ข่าวดีในเย็นวันศุกร์
“เราจะนั่งรถไฟไปทะเลกันนะ”
แม่กล่าวอย่างไม่มีการเกริ่นนำในเย็นวันศุกร์ขณะที่เราอยู่บนรถจากโรงเรียนมุ่งสู่ทางกลับบ้าน
ฉัน พี่ชาย พี่สาว รวมถึงน้องชายกรี๊ดกร๊าดกันอย่างมีความสุข ยังจะมีอะไรทำให้เด็ก ๆ อย่างพวกเรามีความสุขไปได้มากกว่าท้องทะเลและรถไฟอีก ฉันเดาว่าตัวเองในตอนนั้นคงตอบว่า ไม่มีอีกแล้ว!
พวกเราสี่พี่น้องกลับบ้านกันด้วยความตื่นเต้น แม้กำหนดการณ์จะเป็นอีกหนึ่งอาทิตย์ข้างหน้าก็ตาม
สัปดาห์นั้นดูจะผ่านไปอย่างรวดเร็วชั่วพริบตา ฉันและพี่น้องวุ่นวายอยู่กับการเลือกชุดว่ายน้ำสำหรับโปรแกรมเที่ยวครั้งสำคัญ และบางครั้งเมื่อนึกขึ้นได้ก็จะตามหาห่วงยางสำหรับฉันและน้องชายที่ยังว่ายน้ำไม่เป็นตามซอกมุมต่าง ๆ ของบ้าน
พวกเราวุ่นวายก็กับรื้อมุมนู้นมุมนี้ของบ้านอยู่นาน ในที่สุดก็พบห่วงยางสำหรับเด็กสีชมพูและสีฟ้า ฉันหยิบมานั่งเป่าลมด้วยความตื่นเต้น แต่เป่าอยู่นานห่วงยางที่แบนเรียบราวกับกระดาษก็ไม่มีท่าทีจะพองขึ้นเป็นรูปเป็นร่างแม้แต่น้อย
จนฉันต้องอพยพถิ่นที่อยู่จากชั้นล่างของบ้าน พาตัวเองและห่วงยางเจ้าปัญหาไปหาพ่อที่ห้องนอน ส่งสายตาวิงวอนให้พ่อเสกเจ้าห่วงยางแบน ๆ นี้ให้กลายเป็นห่วงยางอ้วน ๆ สำหรับพาฉันลอยทะเล
เมื่อได้ห่วงยางอ้วนกลมสีชมพูสมใจฉันก็หยิบมันสวมเข้าเอวแล้ววิ่งอวดไปทั่วบ้านทันที ถึงจะโดนแม่ดุก็ไม่ได้ทำให้ความรู้สึกรอคอยหดหายไปแม้แต่นิดเดียว
และในที่สุดเช้าวันเสาร์ที่พวกเรารอคอยก็มาถึง
แม่เตรียมกระเป๋าใบใหญ่ซึ่งบรรจุไว้ด้วยเสื้อผ้าของพวกเราสี่พี่น้อง อุปกรณ์อาบน้ำ ผ้าขนหนู รวมถึงของจุกจิกมากมายสารพัดอย่างที่จำเป็นสำหรับการไปทะเล ส่วนฉันกับพี่น้องก็กระโดดโลดเต้นแทบจะนั่งไม่ติดเมื่อคิดถึงทะเลกำลังจะได้พบในอีกไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้า
ทะเลกับรถไฟ
ยังจะมีอะไรที่น่ารอคอยเท่านี้อีกเล่า!
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in