เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
/ อ่านวรรณกรรมผ่านสายตาหลังกรอบแว่น /one8octobear
(non-fiction) รถไฟคันนั้นมีหวูดเป็นเสียงคลื่น | บทที่ 3
  • วิชาสารคดี (non-fiction) ครูกิ๊บ ปีสอง เทอมหนึ่ง 

    โจทย์: งานสารคดีที่เขียนขึ้นจากประสบการณ์ของเรา :-)








    รถไฟคันนั้นมีหวูดเป็นเสียงคลื่น







    เรามาถึงสถานีรถไฟหัวลำโพงแต่เช้าตรู่


    ฉันวิ่งเข้าไปสวัสดีญาติ ๆ ที่มาร่วมทริปครั้งนี้กับพวกเรา พอทักทายญาติพี่น้องเสร็จ ฉันก็เริ่มมองสำรวจสถานีรถไฟที่พึ่งเคยมาเหยียบเป็นครั้งแรก ผู้คนพลุกพล่านส่งเสียงจอแจทำให้ที่นี่ยิ่งดูคึกคักมากขึ้นเป็นเท่าตัวในความรู้สึกของฉัน


    พอสมาชิกในการเดินทางครั้งนี้มากันครบ รถไฟก็มาพอดี ฉันและพี่น้องวิ่งขึ้นขบวนตามหลังแม่ไป แทบจะทนรอให้มันออกตัวไม่ไหวแล้ว ความตื่นเต้นทำให้ฉันกระโดดโลดเต้นไปทั่ว ห่วงยางที่เป่าลมมาจากบ้านถูกฉันหยิบขึ้นมาสวมที่เอวอย่างรอคอย


    ระหว่างที่รอให้รถไฟเคลื่อนตัวก็มีแม่ค้าเดินขึ้นรถไฟมาตะโกนขายอาหารดูท่าทางแล้วน่าสนุก คนที่เร่ขายอาหารเรียกได้ว่ามีแทบทุกเพศทุกวัย ฉันเขย่าแขนแม่อย่างนึกสนุกอดไม่ได้ที่จะอ้อนให้แม่ซื้อของกินให้สักอย่าง พร้อมอวดว่าพุงป่อง ๆ ของฉันกำลังเรียกร้องของกินให้มาเติมเต็มอยู่


    นอกจากคนขายของก็ยังมีผู้โดยสารคนอื่น ๆ ที่กำลังทยอยขึ้นรถไฟ บ้างก็ขนสัมภาระขนาดใหญ่มาด้วย บ้างก็เดินมาตัวเปล่า บ้างก็กระเตงกันมาเป็นครอบครัว มีเด็กที่อายุไล่เลี่ยกับฉันอยู่ด้วย


    รอไม่นานรถไฟก็ส่งเสียงสัญญาณว่ากำลังจะออกตัว


    ภาพที่บางคนยื่นหัวออกจากรถไฟไปกล่าวลาคนข้างล่างทำให้ฉันอดจะมองตามอย่างประหลาดใจไม่ได้ แม่จึงอธิบายด้วยเสียงกระซิบว่าบางทีเมื่อจากกันไกล ๆ คนเราก็ต้องการจะเห็นหน้ากันไปจนนาทีสุดท้าย


    ฉันลองคิดตาม คงเหมือนตอนที่แม่มาส่งฉันหน้าโรงเรียนแล้วยืนรอจนกว่าจะแน่ใจว่าฉันเดินเข้าห้องเรียนแล้วกระมัง




    เพราะแม้จะมีแค่นาทีเดียวก็มีความหมายมาก ๆ แล้ว




    เสียงหวูดดังสนั่นก้องไปทั้งขบวน ฟังไปแล้วเหมือนเสียงคลื่นยามกระทบชายฝั่ง เป็นสัญญาณให้รู้ว่าการเดินทางครั้งนี้กำลังจะเริ่มต้นขึ้นแล้ว




เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in