เรื่องย่อหลังปก เล่ม1-2 "อัลเบิร์ต" ใช้ชีวิตเป็นคนงานขุดแร่อยู่บนดาว B-11 อาศัยการขุดแร่แลกน้ำดื่มและอาหารเลี้ยงชีวิต เฉกเช่นคนงานเหมืองคนอื่นๆ ใช้ชีวิตไปวันๆ โดยไม่เคยรู้จักโลกภายนอก แต่ระหว่างที่บนดาวเกิดพายุทะเลทรายครั้งหนึ่งอัลเบิร์ตได้ช่วยชีวิต "ริค" ชายหนุ่มที่เรียกขานตัวเองว่าเป็น "อัศวินดารา" คนผู้นี้ไม่เพียงกลายมาเป็นอาจารย์ของเขา แต่ยังเป็นคนที่เปิดโลกทัศน์แห่งชีวิตทั้งยังสอนความรู้และพลังที่นักรบคนหนึ่งพึงมีให้
อัลเบิร์ตราวกับได้เกิดใหม่ เขาแข็งแกร่งและได้รู้จักโลกภายนอกสิ่งแรกที่เขาอยากทำคือปลดปล่อยคนงานเหมืองแร่ทั้งหมดบนดาว B-11 ให้ทุกคนเลิกตกเป็นทาส และได้รับสิทธิอันพึงมีของประชากรแห่งสาธารัฐ
ทว่าหลังจากเหตุการณ์ยุติลง ริคกลับไปจากเขา อัลเบิร์ตต้องโดดเดี่ยวอีกครั้ง เขาจึงตัดสินใจไปยังอาณาจักรนักรบรับจ้าง ปรารถนาที่จะเป็นนักรบรับจ้างผู้ยิ่งใหญ่ เพียงแต่ว่า...ความจริงดูเหมือนจะแตกต่างจากสิ่งที่เขาติดไว้อย่างสิ้นเชิง เขาจะทำอย่างไรในดินแดนที่ทั้งปั่นป่วน วุ่นวาย และนิยมใช้กำลังแห่งนี้?
คุยกันหลังอ่าน เล่ม 1
ก็ชุดนี้เราได้มาจากตอนที่สยามลดราคาวันวาเลนไทน์ เรียกว่าได้มาในราคาคุ้มแสนคุ้มค่ะ ก็ตอนแรกไมไ่ด้อยากได้อะไรขนาดนั้น แต่มีคนเชียร์เรื่องนี้เยอะบวกกับถูกมากก็เลยสอยมาจนได้ค่ะ 5555 เป็นคนใจง่ายนี่เองสินะ
เริ่มต้นเริ่มแรกที่อัลเบิร์ตอยู่ในดาวรกร้างห่างไกลที่ทำเหมือง เป็นเด็กหนุ่มอายุ 16 ต่อมาช่วยริคที่เป็นอัศวินดาราเอาไว้ได้ ได้รับการสอนวิชาต่างๆ แล้วก็ออกจากดาวพร้อมกับช่วยเหลือคนทั้งดาวให้หลุดพ้นสถานะทาส แล้วก็มาสมัครเป็นทหารรับจ้างที่ดาวอื่น
เล่ม 1 เรายังไม่ค่อยรู้สึกอะไรมาก ก็รู้สึกว่าอ่านได้เพลินๆ ดี ไม่ได้มีฟีลว่าเบื่อหรืออะไร คิดว่าค่อนข้างน่าติดตามทีเดียว แล้วก็ริคคือเป็นคาแรกเตอร์ที่มีลายเซ็นเฟยเทียนมาก คือเป็นแนวที่แบบมีฟีลอาจารย์/แดดดี้ฟิกเกอร์ ที่สั่งสอนตัวเอกมา แถมยังมีซีนอาบน้ำด้วย ซึ่งชวนให้นึกถึงราชันคืนบัลลังก์มากค่ะ เรื่องนี้เป็นแนวไซไฟอวกาศ สำหรับเราก็เปลี่ยนบรรยากาศพอสมควร คือถึงเราจะคิดว่าตัวเองอ่านได้ทุกแนวก็จริง แต่ครั้งสุดท้ายที่อ่านแนวแฟนตาซีอวกาศคือนานมากแล้วจริงๆ แล้วก็คิดว่าจริงๆ สยามไม่ต้องแบ่งเป็น 1/2 ก็ได้ เล่ม 1 กับ 2 ดูจากความหนา รวมเป็นเล่มเดียวยังได้ จะได้ไม่ต้องมีปกซ้ำด้วย
คุยกันหลังอ่าน เล่ม 2
เล่มนี้เกือบลืมเขียนรีวิว คือแบบว่าตอนจบเล่มสองมันตัดแบบลุ้นมากเกินไป 55555 เลยหยิบเล่มสามมาอ่านต่อเลยทันที ตอนเล่ม 2 คือไปทำภารกิจตามหาพ่อซีต ไปดาวมดดำที่ริคเคยไปเยือน …ก็เล่มนี้ยังเรื่อยๆนะ สนุกดี ฟีลผจญภัย มีฟีลหยอกล้อกันของเด็กหนุ่มเล็กน้อย 5555555
ปล. เกลียดดีไซน์ปกของอัศวินดารา (ไม่ใช่เรื่องรูปหรือปกซ้ำ) แต่เรื่องปกที่เป็นปีกงอกออกมา แล้วไม่สามารถพับเก็บไว้ข้างในได้ ตอนอ่านก็ต้องเปิดคาไว้แบบนั้นอะ รู้สึกว่าไม่สะดวกเอาเลยยยจริงๆ คือถ้าไม่ได้คิดว่าอาจจะขาย คงตัดทิ้งไปแล้ว
ปล.2 รู้สึกว่าเรม่อนไม่เหมือนพระเอกของเฟยเทียนเลย คือแบบไม่ใช่ไม่น่ารักนะ ก็น่ารักดี มีเสน่ห์ดี อาจจะยังไม่ถึงเวลาล่ะมั้ง
เรื่องย่อหลังปก เล่ม 3-4
เพื่อตามหาราชินีมดดำ "อัลเบิร์ต" กับ "เรมอน" ตกเข้าสู่เขตอิทธิพลของโจรสลัดอวกาศ แถมยังติดกับดักเข้าโดยบังเอิญถูกจับตัวและจับขังแยกอยู่ในที่ต่างกัน เพื่อช่วยเรมอนแล้วอัลเบิร์ตจึงได้ใช้วิชาที่ "ริค" สอนให้อาศัยพลังจิตศรัทธาในการฝ่าด่านป้องกันต่างๆ แต่กลับพบว่าในฐานะนักรบรับจ้าง เขายังคงอ่อนหัดเกินไปแถมความหวังดีคิดช่วยคน ยังถูกตอบแทนด้วยการทรยศหักหลัง โชคดีเรมอนปลอดภัย และทำภารกิจครั้งนี้สำเร็จไปอย่างราบรื่น
เดิมคิดว่าจะได้ใช้ชีวิตด้วยการทำภารกิจต่างๆ แล้วมุมานะเพื่อเลื่อนขั้นแต่กลับนึกไม่ถึงว่า "เกอรอรีน" จ้าวแห่งอุกกาบาตในตำนานคนนั้นถึงกับรุกรานดาวฬีอัส เตรียมยึดครองอาณาจักรนักรบรับจ้างแห่งนี้! ทว่าภายใต้การนำของ "อาเจลรัส" ราชาแห่งนักรบรับจ้างชาวดาวฬีอัสทุกคนจึงวางมือจากภารกิจทั้งหมดเพื่อกลับมาร่วมรบ อัลเบิร์ตกับเรมอนเองก็ไม่ยกเว้น และสงครามอันโหดร้ายครั้งนี้ ไม่เพียงบีบให้พวกเขาเติบใหญ่ขึ้น แต่ยังช่วยให้ความผูกพันทางใจที่เก็บงำไว้ระหว่างพวกเขาลุกโชนจนกลายเป็นไฟรัก
คุยกันหลังอ่าน เล่ม 3
เล่มนี้มันมากกกกก คือเรารู้สึกว่าดำเนินเรื่องในช่วงนี้แบบเร็วมากกก แปปเดียวคือเข้าสู่โหมดสงครามแบบรบจริงตายจริง คนตายกันแบบเป็นใบไม้ร่วง ตายกันรัวๆ เราว่าคนเขียนเขียนบทสงครามแบบนี้ได้ดีมาก เราชอบทุกซีนสงครามในทุกเรื่องของเค้าเลย - ส่วนเกอรอรีน เรายังไม่รู้อะไรมาก แต่คิดว่าแหวนวงนั้นอาจจะเป็นของเกอรอรีนรึเปล่านะ ที่ไม่มีคนมาช่วยก็เพราะว่าเป็นการส่งสัญญาณหาเกอรอรีน
ส่วนตัวเรมอน แน่นอนว่าคงมีประวัติที่ไม่ธรรมดา ตอนนี้เรายังเดาอะไรได้ไม่มาก แต่ถ้าให้เดาแบบมั่วๆสุ่มๆแบบเล่นใหญ่ไว้ก่อน ก็ขอทายว่าเป็นหุ่นยนต์ปัญญาประดิษฐ์ที่ถูกประดิษฐ์ขึ้นแบบแหกกฎ เลยมีความคิดแบบมนุษย์ ประดิษฐ์โดยห้องทดลองของหอคอยงาช้าง
ตัวละครอาเจลรัสคือแกรนด์มากกก สมเป็นราชาแห่งเทพนักรบ แล้วก็สมกับที่วางมาแบบบุรุษนิยม คือแบบบุรุษนิยมจริงๆ นั่นแหละ
แล้วก็ขอเดาอีกอย่างนึงแบบมั่วยิ่งกว่า แต่เรม่อนเป็นส่วนนึงของเกอรอรีนปะ (อันนี้ไม่ได้เดาจากหลักการอะไรเลย แต่เดาจากการวางตัวละคร กับพระเอกที่ไม่ค่อยเหมือนสไตล์พระเอกเฟยเทียนเท่าไหร่ของเรม่อน)
คุยกันหลังอ่าน เล่ม 4
ขอบันทึกไว้ก่อนตอนที่รู้ว่าเรม่อนเป็นหุ่นยนต์ เราว่าการคาดเดาว่าเกอรอรีนเป็นจุดเริ่มต้นของเรม่อนดูสมเหตุสมผลขึ้นมาเลย จริงๆ สาเหตุที่เรม่อนน่าจะเป็นหุ่นยนต์ก็เพราะว่าเรื่องมันเล่าเรื่องสงครามหุ่นยนตร์บ่อยมาก ย้ำเรื่องโทษของการมีชีวประดิษฐ์ในครอบครองในปัจจุบัน นอกจากเรื่องนี้เรื่องยังพูดถึงอายุขัยบ่อยมาก ยีนที่สมบูรณ์แบบ การตัดแต่งอายุไข การใส่สมองมนุษย์ลงไปในหุ่นยนต์หรือสิ่งมีชีวิตอื่น แล้วก็ความปรารถนาสูงสุดของตัวร้ายหลายๆ ตัว ก็คือชีวิตอมตะปะ เราว่าเกอรอรีนอาจจะกำลังหาชีวิตอมตะ (ซึ่งก็ดูสมกับเป็นนิยายจีนด้วยอะ) เลยสร้างเรม่อนที่เป็นหุ่นยนต์ขึ้นมาแล้วใส่สมองของตัวเองลงไปในนั้น
และถ้าลองเปรียบเทียบกับเซตติ้งแนวเทพเซียน สมมติเกอรอรีนเป็นจอมมารท่านนึงที่กำลังจะตาย เรม่อนที่ถูกสร้างขึ้นมาโดยที่ไม่น่าจะเป็นไปได้ ก็ต้องเป็นผลผลิตของจอมมารผู้เก่งกาจอยู่แล้ว แล้วพลอตแบบร่างแยกของมหาเทพก็ดูไม่แปลกเลยสักนิด
เอาล่ะก็ อ่านจบเล่ม 4 แล้วค่ะ ดีใจที่เรนช์ไม่ได้ตายจริง แล้วก็เสียใจที่จิมมี่แล้วก็ใครอีกหลายๆคนตาย เล่มนี้อัลเบิร์ตพาเรมอนตระเวนไปทั่วเพื่อไปรักษาร่างหุ่นยนต์ สุดท้ายได้เรย์ช่วยเอาไว้ - ครึ่งหลังมีเรื่องของดาวนีโร แล้วก็ดาวอโลนสตาร์ ฉากที่มีเสียงจากเครื่องฉายในดาวอโลนสตาร์แล้วอัลเบิร์ตคิดว่าเสียงนั้นดูสนิทชิดเชื้อ คิดว่าเตรียมเฉลยเรื่องพ่ออัลเบิร์ต ไม่แน่ว่าอาจเป็นอัศวินดาราที่พลีชีพไปแล้ว
อ้อ เล่มนี้มีฉากเอนซีแล้ว พระนายตกลงใจกันเรียบร้อย รักกันมาก 5555555 ก็คิดว่าทั้งการใช้ภาษาทั้งฉากคือเปิดเผยสมเป็นเฟยเทียนค่ะ
เรื่องย่อหลังปก เล่ม 5-6
อัลเบิร์ต กับ เรมอน รับภารกิจจากราชานักรบรับจ้างร่วมเดินทางกับทีมทเวลเนบิวลาที่มีเร้นซ์เป็นหัวหน้า มุ่งหน้าไปยังดาวอโลนสตาร์เพื่อช่วยซุนกับชีตที่ถูกจับขังเอาไว้ ดาวดวงนี้เคยเป็นที่คุมขังชาวดาวมายามาก่อน ไม่เพียงแค่ทีมนักรบรับจ้างที่สนใจดาวดวงนี้ ทั้งกลุ่มอิทธิพลดาวทมิฬ สาธารณรัฐ และกลุ่มโจรสลัดต่างก็มาปะทะกันที่นี่!
แต่หนึ่งศิษย์ของอัศวินดารา หนึ่งมนุษย์โคลนครึ่งหุ่นยนต์ บวกกับหนึ่งทีมนักรบรับจ้างระดับ A ย่อมมีศักยภาพที่ไม่สามารถดูถูกได้ แม้จะต้องเจอกับอุปสรรค พวกเขาก็ยังสามารถช่วยพรรคพวกกลับมาได้แถมยังเอามรดกของอัศวินดาราคนแรกอย่าง "โนเลน" ติดมือกลับมาด้วย
ทว่ายังไม่ทันได้ฉลองกับชัยชนะครั้งนี้ ระหว่างช่วงปีใหม่ วิกฤตก็มาเยือนดาวฬีอัสอีกครั้ง "เกรอรีน" แฝงตัวเข้ามาในดาวฬีอัส และลอบสังหารราชาอาเจลรัสของพวกเขา! ดาวฬีอัสตกอยู่ในสภาพมังกรไร้เศียร พากันรุมถล่มใส่ฆาตกรดุจแมลงเม่าโผเข้าหากองไฟ อัลเบิร์ตกับเรมอนคิดไม่ถึงจริงๆ ว่าแค่วันแรกที่พวกเขาได้จดทะเบียนแต่งงาน... จะกลายเป็นวันที่ทำให้พวกเขาต้องพรากจากกัน
คุยกันหลังอ่าน เล่ม 5
เราอ่านเล่มนี้แบบมีแว่บไปอ่านเรื่องอื่นกลางทางนิดหน่อย แต่ก็กลับมาอ่านแบบต่อติดนะ น่ะ…เดาถูกแบบเผงๆๆๆ คือเรมอนเป็นร่างโคลนของเกอรอรีนจริงด้วย เรย์แจคสันกับริคส่งอัลเบิร์ตไปอยู่กับเกอรอรีน เป็นไส้ศึกและลูกศิษย์ เป็นแผนที่โหดร้ายจริงๆ คือ ตอนแรกที่เรางงๆ เรื่องเกอรอรีนกับเรมอน ก็เพราะว่าตอนนั้นเรย์ แจคสันเห็นเรมอนแล้วไม่ได้พูดอะไรอะ ไม่คิดว่าจะจงใจ แล้วก็สร้างแผนนี้ขึ้นมา แอบคิดว่าเป็นแผนที่เลือดเย็นมาก สงสารอัลเบิร์ต แล้วก็แบบในฐานะคนอ่าน 5555555 หวั่นไหวกับเกอรอรีนแล้วค่ะ อัลเบิร์ตหวั่นไหวรึเปล่าไม่รู้ แต่เราหวั่นไหว คิดว่าถ้าเราเป็นชาวบ้านในเรื่องนี้ เจอกับเกอรอรีน เราต้องผันตัวเป็นฝ่ายนี้แน่เลย - ไม่รู้ว่าสุดท้ายมันจะจบยังไงนะ เหมือนที่อัลเบิร์ตถามตัวเองอะแหละ ถ้าเอาเรมอนกลับมาได้ จะเป็นเรมอนคนเดิมไหม ถึงอัลเบิร์ตจะไม่แคร์ที่จะได้เรมอนคนใหม่แล้วเริ่มใหม่หมด แต่เราก็ยังรู้สึกเจ็บปวดอยู่ดี แต่เราคิดว่านะ เพื่อความดราม่า เกอรอรีนกับเรม่อนจะต้องมีจุดอินเตอร์เซคกันตลอดไป หรือพูดได้ว่าแยกสองคนนี้ออกจากกันไม่ได้ ไม่งั้นตอนท้ายมันจะไม่มัน มันต้องมีความแบบเฮ้ย จะเลือกยังไงดี จุดยืนของชั้นล่ะ ชั้นจะต้องทำลายคนรักของชั้นใช่ไหม ระหว่างคนงามกับจักรวาลจะเลือกอะไรดี อะไรทำนองนี้ - แล้วอีกอย่างหนึ่งก็คือเศร้าตรงที่เรย์ แจคสันจะลบความทรงจำของทุกคนที่มีอัลเบิร์ตหมด มันแบบฮือออออ คือบรรยากาศที่ดาวฟีอัสมันพลุ่งพล่านมากจริงๆ จนมันแบบเฮ้อ ไม่อยากให้สูญเสียตรงนี้ไปเลย
คุยกันหลังอ่าน เล่ม 6
เล่มนี้เราอ่านจบเร็วมาก 5555 ไม่คาดคิดว่าไส้ศึกของเกอรอรีนในดาวฟีอัสจะเป็นเรนช์ ก็เลยเท่ากับว่าราชานักรบรับจ้างคนใหม่เป็นของเกอรอรีนเลยอะดิ ก็ไม่แปลกที่จะไม่ต้องกังวลกับดาวฟีอัสชั่วคราว หรือว่าเรนช์จะเป็นลูกชายของนักรบรับจ้างคนเก่าที่ถูกอาเจลรัสขังไว้นะ ก็เล่มนี้อัลเบิร์ตอยู่กับเกอรอรีนตลอด ความทรงจำก็เลอะๆเลือนๆ แอบกลัวแทนอัลเบิร์ต แบบไม่ค่อยไว้ใจริคด้วย ส่วนตัวเกอรอรีนเราคิดว่าเป็นพระเอกของเฟยเทียนเลย อย่างเรม่อนเรารู้สึกว่าสองคนนี้ใกล้กันเกินไป ปกติพระเอกของเฟยเทียนมันจะมีความแบบแดดดี้มีความไม่เท่าเทียมของอำนาจในความสัมพันธ์อยู่อะ แล้วพอเป็นเกอรอรีน มันมีตรงนี้พอดี อัลเบิร์ตเองก็ใช้ความรู้สึกที่มีกับเรมอนไปใช้กับเกอรอรีนด้วย เกอรอรีนเราว่าก็รักอัลเบิร์ตประมาณนึง ชอบซีนที่อัลเบิร์ตนั่งรออยู่ในบ้านตอนที่ริคกับเกอรอรีนสู้กันอะ แล้วพอเสร็จ อัลเบิร์ตนั่งรอหวังให้ริคมาเปิดประตูรับตัวเองกลับไป แต่กลับเป็นเกอรอรีน
แล้วก็ตอนที่เกอรอรีนเล่าเรื่องมิติที่ห้า เราคิดว่านะ ถ้าเรื่องนี้ย้อนเวลาได้มันจะเดายากขึ้นมาเลย แต่ก็นั่นแหละ ถ้าเป็นแนวอวกาศไซไฟก็ควรจะย้อนเวลาได้จริงๆ ไม่รู้ว่ามันจะสามารถย้อนเวลากลับไปหาเกอรอรีนก่อนที่จะเป็นแบบนี้ได้มั้ย บางทีเกอรอรีนในวัยเด็ก อัลเบิร์ตอาจจะสามารถรักได้อย่างเต็มใจมากกว่านี้
แล้วก็เรื่องที่ริคเคยบอกว่า ฝังประโยคนึงเอาไว้ในสัญชาตญาณของอัลเบิร์ต เราว่าถึงเวลาคับขัน ประโยคนี้ต้องฆ่าเกอรอรีนแน่ ไม่ฆ่าเกอรอรีนก็ฆ่าอัลเบิร์ตเอง
ตอนนี้คือเราคิดว่าเรมอนไม่มีทางกลับมาแบบเป็นเรมอน 100 เปอร์เซ็น เรมอนที่เกิดจากกองขยะในดาวทดลองที่สองแล้วก็ผจญภัยกับอัลเบิร์ต ไม่มีทางกลับมาในรูปแบบคนนั้นได้แล้ว แต่เรมอนจะอยู่รวมกับเกอรอรีนแน่ แล้วแยกสองคนนี้ออกจากกันไม่ได้อีก
สุดท้ายเราเดาว่า ริคมีส่วนเกี่ยวข้องกับการสร้างหุ่นยนต์แน่นอน
เรื่องย่อหลังปก เล่ม 7-8
อัลเบิร์ตถูกริดและเรย์ แจ็คสันส่งไปเป็นลูกน้องของเกอรอรีน
แฝงตัวทำหน้าที่เป็นสายลับ เพื่อล้างแค้นให้กับคนรัก
ทว่าเขากลับหลงใหลในเสน่ห์แห่งผู้นำของเกอรอรีน
รวมทั้งโฉมหน้าของอีกฝ่าย ที่เป็นพิมพ์เดียวกับเรมอนของเขา
ได้สร้างความขัดแย้งขึ้นในใจอัลเบิร์ตหลายต่อหลายครั้ง
ทั้งริดและเกอรอรีน อาจารย์ด้านมืดและด้านสว่างทั้งสองของเขา
ต่างก็มีปณิธานอันมุ่งมั่นเข้มแข็ง มีจุดยืนเป็นของตัวเอง
จนเมื่อการต่อสู้ขั้นสุดท้ายมาถึง ฐานะที่ปกปิดไว้ของอัลเบิร์ตก็ถูกเกอรอรีนล่วงรู้ในที่สุด
ทุกสิ่งทุกอย่างที่เกี่ยวกับอัลเบิร์ต ความสัมพันธ์ที่เกี่ยวข้องกับริดและดาวฟีอัส
รวมถึงความผูกพันกับเรมอนที่ตายไป...ล้วนถูกเกอรอรีนล่วงรู้
อัลเบิร์ตคิดว่าตัวเองคงจะถูกฆ่าด้วยฝีมือของเกอรอรีนผู้โกรธเกรี้ยว
และเขาเองก็ได้เตรียมใจไว้แล้วกับความตายที่กำลังจะมาเยือน
ทว่าปฏิกิริยาของเกอรอรีนกลับแตกต่างจากที่เขาคิดไว้อย่างสิ้นเชิง!
คุยกันหลังอ่าน เล่ม 7
เล่มนี้เราอ่านแบบอืดๆ ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม โดยเฉพาะตอนที่อัลเบิร์ตกับเรมอนเป็นนักผจญภัยเราอ่านแบบอืดอาดมาก แต่ที่สำคัญคือเล่ม 7 เฉลยออกมาในแบบที่เราเดาผิดเกือบหมด เกอกอรีนไม่ได้สร้างเรมอน ไคเลอร์สร้างเรมอนขึ้นมา เกอกอรีนไม่ได้รู้เรื่องด้วยเลย แต่ในฉากที่เกอรอรีนมองสร้อยแล้ววิญญาณสู้กัน เราคิดว่าเรมอนน่าจะเป็นฝ่ายชนะ แต่ไม่เข้าใจเหมืออนกันว่าทำไมเรื่องมันออกมาทางนี้ หรือว่าเกอกอรีน (ที่เป็นเรมอนด้วย) อยากจัดการเรื่องของตัวเองก่อนแล้วส่งอัลเบิร์ตออกมาข้างนอกพร้อมมนุษย์โคลน (เรมอน) กันนะ งง - หรือว่าเกอกอรีนกับเรมอนจะแยกกันถาวรแล้ว แต่นั่นดูเหมือนไม่น่าอะ แล้วไหนจะความรู้สึกแปลกประหลาดที่อัลเบิร์ตมีต่อเรมอนอีก เราว่าส่วนนึงนอกจากห่างกันไปนานแล้ว เป็นเพราะว่าส่วนนึงของเรมอนอยู่กับเกอกอรีนมั้ย เอาเถอะ…ไม่พูดมากแล้ว 555555 เดาผิดไปหมด ฮา
คุยกันหลังอ่าน เล่ม 8
เล่มนี้คือแบบมึนมากกกก เต็มไปด้วยปรัชญาที่เราก็ไม่รู้ว่าเราเข้าใจถูกหรือเปล่า สปีดการอ่านช้ามาก โดยเฉพาะช่วงอยู่กับสังฆราชาเทอรามอน เล่มนี้บรรยากาศระหว่างเรมอนกับอัลเบิร์ตดีขึ้นมาก บรรยากาศระหว่างอัลเบิร์ตกับเกอรอรีนเองก็ด้วย เล่มนี้ไม่รู้จะพูดอะไรมาก เอาเป็นว่าหมดพลังจะเดาอะไรต่อมิอะไรแล้ว 5555555555 เล่มต่อไปเลยแล้วกัน
เรื่องย่อหลังปก เล่ม 9-10
จู่ๆ ‘สังฆราชาเกอไลปินนี่’ ก็สิ้นชีวิตระหว่างพูดคุยกัน ‘อัลเบิร์ต’
และในพิธีจุติใหม่ก็ไม่ได้คืนชีพในร่างของทารกเทพตามแผนที่กำหนดไว้
วิญญาณของสังฆราชาที่ควรได้กลับมาเกิดใหม่หายสาบสูญไป
อัลเบิร์ตจึงต้องอาศัยสถานะนักผจญภัยที่เป็นกลาง ทำหน้าที่สวมมงกุฏให้กับเชฟเพิร์ด
ในพิธีที่รายล้อมไปด้วยบุคคลที่เต็มไปด้วยวาระแฝงเร้นและแผนชั่ว
อัศวินดาราอายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์ กำลังจะสวมมงกุฏให้กับสังฆราชาผู้อ่อนวัยคนใหม่
และขณะเดียวกัน รอยปริแยกของเรย์ แจ็คสันกับอัศวินดาราอื่นๆ ก็เริ่มปรากฏชัดเจนขึ้น
ระหว่างการต่อสู้กับ ‘ไคเลอร์’ ผู้เป็นราชานักรบรับจ้างคนแรก
อัลเบิร์ตได้รับการยอมรับจาก ‘ไฟเยอร์ฟีนิกซ์’ จนกลายเป็นนายคนใหม่ของมัน
ขณะที่แผนการหวนคืนกองทัพมนุษย์โคลนของไคเลอร์กำลังจะเป็นจริง
กองทัพปัญญาประดิษฐ์จำนวนมากที่มีสารพันธุกรรมของยอดนักรบ
ก็ได้แทรกซึมเข้าไปในดาวต่างๆ ที่มีมนุษย์อาศัยอยู่
อวสานของมนุษยชาติจึงใกล้เข้ามาทุกที
ทว่าสองอาณาจักรที่มนุษย์เป็นผู้นำ ทั้งจักรวรรดิและสาธารณรัฐ
กลับตกอยู่ในความวุ่นวายจากกบฏภายใน และการต่อสู้ระหว่างกัน…
คุยกันหลังอ่าน เล่ม 9
เล่มนี้มีฉากเด่นๆตอนที่ไปกำจัดกองทัพเรมอน (แต่คิดว่าน่าจะเป็นแค่เซตเดียวหรือเปล่า สุดท้ายต้องมีสู้กับกองทัพปัญญาประดิษฐ์แน่ไหมนะ) แล้วก็กลับไปสู้รบที่ดาวฟีอัส คือ เห็นสภาพดาวฟีอัสปัจจุบันแล้วก็อดเสียใจไปด้วยไม่ได้ สำหรับอัศวินดารา เราคิดว่าเนื้อเรื่องช่วงดาวฟีอัสเป็นช่วงที่สดใสที่สุด ร้อนแรงที่สุด สนุกที่สุด มีจิตวิญญาณของความผจญภัยมากที่สุด มันมีความโชเนนอะ มีความพวกพ้อง แบบก็สมกับที่อาเจลรัสอยากให้เป็นนั่นแหละ แล้วก็รู้สึกทอดถอนใจที่แบบคนส่วนมากลืมอัลเบิร์ตกับเรมอนไปหมดแล้ว หวังว่าในเล่มสิบจะสามารถกลับคืนความทรงจำมาได้นะ ฮืออ
คุยกันหลังอ่าน เล่ม 10
เราพูดเลยว่าหลังๆ อ่านยากมาก โดยเแพาะเล่ม 8/9/10 มันเต็มไปด้วยแบบแนวคิดปรัชญามากมาย จากคนที่มีจุดยืนต่างๆ กัน แล้วเนื้อเรื่องก็ไม่ได้ทิ้งเวลาให้คนอ่านได้ย่อยนานขนาดนั้นด้วย ส่วนตัวให้พูดตรงๆ เราแอบรู้สึกว่าสงครามช่วงหลังมันแกรนด์ก็จริง แต่มันกลับให้ความรู้สึกเหมือนไม่อินขนาด 5 เล่มแรกอะ สงครามที่ควรจะแกรนด์ที่สุดอย่างสงครามกับมนุษย์โคลนที่มาจากดีเอนเอที่คัดมาแล้ว หรือว่าสงครามจักรวรรดิ/สาธารณรัฐ ยังสนุกสู้สงครามอาเจลรักับเกอรอรีนไม่ได้เลย
ขอพูดถึงตอนจบบ้าง เป้นตอนจบที่ถ้าถามเรานะ เราว่ามันจบแบดเอนด์ดิ้ง โอเค อัลเบิร์ตคงมีความสุขมั้งได้เริ่มต้นใหม่อะไรต่างๆ แต่คือเรมอนที่ไม่ได้มีความทรงจำร่วมกันมา มันคือคำถามที่อัลเบิร์ตถามตัวเองมาตลอดอะ แล้วเรื่องนี้ยังมีมนุษย์โคลนอีกเป็นพันตัว อัลเบิร์ตไปหาเรมอนในจักรวาลคู่ขนาน คนนั้นยังเป็นเรมอนอยู่ไหม แล้วเอาอะไรมาบอกว่ามนุษย์โคลนตัวอื่นจะไม่ใช่เรมอนในเมื่อเรมอนคนนั้นก็ไม่ได้มีความทรงจำเกี่ยวกับอัลเบิร์ตอยู่เลย เราว่ามันเจ็บปวดเกินไปที่ต้องเริ่มต้นใหม่แบบนี้ รวมทั้งมันเจ็บปวดเกินไปกับการต้องยอมรับว่าเรมอนตายแล้วตายเลย เรมอนที่ฟื้นขึ้นมาใหม่ไม่มีจริง เรายอมให้เรมอนกับเกอรอรีนรวมร่างกันไปเลยแล้วอยู่กับอัลเบิร์ตดีกว่า เราว่ามันขมมากตรงที่เรมอนที่สองอะ ดันมีความคิดเป็นของตัวเองหมด มีวิลเป็นของตัวเอง ยังเจรจากับเกอรอรีนว่าถ้าชนะเกอรอรีนได้จะเป็นเกอรอรีนคนถัดไป ก็แปลว่ามีความตั้งใจแบบเป็นปัจเจก แต่ส่วนที่ไม่เป็นปัจเจกดันเป็นความรักที่มีให้อัลเบิร์ตที่มันดันเป็นการควบคุมของเกอรอรีนอะ มันรู้สึกเหมือนที่ผ่านมาเป็นเรื่องหลอกลวงอะดิ คือเราก็คิดว่าเกอรอรีนรักอัลเบิร์ตนะ แต่อัลเบิร์ตรักเรมอนคนเดียวอะแล้วก็แคร์เรื่องนี้มากๆ ด้วย แคร์เรื่องที่ต้องเป็นเรมอนคนนั้นเท่านั้นอะ
เรารู้สึกมานานแล้วช่วงเล่ม 6/7/8 อะ ว่าความรักของเรมอนกับอัลเบิร์ตมันไม่เหมือนเดิม ตอนแรกคิดว่าแค่แบบคบกันแล้วเลยแบบพัฒนาไปเฉยๆ แต่เปล่ามันไม่เหมือนเดิมจริงๆ เศร้าอะ มันเป็นความขมที่แบบ เชี่ย ไม่เคยกินความขมแบบนี้มาก่อนเลย นี่ยังมีเล่มพิเศษที่เป็นเอนซีอีก แต่ไม่มีความรู้สึกอยากอ่านเลย ดิชั้นจะอ่านไปเพื่ออออ (พูดไปงั้นเดี๋ยวมาอ่านพรุ่งนี้ ฮือ นี่คือโต้รุ่งอ่านเล่มจบเลยนะ) - ละคือช่วงท้ายมาเหมือนระเบิดลงอะ คือนึกว่าจะจบแบบแฮปปี้เอนดิ้ง เราว่าแล้วว่าในไทม์ไลน์หลัก เกอรอรีนกับเรมอนมันแยกเป็นสองตัวละครในตอนท้ายไม่ได้แน่ แล้วเราก็คิดว่ามันจะรวมกันแหละ แต่แค่ไม่คิดว่ามันจะออกมาในลักษณะนี้ มันเจ็บปวดเกินไป แล้วอัลเบิร์ตก็รับไม่ได้ด้วย ฮือออออ โอ๊ยยยยยยยยย เจ็บปวดหัวใจแทน แง้
สรุปรวมๆ ก่อนเราไปอ่านเล่มพิเศษแล้วกันนะคะ ก็ 10 เล่มเราคิดว่าเพลินดีค่ะ สนุกมาก เป็นจักรวาลที่มีสีสันมาก สร้างตัวละครมาได้ดีเยี่ยม แต่ถามว่าเราชอบมั้ย เราคิดว่าช่วงห้าเล่มแรกสนุกมาก (จนก่อนเรมอนจะตาย หรือพูดง่ายๆคือตั้งแต่อัลเบิร์ตฝึกกับริคจนมาที่ระบบสุริยะเทพนักรบ) ห้าเล่มหลังค่อนข้างซับซ้อน มีอำนาจหลายฝ่าย ย้ายข้างกันหลายครั้ง ปรัชญาเยอะ ทุกคนก็มีจุดยืนที่แตกต่างกันหมด รวมถึงตอนจบที่แบบคาดไม่ถึง - จริงๆ เรารับได้นะถ้าพระเอกจะเป็นเกอรอรีน แต่มันต้องมาอย่างนุ่มนวลกว่านี้ มีตัวตนของเรมอนเดิมมากกว่านี้ในแบบที่อัลเบิร์ตก็ต้องรับได้เหมือนกันอะ อันนี้มันเหมือนเกอรอรีนเองก็บังคับมาเลยว่า ตัวเกอรอรีนนี่แหละคือเรมอนแล้วก็ใครที่มีความทรงจำของเรมอนก็คือเรมอนทั้งหมด
เรื่องนี้เราเดาผิดเยอะมากกก 55555 แต่ก็ถือว่าได้อ่านแล้วก็ได้คาดเดาอย่างสนุกสนานมาตลอดค่ะ
ถ้าถามว่าสนุกมั้ย เราคิดว่าสนุก ถ้าชอบมั้ย เราก็ลังเลนิดนึงอะนะ เราไม่ชอบตอนจบมากๆเลย 55555 ตอนจบแบบพูดไงดี ด้วยจังหวะเรื่อง ด้วยอะไรทั้งหลายแหล อำมหิตมาก 55555555555
ปล. ตัวละครที่เราชอบที่สุดในเรื่องคือเกอรอรีน
ถ้าสมมติว่าตอนที่อัลเบิร์ตเจอกับเกอรอรีน แล้วเกอรอรีนทำตัวเป็นเรมอนไปเลย หรือพูดกับอัลเบิร์ตตามตรงไปเลยว่าความทรงจำเรมอนอยู่ในร่างตัวเองแล้ว แล้วค่อยๆรักกันใหม่ไปเลย เราว่ายังดีกว่า การที่สร้างเรมอนคนที่สองขึ้นมาแล้วเอาความรักออกไปอะ มันหลอกลวงอะะ แล้วคือปฏิกิริยาของเรมอนมันเป็นออโตเมติกด้วยนะ มันเป็นสิ่งที่ตั้งเอาไว้ให้ตอบโต้อัลเบิร์ตแบบนี้ ซึ่งมันไม่ใช่เกอรอรีนอยู่ดีอะ ทำแบบนี้มันเหมือนกับการ belittle ความรักของอัลเบิร์ตอะ พิมพ์ๆไปก็จะร้องไห้ ฮือ ทำไมมันเศร้าอย่างนี้ ทำไมเกอรอรีนทำแบบนี้ ทำไมไม่รักกันดีๆ ฮืออออ
นี่เป็นเรื่องที่จบได้ขมที่สุดเรื่องนึงที่เราเคยอ่านมาเลย มันไม่ใช่ว่ารักกันแล้วจากตาย ไม่ใช่ว่าเคยรักแล้วไม่รักแล้ว แต่ความรักนั้นมันเป็นของปลอมอะ
เราว่านะจริงๆแล้วอัลเบิร์ตกับเกอรอรีนสามารถรักกันได้ ถ้าเกอรอรีนไม่ได้สร้างเรมอนสองขึ้นมา ทั้งสองคนมีโพเทนเชียลที่จะรักกันได้(ในเชิงนั้น)อยู่แล้ว แบบตอนที่อัลเบิร์ตเป็นลูกศิษย์เกอรอรีนมันก็ดีมากอะ เราคิดว่าเกอรอรีนรักอัลเบิร์ต (แบบไหนไม่รู้ แต่เราว่ามันต้องมีสักครั้งแน่ ที่เกอรอรีนเป็นคนทำตอนเอนซี อาจจะเป็นช่วงที่อัลเบิร์ตรู้สึกว่ามันแปลกๆตอนแรกๆว่ามันไม่เข้ากันอะไรแบบนี้ก็ได้) แล้วเกรอรอรีนก็คิดว่าอัลเบิร์ตก็รักตัวเองเหมือนกัน (ซึ่งเราก็คิดว่ารักนะ แต่ไม่ได้รักแบบที่รักเรมอน) คิดว่าอัลเบิร์ตจะสามารถรับเรมอนที่เป็นเกอรอรีนได้ แต่ไม่ได้คิดว่าสำหรับอัลเบิร์ตมันเป็นคนสองคนที่แยกออกจากกันอะ ถ้าเกอรอรีนพยายามให้อัลเบิร์ตรักตัวเองในฐานะเกอรอรีนเราว่าทำได้
คือเรื่องนี้มันก็คงอย่างที่ใครสักคนพูดมั้งว่าแบบ ได้มาแล้วก็เสียไป เป็นเรื่องธรรมดาๆอะ แบบคนที่ดาวฟีอัสตอนหลังๆก็แทบไม่มีใครที่เหมือนเดิมแล้วปะ ไม่ได้อยู่กับคนเดิมหรือตายจากไปบ้างอะไรงี้
คือที่มันแบดเอนด์มันแบบไม่ใช่แค่อัลเบิร์ตต้องไปหาเรมอนที่จักรวาลใหม่เริ่มต้นใหม่ทั้งหมดนะ เกอรอรีนเองก็ถูกอัลเบิร์ตฆ่าแบบที่เจ้าตัวคิดว่าไม่มีทางเป็นไปได้อะ เพราะคิดว่าคนคนนี้รักตัวเองแล้วตัวเองก็พร้อมจะรักเค้า 55555 คือเราก็อยากให้ทั้งเรมอน ทั้งอัลเบิร์ต ทั้งเกอรอรีน มีความสุขแบบรักกันด้วยดี
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in