิ่งใดเกิดขึ้น
“ดูท่าผมจะทำให้คุณหมอระแวงอีกแล้ว ไม่เปลี่ยนไปจากทุกครั้งที่พบกันเลย”
ไม่มีการตอบสนองใดจากบุคคลที่เขาเอ่ยด้วย ดร. ฟอล์กเนอร์นิ่งเงียบ เม้มริมฝีปากแน่น มือของเขากำชายเสื้อนอกของข้าพเจ้าเอาไว้โดยไม่รู้ตัว และเมื่อข้าพเจ้ามองเขา สายตาที่มองตอบกลับมาเต็มไปด้วยความรู้สึกหลายอย่างที่สะท้อนออกมาเป็นคำขอร้องว่า ได้โปรดออกไปจากที่นี่ให้เร็วที่สุด
“หมดธุระแล้ว ผมคงต้องขอตัว” ข้าพเจ้าตัดสินใจตัดบทการสนทนาอื่น ๆ ที่จะเกิดขึ้น “ขอบคุณมาก ที่ให้ความร่วมมือ”
“ด้วยความยินดี สารวัตรเฟย์” นักธุรกิจใหญ่ยิ้ม พลางก้มศีรษะให้เล็กน้อย แต่เห็นได้ชัดว่าสายตาของเขาไม่ได้อยู่ที่ข้าพเจ้า
ข้าพเจ้าค้อมศีรษะตอบอีกฝ่ายพอเป็นพิธี ยกมือขึ้นแตะแผ่นหลังของผู้อ่อนวัยกว่าเพื่อให้เขาสบายใจได้ว่าเขากำลังจะได้ออกไปจากที่แห่งนี้โดยเร็ว เห็นได้ชัดว่า แม้จะพยายามรักษาสีหน้าและกิริยาให้เป็นปกติ หากแต่ใบหน้าของเขายังคงแดงก่ำไปจนถึงหู
ไม่ทันที่ข้าพเจ้าจะเป็นคนนำเขาออกไป ศัลยแพทย์หนุ่มก็เป็นฝ่ายคว้าข้อมือของข้าพเจ้าดึงให้เดินตามเขาออกไปจากสโมสรโดยไม่เสียเวลาหันกลับไปมองบุคคลผู้เป็นเจ้าของสถานที่เลยแม้แต่เสี้ยววินาที และนี่ถือเป็นสิ่งที่ผิดวิสัยของเขาที่เป็นคนรักษามารยาทและควบคุมตนเองได้ดีในทุกสถานการณ์
เมื่อข้าพเจ้าเป็นฝ่ายเดินตามหลัง ยามนั้นเอง ข้าพเจ้าจึงได้เห็นรอยฟันที่เอ็ดเวิร์ด สแตนตันฝากไว้ผิวเนื้อที่หลังคอของโทเบียส ฟอล์กเนอร์อย่างชัดเจน
To be continued...
-----------------------------------------------
เซอร์เอ็ดเวิร์ดนี่เป็นคนที่น่ากลัวมากๆเลยค่ะ หมานถึงมีทั้งอำนาจ เงิน ความรู้ คือเป็นตัวละครที่มีเสน่ห์น่าสนใจมากค่ะ แต่...แต่! ทีมสารวัตรกับคุณหมอค่ะ ฮือออออ
อยากรู้ต่อเลยค่ะว่า reactionต่อไปของสารวัตร จะเป็นยังไง สงสารคุณหมอด้วย ;_;
ไว้หมดช่วง fictober จะกลับมาต่อแน่นอนค่ะ