วิชาสารคดี (non-fiction) ครูกิ๊บ ปีสอง เทอมหนึ่ง
โจทย์: งานสารคดีที่เขียนขึ้นจากประสบการณ์ของเรา :-)
รถไฟคันนั้นมีหวูดเป็นเสียงคลื่น
เรามาถึงสถานีรถไฟหัวลำโพงแต่เช้าตรู่
ฉันวิ่งเข้าไปสวัสดีญาติ ๆ ที่มาร่วมทริปครั้งนี้กับพวกเรา พอทักทายญาติพี่น้องเสร็จ ฉันก็เริ่มมองสำรวจสถานีรถไฟที่พึ่งเคยมาเหยียบเป็นครั้งแรก ผู้คนพลุกพล่านส่งเสียงจอแจทำให้ที่นี่ยิ่งดูคึกคักมากขึ้นเป็นเท่าตัวในความรู้สึกของฉัน
พอสมาชิกในการเดินทางครั้งนี้มากันครบ รถไฟก็มาพอดี ฉันและพี่น้องวิ่งขึ้นขบวนตามหลังแม่ไป แทบจะทนรอให้มันออกตัวไม่ไหวแล้ว ความตื่นเต้นทำให้ฉันกระโดดโลดเต้นไปทั่ว ห่วงยางที่เป่าลมมาจากบ้านถูกฉันหยิบขึ้นมาสวมที่เอวอย่างรอคอย
ระหว่างที่รอให้รถไฟเคลื่อนตัวก็มีแม่ค้าเดินขึ้นรถไฟมาตะโกนขายอาหารดูท่าทางแล้วน่าสนุก คนที่เร่ขายอาหารเรียกได้ว่ามีแทบทุกเพศทุกวัย ฉันเขย่าแขนแม่อย่างนึกสนุกอดไม่ได้ที่จะอ้อนให้แม่ซื้อของกินให้สักอย่าง พร้อมอวดว่าพุงป่อง ๆ ของฉันกำลังเรียกร้องของกินให้มาเติมเต็มอยู่
นอกจากคนขายของก็ยังมีผู้โดยสารคนอื่น ๆ ที่กำลังทยอยขึ้นรถไฟ บ้างก็ขนสัมภาระขนาดใหญ่มาด้วย บ้างก็เดินมาตัวเปล่า บ้างก็กระเตงกันมาเป็นครอบครัว มีเด็กที่อายุไล่เลี่ยกับฉันอยู่ด้วย
รอไม่นานรถไฟก็ส่งเสียงสัญญาณว่ากำลังจะออกตัว
ภาพที่บางคนยื่นหัวออกจากรถไฟไปกล่าวลาคนข้างล่างทำให้ฉันอดจะมองตามอย่างประหลาดใจไม่ได้ แม่จึงอธิบายด้วยเสียงกระซิบว่าบางทีเมื่อจากกันไกล ๆ คนเราก็ต้องการจะเห็นหน้ากันไปจนนาทีสุดท้าย
ฉันลองคิดตาม คงเหมือนตอนที่แม่มาส่งฉันหน้าโรงเรียนแล้วยืนรอจนกว่าจะแน่ใจว่าฉันเดินเข้าห้องเรียนแล้วกระมัง
เพราะแม้จะมีแค่นาทีเดียวก็มีความหมายมาก ๆ แล้ว
เสียงหวูดดังสนั่นก้องไปทั้งขบวน ฟังไปแล้วเหมือนเสียงคลื่นยามกระทบชายฝั่ง เป็นสัญญาณให้รู้ว่าการเดินทางครั้งนี้กำลังจะเริ่มต้นขึ้นแล้ว
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in