เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
Let’s have Minimore fun!minimore
สาวนักอ่านผจญวีร(เวร)กรรมจากบรรณารักษ์ จนสามีสุดที่รักทำห้องสมุดให้!

  • มินิมอร์เจอเรื่องนี้จากเพจ แหล่งกบดาน ที่แนะนำ Podcast น่ารักให้ฟัง เป็นบทสัมภาษณ์เรื่องราวของคุณ Lia นักอ่านสาวผู้เป็นเจ้าของเว็บบล็อกรีวิวหนังสือ เกี่ยวกับประสบการณ์ที่เจอบรรณารักษ์สุดแย่ เรื่องสุดยอดสามีดีที่หนึ่ง สุดยอดสามีดีที่สองและที่สาม.... เดี๋ยวๆ อย่าเพิ่งคิดเยอะ เธอมีสามีคนเดียว แต่สามีของ Lia นั้นทำเรื่องน่ารักมากกก น่ารักอย่างไร ไปดูกันเลย


    เมื่อสัปดาห์ก่อนมินิมอร์เพิ่งเห็นตัวอย่างแรกของภาพยนตร์ที่สร้างจากการ์ตูนชื่อดังของ Disney เป็นอะไรไปไม่ได้นอกไปจาก Beauty and The Beast! นำแสดงโดยสาว เอ็มม่า วัตสัน หลายๆ คนกรี๊ดกร๊าดเรื่องนี้มาตั้งแต่ครั้งเป็นอนิเมชั่นแล้ว มินิมอร์ก็กรี๊ดนะ! บีสต์ดูปุกปุย! (เดี๋ยวๆ...) แต่จุดที่บรรดาสาวๆ หนอนหนังสือเหมือนเบลล์ชอบ ไม่ใช่ว่าการได้ join royal family หรอกนะ แต่เป็นอะไร...ลองเดาก่อน เดี๋ยวเล่าจบจะมาเฉลย *กระแอมเป็นเสียงมิสซิสพอต*



    (พอเบลล์พูด เห่ลโล้ว มินิมอร์ก็ตอบในใจว่า อิทส์มี... ไอ วอส วั้นเด้อริ่ง...)


    กาลครั้งหนึ่งไม่นานมานี้ มีเจ้าหญิงนามลีอา นางไม่ได้เป็นเจ้าหญิงแต่กำเนิด แต่ตอนกำเนิดนางเป็นผู้หญิง (หือ?) เจ้าหญิงได้พบรักกับเจ้าชายและย้ายตามเขามา ทว่า..เจ้าชายเป็นทหาร ก็เลยต้องไปทำงานนอกบ้านทีละนานๆ

    แต่แล้วไง ใครแคร์?
    *เปิดเพลงรันเดอะเวิร์ล(เกิร์ล)ของขุ่นแม่บีแล้วเต้น*


    เจ้าหญิงลีอารักสามี แม้เขาจะต้องจากนางไปไกล แต่นางก็หาได้อัพสเตตัส - feeling lonely ใน facebook ไม่ เพราะนางรักหนังสือ! นางอยู่กับหนังสือได้! เมื่อคิดได้เช่นนั้นนางจึงไปยังหอหนังสือหลวงในเขตพระราชฐาน และไปยืมหนังสือแนว Young Adult มาอ่าน (เรียกสั้นๆ ว่า YA เป็นหนังสือที่เหมาะกับกลุ่มวัยรุ่น กำลังจะก้าวไปเป็นผู้ใหญ่)

    แต่เจ้าหญิงลีอาไม่รู้ว่าห้องสมุดนั้นถูกครอบครองโดยแม่มดร้ายที่มีสัญญาจ้างกับพระราชวังมาตั้งแต่ปี 198x ! เมื่อนางยืมหนังสือ YA ออกมา พอขึ้นรถกลับพบว่ามันกลายเป็นหนังสือแนวอื่น แม่มดแห่งห้องสมุดได้ให้เหตุผลกับนางว่า “ไม่ต้องอ่านหรอกให้เด็กอ่านดีกว่ามั้ย”

    เฮ้ย ใจเย็น! โตแล้วอ่าน YA ไม่ได้เหรอ กฎข้อไหนบัญญัติ!


    มันไม่ได้เกิดขึ้นหนเดียว...แม่มดห้องสมุดทำร้ายความรู้สึกลีอาหลายครั้ง จนเจ้าหญิงทนไม่ได้ต้องเล่าให้เจ้าชายฟัง แล้วเขาก็เสก บรู้ม!!! แม่มดกลายเป็นโกโก้ครันช์ 
     (จบ)
    .
    .
    .
    .

    ข้างบนนั้นผิดหมด! (มีคนอ่านจนถึงตรงนี้ไหมนะ)
     มามา มินิมอร์จะสรุปให้ฟังดีๆ แต่แหม ก็อยากลองเล่าเป็นนิทานบ้าง เพราะเรื่องมัน fairy tale มาก

    คุณลีอาเธอเป็นเจ้าของบล็อกรีวิวหนังสือ ชื่อว่า Lia’s Bookish Obsession ผู้สัมภาษณ์ได้เจอเธอในงานสัมมนางานหนึ่ง แล้วก็ได้ยินเรื่องราวของสุดยอดสามีที่น่ารักและบรรณารักษ์ที่เป็นฝันร้าย จนคุณซาราห์ต้องขอสัมภาษณ์เอามาลงเป็น Podcast ให้ได้ฟังกัน (มีให้อ่านด้วยนะ)

    ลีอาเป็นหนอนหนังสือ รักกก หนังสือมาก แต่ด้วยเหตุที่ต้องตามสามีซึ่งเป็นทหารไปประจำการที่ นอร์ธ ดาโกต้า ทำให้ห้องสมุดที่ใกล้ที่สุดคือในค่ายทหารนั่นเอง แต่ก็ดันเป็นห้องสมุดเล็กกระจิดริด มีแต่หนังสือแนวทหารๆ เต็มไปหมด กระนั้นก็ยังมีนิยายแนว YA ให้เธออ่านได้ ลีอาเลยปรี่เข้าไปยืม แต่พอกลับขึ้นรถมา เธอก็ตรวจของตามปกติ แล้วก็พบว่า...

    หนังสือที่เลือกไว้โดนสลับหมดเลย ! ไอ้เล่มที่จะเอาไม่อยู่เลย

    บรรณารักษ์ของห้องสมุดค่ายได้ให้คำตอบกับเธอว่า
    “นี่มัน young adult นะ เอาไว้ให้เด็กอ่านดีกว่าไหม”

    เมื่อหนังสือของ Rick Riordan นักเขียนคนโปรดออกเล่มใหม่ เธอปรี่ไปห้องสมุดขอจองยืมเป็นคนแรก 
    บรรณารักษ์ก็บอกว่า...


    นี่มันตรรกะอะไรของขุ่นพี่ฮะะะะ ทำไมโตแล้วยืมหนังสือไม่ได้เหรอ สูงเกิน 110 cm เข้าห้องสมุดไม่ได้งี้ โอย *ยัดยาดมเข้าจมูก* 

    แล้วยังไม่หมดด้วยนะ บรรณารักษ์ถึงกับโทรศัพท์ไปหาสามีของลีอา บอกว่าภรรยาคุณยืมหนังสือแนวโรแมนซ์ (อาจจะ Erotic หรืออะไรแนวๆ นี้ ) แต่!! ลีอาอายุ 26 ปี แล้ว! ต้องแก่แค่ไหนถึงจะอ่านอีโรติกได้ สามีก็มีเป็นตัวเป็นตนแล้ว ต้องรอให้อายุ 101 ปี ก่อนหรือไร

    แม้สามีจะไปทำงานสี่วัน กลับมาบ้านทีแค่สองวัน แต่เขาก็เป็นผู้รับฟังที่ดี คอยฟังเรื่องราวต่างๆ จากภรรยาโดยไม่ซ้ำเติม จนวันหนึ่งเขาได้ออกปากกับเธอว่า

    “ขอห้องสำรองได้มั้ย จะเอาไปใช้”

    ลีอาก็ให้ และไม่ได้ยุ่งอะไร ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตรงไหนคือห้องสำรอง... คือในบ้านมีห้องนอนสองห้อง กะไว้เป็นห้องเด็กห้องหนึ่ง ห้องตัวเองอีกห้อง แล้วห้องสำรอง...มีเรอะ เอ้า สามีหาเจอก็ใช้ไป

    หลังจากนั้นก็มีกล่องพัสดุมากมายมาส่ง เขาบอกภรรยาว่าไม่ต้องยุ่งกับมันหรอก เดี๋ยวเขาจัดการเอง แล้วก็ยกหายไปในห้องทำงานสำรองนั่น ลีอาก็ไม่ยุ่งกับกิจกรรมของเขาในห้องนั้น เพราะคนเรามันก็ต้องมีโซนของความเป็นส่วนตัวบ้าง แน่นอนว่าเธอก็เล่าความอัดอั้นให้สามีฟังอยู่เรื่อยๆ 

    ลีอาเล่าให้ซาราห์ฟังอีกว่าอยากได้อะไรก็ทำ Wishlist ในเว็บ amazon.com เอาไว้ เผื่อวันหนึ่งงง (ซึ่งไม่รู้ว่าวันไหน) จะได้ซื้อ (ก็คงเป็นคอมพิวเตอร์ครอบครัวอะเนาะ ใช้ร่วมกัน)

    เวลาผ่านไปจนเดือนตุลา เดือนที่ทั้งสองคนได้เจอกันครั้งแรก วันหนึ่งที่สามีเธอกลับจากประจำการ เขาก็พาเธอไปที่ห้องนั้น เมื่อเปิดประตูออกลีอาก็ต้องตกตะลึง! 


    (คือ ก็ไม่ใช่ว่าเธอได้ห้องนี้หรอก แต่ฟีลลิ่งมันใช่ไง จินตนาการเข้า)


    ชั้นหนังสือสูงห้าฟุตวางเรียงอยู่ในทุกมุมห้อง!
    หนังสือทั้งหมดที่เธออยากได้อยู่บนเชลฟ์!
    ทั้งหมดนั่นสามีทำให้เธอ!

    “ทีนี้คุณก็มีห้องสมุดของตัวเองแล้วนะ”


    น่าอิจฉาไป๊!

    ลีอากล่าวต่อว่า “โอ้โห...รู้สึกเหมือนเป็นเบลล์เลยค่ะ" 

    เธอบอกราวว่าตอนที่อสูรยกห้องสมุดยักษ์นั่นให้ ตอนนั้นก็คิดนะว่าถ้าได้แบบนั้น จะกุ๊กกิ๊กกับอสูรก็ไม่เลวหรอก...ฮือ ลีอ๊าาา มินิมอร์ขำแรง จะตลกไปไหนนน 

    นี่ไง! ที่มินิมอร์จะเฉลยให้ฟังว่า แท้จริงแล้วสาวๆ หนอนหนังสือไม่ได้ชอบฉากเต้นรำหรือพระราชวังหรูหราเลยแม้แต่นิด สาวๆ เขาชอบห้องสมุดดดด เข้าใจมั้ย *มอบมงฯสามีที่หนึ่งให้เดอะบีสต์และสามีคุณลีอา*

    (หล่อ ใจดี สปอร์ต ปุกปุย วังต้องคำสาป - บีสต์)



  • แล้วมีอีกเรื่องหนึ่ง! (โอ้โห้ นี่มันรายการอวดสามีชัดๆ) ลีอาเล่าว่าสามีเธอรู้เรื่องที่ลีอาชอบหนังสือเล่มหนึ่ง ตัวละครเอกมีเว็บไซต์รีวิวหนังสือของตัวเอง สามีก็เออๆ ออๆ ฟังตามปกติ แล้ววันหนึ่งเขาก็กลับมาบ้าน หายออกไปข้างนอก และกลับมาพร้อมคอมพิวเตอร์ตระกูล Mac (ไม่ได้ระบุว่าเครื่องไหน...แมคบุ๊คแอร์ แมคบุ๊คโปร หรือไอแมค) เขาทำบุ๊คมาร์คทุกเว็บไซต์ที่เธอใช้ประจำไว้ให้ และบอกว่า

    “ผมทำเว็บเพจไว้ให้คุณ Lia’s Bookish Obsession ทีนี้คุณอ่านหนังสือในห้องสมุดของคุณแล้วจะรีวิวก็ทำได้แล้วนะ”

    ขอดีเอนเอพี่คนนี้มาก็อปปี้ได้มั้ย ? คิดว่าสาวๆ นักอ่านหลายคนอยากได้ผู้ชายแบบนี้มาเป็นแฟนเหลือเกิน


  • ยังมีเรื่องน่ารักอีกเยอะมากใน Podcast นี้ ทุกคนลองไปฟังเองได้นะ มันอบอุ่นใจสุดๆ ไปเลยล่ะ แม้มันจะเริ่มต้นด้วยความน่าเบื่อหน่ายที่ลีอามีกับบรรณารักษ์ แต่ท้ายสุดกลายเป็นเรื่องน่ารักอุ่นใจไปซะได้เนอะ เพราะมีคู่ชีวิตที่เข้าอกเข้าใจกันแท้ๆ คือไม่ต้องมีงานอดิเรกเหมือนกันก็ได้ แค่รับฟัง เข้าใจกัน เปิดโอกาสให้ต่างฝ่ายต่างมีพื้นที่ความชอบของตัวเอง นี่อาจจะเป็นการดำเนินชีวิตคู่ที่ยั่งยืน ว่าไหม?
    ไม่ใช่ว่าบรรณารักษ์ทุกคนจะร้ายกาจอย่างนี้หรอกนะ การที่เขาห่วงใยว่าคนอ่านจะเลือกอ่านหนังสือที่ไม่ดีไม่เหมาะสมน่ะเป็นเรื่องถูกแล้ว (แต่พี่ก็ควรเช็คอายุคนยืมบ้าง..คือเขาก็ให้ ID card ไปนะ) แต่มินิมอร์เชื่อว่าหลายๆ คนก็คงได้แรงบันดาลใจในการเขียนมาจากการอ่านห้องสมุดแถวชุมชนหรือในโรงเรียนแน่ๆ มินิมอร์ก็เหมือนกัน เพราะมินิมอร์มีอาจารย์บรรณารักษ์ที่น่ารักมาก คอยดูแลถามไถ่ลูกศิษย์และแนะนำหนังสือเสมอ จนตอนนี้ยังติดต่อกันอยู่เลยล่ะ!

    เรื่องนี้แม้จะน่ารักแค่ไหนแต่ก็คงไม่เกิดในประเทศไทยหรอก..... หือ? ไม่ได้หมายถึงเรื่องสามีเซอร์ไพร้ส์ พูดถึงเรื่องบรรณารักษ์ห้องสมุดชุมชนจอมจู้จี้ต่างหาก...เพราะในประเทศไทยน่ะ เกินครึ่ง...ไม่มีห้องสมุดชุมชน *มินิมอร์จบบทความวันนี้ด้วยการยกผ้าเช็ดหน้ามาซับหัวตาเพราะซึ้งและเศร้าในความจริง* แต่ยังไงกรุงเทพฯก็เคยเป็นเมืองหนังสือโลกนะ! ได้ชื่องั้นเลยนะ! เฉพาะชื่ออะนะ...บั๊ยส์ *ยกมือค้างไว้แล้วดอลลี่ตัวเองออกไปเงียบๆ*

    ขอบคุณข้อมูลจาก smartbitchestrashybooks.com
    แนะนำให้เข้าไปฟังเต็มๆ สนุกมาก ชั่วโมงกว่า มินิมอร์ถอดมาให้อ่านไม่ไหว 
Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in