เรื่องย่อหลังปก เดิมที "หลินเจวี๋ย" เป็นแค่นักศึกาษามหาวิทยาลัยชั้นปีที่สองธรรมดาๆ คนหนึ่งแต่พอเขาได้รับ "ไข่อีสเตอร์" ปริศนาก็ถูกพาเข้าไปในโลกที่อธิบายไม่ได้ด้วยวิทยาศาสตร์ในคืนฮาโลวีน! สถานทีที่เขาอยู่คือมหาวิทยาลัยไม่ผิดแน่ แต่ทำไมรูมเมตและเจ้าหน้าที่ดูแลหอพักถึงได้กลายเป็นซอมบี้ไปได้ แค่เผลอลนลานเพียงชั่ววูบ ก็เกือบถูกชอมบี้เขมือบซะแล้ว โชคดีที่เขาได้พบกับ "ซ่งหานจาง" นักศึกษาแพทย์ชั้นปีที่สี่ผู้สุขุมรอบคอบที่ยื่นมือมาช่วยชีวิตเขาได้ทันเวลา
มนุษย์ 13 คนถูกพลังลึกลับที่มองไม่เห็นลากเข้าสู่เกมมรณะ และ "ยูดาส" คนทรยศที่ซ่อนตัวอยู่ก็ทำให้โอกาสรอดชีวิตน้อยลงไปทุกที ท่ามกลางสิ่งแวดล้อมสุดโหด หลินเจวี๋ยรู้ดีว่าคุณธรรมใจใจเขากำลังบิดเบี้ยว ความโหดเหี้ยมกำลังเข้ามาแทนที่ความรู้สึกผิดชอบชั่วดี และเพื่อเอาตัวรอด เขาต้องเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ถูกบีบให้กลายเป็นนักสู้ เอาชนะความท้าทายไปพร้อมกับซ่งหานจางมีชีวิตรอดให้ถึงยามฟ้งสางของวันพรุ่งนี้
คุยกันหลังอ่าน (สปอยล์ ,แนะนำให้อ่านเองก่อนถูกสปอยล์จะดีที่สุด เพราะการสปอยล์จะทำให้เสียอรรถรสของเรื่องมากๆเลยล่ะ) โอเค เรื่องนี้มี 3 เล่มจบค่ะ ก็ไม่หนามาก จริงๆนับว่าเป็นสองเล่มกับอีกนิดนึงก็ได้ เพราะว่าส่วนใหญ่ของเล่มสามเป็นตอนพิเศษซะเยอะ
เกริ่นก่อนว่าเราอ่านเรื่องนี้โดยไม่ได้รู้อะไรมากเท่าไหร่ ไม่ได้อ่านเรื่องย่อเลยด้วยซ้ำ พอได้อ่านจริงๆแล้วประทับใจมาก บวกกับเซอร์ไพรซ์ด้วย ต้องบอกว่าพลอตที่เรื่องนี้มีเป็นเรื่องที่แตกต่างมาก โดดเด่นมาก ถ้าเทียบกับนิยายวายจีนแปลไทยที่มีขายอยู่ในร้านหนังสือปัจจุบัน หรือจะให้เทียบนิยายแปลจีนทั้งหมดเลยก็ได้
พลอตคงพูดไม่ได้เต็มปากว่าใหม่ มันชวนให้นึกถึงหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นเกมไพ่อย่างแววูฟเกม ที่มีหลายจุดที่เหมือนทั้งสกิลการก้อปปี้ผู้เล่นคนอื่น หรือการหาหมาป่าในหมู่ชาวบ้าน (ในที่นี้คือหายูดาสในหมู่ผู้เล่น) หรือจะเป็นการจบเกมเมื่อขึ้นวันใหม่ของเกมแรก ช่วงเกมซอมบี้เป็นช่วงที่ทำให้เรานึกถึงแววูฟเกมมากที่สุด
แต่เมื่อถึงเกมที่สองและสาม คือเกมแมลง และเกมความกลัวในจิตใจ เราก็เริ่มรู้สึกว่าไม่ค่อยเหมือนละ และยิ่งไม่เหมือนมากขึ้นเรื่อยๆ พลอตเรื่องไปในทิศทางที่เราเดาไม่ถูก และไม่มีทางเดาถูก เรารู้สึกว่าบางครั้งเราก็เหมือนหลินเจวี๋ยที่ไม่เข้าใจอะไรเลย ฟังซ่งหานจางอธิบายแล้วเข้าใจที่พูดทุกคำแต่กลับฟังไม่รู้เรื่องซะอย่างนั้น หลังๆมีไทม์ไลน์ของเวลาเข้ามาเกี่ยวข้องชวนงงอยู่ไม่น้อย แต่ในขณะเดียวกันก็รู้สึกว่าสุดยอดมากๆเลยล่ะ
เรื่องนี้โดยรวมมีฟีลลิ่งเหมือนการ์ตูนญี่ปุ่นแนวเลือดสาดบ้าคลั่งที่ต้องใช้สมาธิดูสักเรื่องหนึ่ง แม้กระทั่งพลอตเรื่องรวมก็ให้ฟีลประมาณนั้นด้วย คือแทบจะนึกออกเลยว่าถ้าเรื่องนี้สร้างเป็นอนิเมะ แต่ละคาแรกเตอร์จะออกมาประมาณไหน เพราะว่าคาแรกเตอร์ก็มีความจัดจ้าน มีความเซอร์เรียลแบบคาร์ที่จะอยู่ในการ์ตูนด้วย
เราว่าเค้าสร้างคาแรกเตอร์ทุกคนออกมาได้จัดจ้านและมีแบคกราวน์รองรับ ทุกคนมีสตอรี่ แน่นอนว่าทำให้เรื่องในเกมที่สามสนุกขึ้นมา เราชอบตัวละครรองหลายตัวมาก
หนึ่งในตัวละครที่เราชอบมากคือหลิ่วชิงชิง เราชอบคาแรกเตอร์คลั่งรักประเภทนี้ ประเภทที่ทำทุกทางให้ถูกคนคนนี้รัก ทำทุกทางที่จะให้คนคนนี้เป็นของตัวเองแค่คนเดียว ยอมไม่ได้ที่จะถูกแบ่งความสนใจไป ส่วนกู้เฟิงอวี๋เองก็เป็นคนที่เข้ากับหลิ่วชิงชิงได้ดีมาก คนหนึ่งอยากถูกบูชา คนหนึ่งพร้อมบูชาและอยากถูกรักใคร่ดูแล จุดจบของคู่นี้โศกนาฏกรรมมาก แต่ก็เป็นซีนที่สวยมากๆน่าจดจำมากๆซีนหนึ่งเลย เล่าเรืองตั้งแต่แบคกราวน์ความพังของตัวละครมาจนถึงจุดจบกระชากใจได้อย่างว่องไวหมดจด
อีกคาแรกเตอร์ที่เราชอบแน่นอนว่าคือ จางซือเจีย คู่นี้เราไม่ได้ประทับใจในแบคกราวน์เท่าไหร่ แต่ชอบช่วงเวลาที่จางซือเจียกับจั่วหลินเยวียน อยูในมหาลัยมากกว่า ชอบความรักแบบไม่มีเงื่อนไขของจั่วหลินเยวียน ฉากที่จั่วหลินเยวียนแอบจูบจางซือเจียในหอพักทำออกมาได้ดีมากกกกกก รวมถึงฉากแอบมองทั้งหลาย แบบรู้สึกเลยว่าเซกซี่มาก มี sexual tension ลอยฟ่องเลย เป็นห้าหกหน้าที่เราชอบมากเลยค่ะ และการที่จางซือเจียยอมรับเพศสภาพของจั่วหลินเยวียนที่มีปมเรื่องนี้แบบง่ายๆก็ทำให้คนอย่างจั่วหลินเยวียนถวายชีวิตอย่างไม่มีข้อแม้
อีกฉากที่เราชอบของคู่นี้แน่นอนว่าคือฉากที่จางซือเจียอยากพูดแต่พูดไม่ได้ อยากยื่นมือออกไปหาเป็นครั้งสุดท้ายแต่ไปไม่ถึง เป็นคู่ที่เราอยากให้ได้กลับมาได้โลกจริงที่สุดเลย เพราะรู้เลยว่าถ้าสองคนนี้กลับมาในโลกจริงอีกครั้งจะไม่มีวันจากกันไปไหนอีกแล้ว (เพราะงั้นตอนอ่านในตอนพิเศษก็เลยชอบมากเลยค่ะ ถึงจะรู้ว่าเป็น AU ก็ตาม แต่คิดว่าตามคอนเซปของเรื่องนี้ มันเป็นไปได้ที่จะมีหลายจักรวาล มีหลายความจริง เพราะฉะนั้นอาจจะมีความจริงหนึ่งที่สองคนนี้อยู่ด้วยกันอย่างมีความสุขก็เป็นได้
อีกตัวละครที่มีสีสันมากๆคือ ลู่เหริน และเป็นตัวละครที่ทำให้เราคิดว่า ตัวละครนี้แหละมีความเป็นคาแรกเตอร์ในการ์ตูนญี่ปุ่นมากที่สุด คือรู้สึกเห็นภาพเลยว่า คาแรกเตอร์นี้จะออกมาเป็นแบบไหนถ้าอยู่ในอนิเมชั่น
พูดถึงคู่ตัวเอกกันบ้าง
จริงๆแล้วเมื่อเทียบกับดราม่าน้ำตานองของคู่จางซือเจียกับคู่หลิ่วชิงชิง เรารู้สึกว่าคู่ตัวเอกไม่ได้ดราม่าอะไรมาก เน้นการ survival และการต่อสู้เป็นหลัก มีการพัฒนาตัวละคร หลินเจวี๋ยเป็นตัวละครที่เหมาะกับการเป็น narrator มากเพราะว่ามีความเป็นคนธรรมดาอยู่ในตัว แต่ในเวลาเดียวกันก็มีลูกบ้า แล้วก็ขี้เขิน ทำให้รู้สึกสนุกมากๆเวลาที่บรรยายผ่านตัวละครตัวนี้ การตกหลุมรักของหลินเจวี๋ยที่เหมือนสาวน้อยตกหลุมรักสุดหล่อแสนเย็นชา ทำให้เรื่องมันเบาขึ้นเยอะเลย ทั้งๆที่จริงๆฉากหวานไม่ได้เยอะมาก แต่เรารู้สึกว่าล่าทรยศเป็นนิยายวายที่โรแมนติกมาก มากจริงๆ
เพราะทุกอย่างที่นำไปสู่ตอนจบแบบที่เป็นอยู่ ก็เพราะความรักล้วนๆ
มีนิดนึงตรงที่เรื่องนี้ไม่ได้เฉลยเต็มที่ว่าเรื่องราวมันเกิดขึ้นเพราะอะไร ทำไมถึงต้องเป็นแบบนี้และคนที่อยู่เบื้องหลังคือใคร อาจจะไปเฉลยในเรื่องอื่นๆรึเปล่านะ
รวมๆแล้วสำหรับเราแน่นอนว่าชอบมากๆค่ะ ถ้ามีเรื่องต่อไปของคนเขียนคนนี้รับรองว่าอ่านแน่นอนค่ะ!
ปล.คำผิดมีไม่น้อยเลย 55555 และเราชอบคำว่าล่าทรยศที่อยู่บนหน้าปกมากๆเลย ดีไซน์ไทโปออกมาดีงามมาก แต่แอบคิดว่าพ้อยต์ของเกมมันไม่เชิงอยู่ที่การหายูดาสเท่าไหร่นะ
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in