ขยันปะ มีเขียนย้อนหลังด้วย อันนี้สัญญาว่าไม่ทริกเกอร์
เรามีปัญหากับการเขียนเรื่องสั้น เรื่องยาว ฟิคโทเบอร์ กลอน journal nichhearscolours อะไรก็ตามที่ค้างคาไว้มาก เราน่าจะหยุดไว้ที่กลางตุลามั้ง แล้วก็กลับมาเขียนสั้น ๆ ทีนึงตอนปีใหม่ ก่อนหน้านี้มีข้ออ้างกับตัวเองว่ากำลังยุ่งกับการมีความสุข เลยไม่มีเวลามานั่งคิดอะไรหรือใช้เวลากับตัวเองมากพอ หลังจากนั้นก็มีข้ออ้างถัดมาคือเรื่องการอ้างอิงคนจริงในเรื่องแต่ง สัดส่วนงานเขียนเรามีเปอร์เซ็นจินตนาการน้อยมาก สารภาพว่าส่วนมากคือเรื่องส่วนตัวที่เอามาบิดเบือน อ่านแล้วก็จะแบบเอ่อ ทำไมเรากล้าเล่าอะไรเกี่ยวกับตัวเองขนาดนี้วะ บางทีก็แก้ปัญหาด้วยการ non fiction 100% ไปเลย รู้สึกน่าอายน้อยกว่าตอนเล่าแบบกำกวมนิดหน่อย
จนเมื่อปลายปีที่แล้วได้ไปดู Goodbye Christopher Robin ยิ่งไม่กล้าเขียนอะไรเข้าไปใหญ่ เราไม่คิดว่าเรื่องที่เราเขียนมันจะไวรัลคนตามเยอะอะไรหรอก เราแค่คิดว่าคนที่อ่านเจอเป็นคนที่เราอ้างอิง หรือเขาอาจจะคิดไปเองว่าเราอ้างอิงมาอ่านแล้วก็ cringe ตัวเองเหลือเกิน รถไฟความคิดคนกำลังแพนิกเลยยิ่งพาเราไปไกลถึงเรื่องงานแฟนฟิคชัน แค่เขียนกับตัวละครก็ cringe ระดับหนึ่งแล้ว อ้างอิงคนจริงแล้วเขามาเจอจะคิดยังไง ก็เลยคิดย้อนกลับมาว่า ถ้างานเขียนของเรามันเคารพตัวละคร เจ้าตัวมาอ่านเจอเขาคงไม่ว่าอะไรมั้ง
จนตอนนี้หมดช่วงเทศกาลกลับมาเผชิญความจริงแล้ว ใช้เวลาในสมองจนมากพอแล้วก็เลยวางแผนจะรีไรท์อีที่ค้าง ๆ ไว้แหละ แต่ก็ไม่อยากเริ่มเลย ปกติเป็นคนไม่กลับไปอ่านอะไรที่ตัวเองเขียนอยู่แล้วด้วย ให้รีไรท์นี่ฝันไปเถอะ ลบไฟล์แล้วเขียนใหม่หมดเลยยังจะดีซะกว่า
ชอบความรู้สึกเวลาเขียนอะไรออกมามาก เหมือนได้เรียบเรียงความคิดในหัวตัวเอง ก็คือชอบตอนเขียนน่ะแหละ แต่ตอนกลับมาอ่านก็จะแบบ ยี้ ตอนนั้นคิดอะไรแบบนี้หรอ ซึ่งส่วนมากคือตอนที่เราคิดเอาเองว่าเรากลายเป็นคนที่ดีขึ้น แต่บางทีเราก็ลืมความคิดที่ตัวเองมี พอกลับมาอ่านแล้วก็ ว้าว กูเคยคิดอะไรแบบนี้ได้หรอ แล้วตอนนี้ทำไมกูเป็นแบบนี้อะ ฮ่า ๆ ฟัคยู
อีกอย่างที่น่าจะทำให้ดีใจคือคนบอกว่าเราเป็นแรงบันดาลใจ บางทีก็ไม่รู้ว่าในทางที่ดีมั้ย เขาอาจจะไม่ได้รับรู้ตัวเราอย่างที่เราเป็นหรือเราคิดว่าเราเป็นจริง ๆ ก็ได้ แต่ถ้ามันทำให้ชีวิตใครดีขึ้นก็คงดีมั้ง เหตุผลเดียวกับการชอบเป็นคนให้น่ะแหละ รู้สึกมีประโยชน์ดี เอามากลบความรู้สึกไร้ค่าของตัวเองตามสไตล์ลูเซอร์อะค่ะ
เราหลอกว่าเราจะเขียนย้อนหลังทั้งสามวันอะ จริง ๆ มีอีกสองเรื่องแหละ แต่นี่ก็เลยเถิดนอกประเด็นมาเยอะละ ไว้เอามาเล่าวันหลังตอนคิดอะไรไม่ออกละกัน
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in