เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
ประสบการณ์ที่ผ่านเจอNarut Sirithip
โดนโกง ครั้งแรก
  •  เรียนจบจึงได้กลับมาทำที่บ้าน โดยส่วนที่ดูเป็นส่วนบุหรี่ซึ่งจะทำงานง่ายกว่าส่วนเบียร์ที่คุณแม่กับพี่สาวดูค่อนข้างมาก ด้วยลักษณะงาน การแข่งขัน รวมถึงพนักงานในส่วนนี้

       แม้เคยพบพนักงานที่บ้านทุจริตบ้าง แต่ในส่วนบุหรี่ที่ได้ดูนั้นไม่เคยมีเลยตลอดที่ทำมา จนผมเชื่อใจในพนักงานฝ่ายนี้มาก แม้อาจมีอู้งาน ทำงานหละหลวมบ้าง แต่ในความคิดไม่เคยมีเลยว่าเขาจะโกง

     

        คุณแม่เคยถามหลายครั้งเนื่องจากแม่ไม่ได้ดูส่วนนี้เลย  ว่าให้ดูเรื่องบัญชี เงินตรงมั้ย ของตรงมั้ย เช็คบ้างนะ ซึ่งก็ยอมรับครับว่าจะรู้สึกหงุดหงิดบ้าง บางทีก็สวนไปว่าธุรกิจถ้าเราจะมาดูหมด มันจะโตได้ยังไงต้องปล่อยให้คนอื่นรับผิดชอบเป็นส่วนๆตามหน้าที่ไป  แม่ชอบมองโลกในแง่ร้าย เน ตรวจทีไรก็ตรง(ซึ่งก็นานๆครั้งและก็มักตรวจตามที่เขาเขียนๆกันมา) มีคนคอยดูอยู่ เนี่ยก็ดูนี้ดูนี้ตอบได้หมด 

        จนวันนี้ หลังจากกลับมาบ้านได้เกือบ 2 ปี ในที่สุดก็ได้บทเรียน พนักงานคนหนึ่งหายไปเป็นอาทิตย์ โทรไม่ติด จนถามทางแอดมินเค้าบอกวันสุดท้ายที่มาทำงาน ส่งเงินขาด เจ้าตัวบอกเดี๋ยวมาดูให้แต่ขอกลับก่อนเพราะภรรยาป่วยหนัก และก็ไม่มาตั้งแต่วันนั้น แต่กว่าผมจะรู้เรื่องนี้ก็ปาไปวันเสาร์ เอะใจเลยขอให้ช่วยรื้อดู แม่ม!! ไม่ใช่ครั้งแรก ไม่ใช่แม้แต่กระทั่งเดือนแรกด้วยซ้ำ ล่อมา 3 4 เดือน

     

        เหวอ งง โกรธ อยากจะด่าแต่ก็ไม่รู้จะด่าใคร เพราะช่วงหลังไปสั่งแอดมินให้โฟกัสรถใหญ่ พวกหน่วยขายย่อยๆเงินไม่ค่อยมากเท่า ดูนิดๆหน่อยๆพอ ยอมรับจริงๆว่าที่ควรด่าสุดคือตัวเอง ที่ไม่เคยสนใจตรวจจริงจัง ดูแต่กระดาษ ตัวเลข แต่ไม่ได้สนใจของจริงๆที่จับต้องได้ เงิน สต๊อก  และไม่คิดด้วยว่าเขาจะโกง (ต้องบอกก่อนว่าในธุรกิจขายส่งแบบนี้โดยเฉพาะบุหรี่ หายแค่แถวเดียวจะคืนทุน ต้องขายคืนให้ได้กว่า 300 ชิ้น)   

     

        โกรธ! บอกใครรู้จักบ้านคนนี้ ให้ไปเลย ไปดูที่บ้านมัน ตอนแรกให้ไปสี่ห้าคน กะว่าถ้าไปเจอให้เอามาจะตีหรือไงก็ได้เอามาก็พอ แต่แม่มาเจอเลยเหลือไปแค่สองแล้วใหอีกสองคนไปแจ้งความ ถึงบ้านลูกน้องโทรรายงานเห็นมีแต่ภรรยาและลูกเจ้าตัวไปถามลูกบอกพ่อออกไปแต่เช้า เลยให้คุมอยู่หน้าบ้านรอจนกว่าเจ้าตัวกลับ กะจะศาลเตี้ยเต็มที่ด้วยความโกรธ แต่พอซักพักสงบมาหน่อย ประกอบกับฝั่งภรรยาเจ้าตัวเคยเซ็นต์ค้ำไว้เลยจะยอมเอาฉโนดมาวาง จึงให้ลูกน้องที่ไปพามาก่อนเพราะรอไปก็ไม่มีทีท่าว่าตัวสามีจะกลับมา (พนักงานที่ส่งไป "เฮีย ลูกเค้า ให้พามาด้วยเลยมั้ย" แม่มจะพาข้อหาลักพาตัวพ่วงท้ายมาให้ตรูด้วยแล้วมะล่ะ)  ก็เคลียร์กันไปเบื้องต้น....

         (ใครที่เคยอ่านหนังสือว่าการโกงมักจะไปที่ส่วนอื่นไม่ใช่เงินโดยตรง บอกเลยครับหนังสือไม่ได้ใช้ได้กับทุกครั้ง ที่เจอนี่เงินตรงๆเลย ไม่ใช่รายการ หรือตัวสินค้า เงินเลยครับเงิน อุส่าต์หาวิธีคุมตรงส่วนที่โกงยากๆ แม่ม ตายน้ำตื้น......)

     

        เป็นอีกวันที่ได้เรียนรู้อะไรหลายๆอย่าง เข้าใจแม่เลยครับคือแม่เคยเจอมา(จนป่านนี้คดียังตามได้ไม่ครบเลย) แต่พอเวลาแม่บอกเราก็ไม่สนใจกลับไปมองว่า เป็นการมองโลกในแง่ร้าย ไม่เชื่อใจที่เราทำ แต่เปล่าเลยโลกสวยไม่เกี่ยวกับการไม่ตรวจสอบ คนมีทั้งดีเลวในตัว จังหวะไหนเค้าไปเจอไรมาคนดีคนเลวก็อาจเปลี่ยนกันไปมาได้ ส่วนตัวเริ่มคิดว่าการตรวจสอบเป็นสิ่งจำเป็นและต้องใส่ใจในการดำเนินธุรกิจ พอๆกับการขาย เพราะคงไม่มีประโยชน์ ถ้าจะพยายามเติมน้ำลงตุ่มที่ก้นรั่ว  การถูกโกงครั้งหนึ่ง แค่ครั้งเดียว อาจต้องชดเชยด้วยการทำงาน การขายกว่า สาม สี่ เดือน หรืออาจเป็นปีๆ (จนมีคำพูดว่า ไม่ทำซะยังไม่จน)   และถ้าระบบไม่แน่นโดยเฉพาะเรื่องการตรวจสอบแล้ว เราคงไม่จำเป็นต้องขยายอะไรเพิ่ม   

     

       อีกอย่าง คงไม่มีใครมารับผิดชอบของของเรา ใส่ใจจริงๆ เท่าตัวเราเองหรอกครับ  หรือถามว่าถ้าหลุดจริงเราจะกล้าไปหักกับเขามั้ย ยิ่งในธุรกิจ SME อย่างนี้ด้วยแล้ว และเป็นไปได้ถึงเขาจะทำเต็มที่แต่ข้อผิดพลาดก็เกิดได้ เจอน้อยๆอ่ะได้แต่เยอะๆจริงๆ อย่างผมเองก็ไม่กล้าครับ  

        ตอนนี้อย่างลุ้นเลยครับวันจันทร์ จะมากันครบทุกคนมั้ยเนี่ย นั่งลื้อสต็อก เงินทีละหน่วย เป็นวันวุ่นๆ ของก็ขาด มาลื้อจับขโมยอีก  แต่ก็ได้เรียนรู้อะไรขึ้นมาก แหม่ มองโลกในแง่ดี แต่อย่าลืมโลกความเป็นจริงด้วย 



         บางครั้ง ลองมาดูตัวเองดีๆ ก็ไม่แน่ใจว่า เอะมันเรื่องความไว้เนื้อเชื่อจริงๆ หรืออาจเป็นกับเราขี้เกียจและไม่ใส่ใจจริงๆรึป่าว นี่แหละเมิมมัวแต่เล่นหุ้น แล้วเจือกแดงด้วยนะ T^T โลกนี้มันช่างงงง..... 

    เชื่อเถอะครับ ยิ่งถ้าเคยไปถึงศาล ตรวจสอบ มันดีกว่า ตามจับถึงศาลถึงตำรวจเยอะ เยอะมากกกก 

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in