เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
/ อ่านวรรณกรรมผ่านสายตาหลังกรอบแว่น /one8octobear
(non-fiction) รถไฟคันนั้นมีหวูดเป็นเสียงคลื่น | บทที่ 5 ทะเลกับส้มตำ
  • วิชาสารคดี (non-fiction) ครูกิ๊บ ปีสอง เทอมหนึ่ง 
    โจทย์: งานสารคดีที่เขียนขึ้นจากประสบการณ์ของเรา :-)






    ทะเลกับส้มตำ






    เสียงหวูดร้องลั่นผสมผสานไปกับเสียงคลื่นซัดเข้าฝั่ง


    ฉันสะดุ้งตื่นขึ้นมา หันมองซ้ายขวาก็พบว่ารถไฟหยุดเคลื่อนขบวนแล้ว หมายความว่าพวกเราเดินทางมาถึงทะเลเสียที ฉันกระโดดร้องลั่นอย่างมีความสุข เมื่อลงจากรถไฟก็เห็นป้ายไม้สีแดงเขียนว่า "ที่หยุดรถสวนสนประดิพัทธ์" ตั้งเด่นอยู่ ณ ที่หยุดรถ แม่จับจูงมือฉันและน้องชายตามหลังญาติ ๆ รวมถึงผู้โดยสารคนอื่นที่มีจุดหมายเดียวกันคือ ชายหาดสวนสนประดิพัทธ์


    เมื่อใกล้ถึงทะเลฉันก็ได้พบกับโครงกระดูกปลาวาฬขนาดใหญ่มหึมาซึ่งจัดแสดงอยู่บริเวณทางที่เราเดินเข้า พี่ชายของฉันอ่านจากป้ายให้ฟังว่ามันคือ โครงกระดูกปลาวาฬจากซากที่พบบริเวณชายหาดสวนสนประดิพัทธ์ นำมาเรียงต่อกันเป็นรูปเป็นร่างเพื่อให้นักท่องเที่ยวได้ชม


    ถึงแม้จะไม่เคยได้พบกับปลาวาฬตัวจริงมาก่อน แต่อดจะคิดไม่ได้จริง ๆ ว่าเพียงโครงกระดูกก็ใหญ่มหึมาขนาดนี้แล้ว ตัวจริงจะใหญ่เท่าไหร่กันนะ


    และในที่สุดฉันก็มาถึงชายหาดที่วาดเป็นเวิ้งโค้งสวยงาม


    ร้านอาหารไร้ชื่อวางเรียงรายตามฝั่งริมฟุตบาท


    แม่และญาติ ๆ ช่วยกันปูเสื่อลงบนพื้นทรายขาว ที่นี่ไม่เหมือนทะเลแห่งอื่นที่จะมีเตียงผ้าใบของร้านค้าวางเรียงกันเป็นแนวยาวสุดลูกหูลูกตา เนื่องจากเป็นสถานที่ราชการที่ตั้งใจทำให้เงียบสงบเหมาะแก่การพักผ่อน หาดทรายขาวดูสะอาดตาและน่าวิ่งเล่นไปทั่วเหลือเกิน


    ฉันไม่ต้องเสียเวลาเดินไปแต่งตัวที่ห้องน้ำด้วยซ้ำ เพราะชุดว่ายน้ำถูกสวมมาจากบ้านและคลุมไว้ด้วยเสื้อยืดตัวหนึ่งเท่านั้น พอถึงทะเลพวกเราพี่น้องและญาติ ๆ ก็ถอดเสื้อยืด กระโดดลงทะเลด้วยชุดว่ายน้ำในทันที


    ห่วงยางสีดำขนาดใหญ่ที่ญาติของฉันเช่ามาถูกนำมาลอยเป็นเตียงให้น้องชายที่ว่ายน้ำไม่เป็น เขานั่งอยู่ตรงกลางพาดขาออกมาด้านนอก และหัวเราะด้วยท่าทางมีความสุขอย่างที่สุด ส่วนฉันก็ปล่อยให้ห่วงยางที่สวมอยู่ทำหน้าที่ของมันอย่างเต็มที่ ตีน้ำตามพี่ ๆ ไปอย่างสนุกสนาน


    น้ำทะเลอุณภูมิต่ำกว่าแสงแดดทำให้เราเพลิดเพลินจนไม่อาจถอนใจกลับเข้าฝั่งได้เมื่อได้ยินเสียงแม่ตะโกนเรียกให้กลับไปกินข้าว


    บนเสื่อเต็มไปด้วยของกินซึ่งซื้อมาจากร้านอาหารเล็ก ๆ ที่อยู่ห่างออกไป ทั้งอาหารทะเลสดใหม่และส้มตำ ปีกไก่ทำให้ฉันและพี่ ๆ น้อง ๆ รีบนั่งล้อมวงแล้วกินเพิ่มพลังในทันที


    เมื่อย้อนคิดดูแล้ว อาหารที่จะขาดไม่ได้สำหรับการเที่ยวทะเลก็คือส้มตำ


    ไม่ว่าจะมาสักกี่ครั้งก็ตาม ส้มตำก็คืออาหารคู่มิตรคู่ใจให้ครอบครัวของเราเสมอ เสมือนว่าเป็นสัญลักษ์ของการพักผ่อนเลยก็ว่าได้ แม้ว่าจะไม่มีเหตุผลว่าทำไม แต่รู้แค่ว่าพอตักเข้าปากแล้วอร่อยก็เพียงพอแล้ว


    พออาหารเริ่มร่อยหรอพวกเราก็พากันกระโจนกลับไปที่ทะเล เล่นกันเสมือนว่านี้จะเป็นวันสุดท้ายที่เราจะได้สัมผัสน้ำทะเลและหาดทรายนุ่ม พระอาทิตย์ที่เคยตั้งตรงอยู่เหนือหัวก็เหมือนจะเห็นใจพวกเรากันขึ้นมา ถึงค่อย ๆ ลดระดับลงไปแอบอยู่หลังก้อนเมฆ


    พวกเราเล่นกันจนเหน็ดเหนื่อย ผิวใต้เสื้อและกางเกงว่ายน้ำตัดกับผิวที่ไร้เสื้อผ้าปกปิดอย่างชัดเจนจนฉันหลุดหัวเราะให้กับสภาพของตัวเอง ฉันและบรรดาพี่น้องโดนแม่ลากไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเพื่อเตรียมกลับบ้านอย่างไม่ค่อยเต็มใจนัก


    ฉันเดินกลับไปที่หาดหาคุณยายหลังจากอาบน้ำสระผมเรียบร้อยแล้ว แต่เพราะไม่ได้ใส่รองเท้าทำให้ทรายเย็น ๆ แทรกผ่านร่องนิ้วขึ้นมาเกยบนเท้า มันรู้สึกดีเหมือนตอนที่แช่ตัวอยู่ใต้น้ำทะเลเย็น ๆ

    หัวใจฉันพองโต


    เหมือนถูกความสุขวันนี้เติมลมเข้าไปจนเต็ม







เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in