เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
ประสบการณ์ที่ผ่านเจอNarut Sirithip
ความทรงจำ ครั้งบวชนาค
  •  ผมเคยได้มีโอกาสบวชทดแทนคุณพ่อแม่ เมื่อตอนอยู่ปี 2 อายุได้ 20 ปี  ส่วนสำคัญที่บวชครั้งนั้นส่วนหนึ่งเพราะคิดว่าถ้าจะบวชให้พ่อแม่ก็ขอให้ท่านได้เห็นเรา เราได้เห็นท่านตัวเป็นๆกันคงจะดีกว่า อีกเหตุผลคือได้ไปลงเรียนวิชาเลือกพุทธศาสนา ประกอบกับช่วงนั้นอ่านหนังสือแนวจิตวิทยาธรรมะ ก็เลยทำให้ตัดสินใจขอคุณพ่อคุณแม่บวชในช่วงปิดเทอม

     

        คุณแม่ก็สนองอย่างเร็วเลยครับ รีบไปหาฤกษ์บวช พร้อมฤกษ์สึกให้เลย(ฤกษ์สึกสำคัญกว่าฤกษ์บวชอีกครับ ) ที่หาฤกษ์สึกไว้ให้พร้อมก็เพราะช่วงนั้นแบบค่อนข้างอิน แม่เลยกลัวจะไม่สึก แต่จริงๆต้องบอกเลยครับ คนบวชไม่สึกนี่คงต้องใจแข็งจริงๆ ผมนี่ไม่มีทางเลย 

        เพื่อนเองหรือคนที่รู้จักผมก็ไม่ได้บอกใคร  แต่พ่อแม่สิครับเชิญคนซะเยอะเลย มีจัดบ้านเตรียมงานเลี้ยง(ถึงบ้านผมขายเหล้าเบียร์แต่งานนี้ไม่มีครับ) ตอนนั้นผมไม่เข้าใจเลยว่าทำไมจะต้องไปเชิญคนหรือจัดงานทำไม การบวชน่าจะเป็นเรื่องของเราคนอื่นไม่เห็นเกี่ยวไรกับผมเลย   ถึงตอนนี้ผมพอเข้าใจบ้างละครับว่าแขกที่มาก็ไม่ได้เกี่ยวกับเราจริงๆ เขาไม่ได้มาให้ผมแต่เขามาให้พ่อแม่ผม ส่วนตัวเราจะบวช มีหน้าที่บวชก็บวชไป

     

       ก็เป็นไปตามพิธีครับมีการปลงผม บวชนาคก่อน 1 วัน แล้วค่อยบวชในวันถัดไป  ช่วงปลงผม ผมก็นั่งนิ่งๆถือดอกบัวพยายามให้สงบถึงในไม่สงบนอกสงบก็ยังดี แล้วก็จะมีพ่อแม่พี่น้องญาติๆเข้าคิวมาปลงผมให้ ทีละคนๆ ผมไม่คิดหรอกครับว่ามันจะทำให้ซึ้งหรือตื้นตันอะไร ใครจะปลงก็ปลงไป

       จนถึงคุณพ่อ พ่อไม่ได้พูดอะไร พ่อแค่เอามือกดที่บ่าแล้วเริ่มปลงผม น้ำตาไม่ออกหรอกครับแต่ความรู้สึกมันบอกไม่ถูกเลย มันไม่ใช่แบบอารมณ์ความสุขแบบเพลิดเพลินที่เวลาจะผ่านไปเร็ว แต่มันรู้สึกตื้นตัน รู้สึกดี รู้สึกอย่างที่ไม่เคยรู้สึก ผมแทบจะจดจำได้ตั้งแต่มือที่เริ่มกดจนปล่อยออก  วินาทีนั้นผมรู้สึกตัว และคิดว่าเราคิดถูกแล้วที่ได้บวชแทนคุณท่าน ผมโชคดี

     

        ปลงผมเสร็จก็เข้าสู่พิธีบวชนาค มีจ้างคนมาร้องแหล่ด้วย ก็ฟังไม่ค่อยรู้เรื่องหรอกครับ แต่สร้างบรรยากาศได้ดีเลย  พีธีดำเนินต่อ อาม่าที่ปกติดูจะไม่ได้สนใจอะไรมากสไตล์คนสู้ชีวิตมาก็ร้องไห้เมื่อเขาให้ผมกราบไปที่ตักท่าน มันทำให้รู้ว่าเราไม่ได้บวชให้แค่พ่อแม่แล้ว รุ่นพ่อผมไม่มีใครได้บวช (ผมเลยเหมือนเป็นเชื้อสายอาม่าคนแรกที่ได้บวชให้)  

     

         แม่ครับน้ำตาซึมตลอดพิธีเลย ผมก็ไม่รู้หรอกครับว่าการบวชแทนคุณมันจะส่งผลอะไรขนาดไหน แต่ผมมั่นใจว่าในวันนั้น แค่วันก่อนที่ผมจะบวช มันก็ได้ทำให้คนที่ผมรักรู้สึกดีไม่น้อยแล้ว ผมเคยอ่านเจอเขาว่ากันว่าแค่เรารู้สึกปิติยินดีก็เกิดเป็นบุญแล้ว ผมว่าผมเริ่มเข้าใจบ้าง ที่เขาว่าเกาะชายผ้าเหลืองขึ้นมาบ้าง บุญจากที่เราบวชก็ไม่รู้หรอกครับว่าจะถึงท่านขนาดไหน แต่แค่คุณพ่อคุณแม่อาม่าพี่น้องรู้สึกปิติสุขยินดี บุญก็เกิดกับเขาเหล่านั้นแล้ว 

         ถ้ามีโอกาสใครที่ยังไม่เคยได้บวชแทนคุณพ่อแม่ ก็อาจจะบวชให้ท่านดูนะครับ ถามว่าจำเป็นมั้ยมันก็ไม่ได้เป็นกฏเกณฑ์อะไร ท่านเองก็อาจไม่ได้ต้องการ ขอแค่เราเป็นคนดีก็พอ แต่ถ้าพอจะทำให้ได้ผมว่าพ่อแม่หลายคนก็คงหวังๆกันบ้างละครับว่า ครั้งหนึ่งในชีวิตได้มีลูกชายเคยบวชทดแทนคุณให้กับท่าน 

    นี่เป็นภาพที่น้องชายถ่ายเพิ่งมาเห็นหลังจากตอนสึก  และก็เป็นภาพที่ผมชอบที่สุดในงานครั้งนี้เลยครับ พอโตกันขึ้นมาเราก็ไม่ได้มีโอกาสกลับไปหนุนตักแม่กันบ่อยๆหรอกครับ

      

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in