หลายๆ คนคงได้อ่านข่าวคราวหรือบทความ ที่กล่าวว่า "เราควรกำจัดบรรดาหนังสือที่ซื้อและดองเอาไว้ก่อนนะ ถึงจะมาซื้อหนังสือใหม่ในงานมหกรรมหนังสือครั้งที่ 16" ซึ่งจะเริ่มในวันพรุ่งนี้.... มินิมอร์ไม่ห้ามซื้อหรอกนะ อยากซื้ออะไรก็ซื้อเล้ย ถ้ามีเงินก็ซื้ออออ *โปรยเงิน*
เพราะหนังสือไม่ใช่แค่เอาไว้อ่าน แต่มันเป็นของสะสมด้วยนะเอ้อ บางเล่มอาจจะพิมพ์มาไม่เยอะ ต้องรีบซื้อเอาไว้ก่อน ถึงเราไม่ได้หยิบอ่านในวันนี้ แต่เมื่อวันหนึ่ง วันที่เหมาะสม เรานึกอยากอ่านขึ้นมา มันอาจจะให้คุณค่าแก่เราได้มากกว่าในวันแรกที่ซื้อก็ได้ ฉะนั้นมินิมอร์เลยไม่ห้ามซื้อ ซื้อเลย อย่าซื้อจนเป็นหนี้เป็นสินก็พอ
แต่มินิมอร์จะมาชวนกันจัดระเบียบหนังสือให้สวยงามแหละ ไหนๆ ก็สะสมแล้วใช่มะ สะสมแมลงยังต้องจัด Categories ตามไฟลั่ม สปีชีส์อะไรอย่างสวย หนังสือเองถ้านับเป็นของสะสมก็ควรจัด อย่ากองระเกะระกะเลยเนอะ
วิธีจัดที่มินิมอร์อ่านมานั้นมีหลายแบบด้วยกัน แต่จะจำแนกออกเป็นหัวข้อใหญ่ๆ ได้ดังนี้!
- หมวดหมู่การใช้งาน
- ความสวยงาม
- ฟรีสไตล์
ไปดูกันเลยว่ามีอะไรบ้าง
1. จัดตามหมวดหมู่
(ขอบคุณภาพจาก มติชน )
หมวดหมู่ที่ว่าไม่ใช่ตามมุกข้างบน แต่หมายถึงตามลำดับต่างๆ อย่างในห้องสมุดก็จะมีระบบดิวอี้ใช่มั้ย นี่ก็มีเหมือนกันจ้ะ แต่อาจจะจัดเรียงตามหัวข้อดังต่อไปนี้แหละ
ลำดับตัวอักษรชื่อเรื่อง
สำหรับคนที่แม่นชื่อหนังสือ การจัดตามลำดับตัวอักษรนี่ก็เยี่ยมเลย เพราะเพียงจำชื่อเรื่องได้ เราก็จะหาได้ว่าเล่มไหนคือเล่มที่เราต้องการ แล้วถ้าขยันอีกนิด เราสามารถทำ index ด้วยพยัญชนะได้เลยนะ แบบหากระดาษมาคั่นชั้นหนังสือเอาไว้ ว่าตรงนี้เรียงถึงตัว C ละจ้า เราจะได้ไม่ต้องคลำหา เพราะบางทีการมองสันหนังสือที่มีตัวอักษรมากมายเรียงกันก็ทำให้ลายตาได้
คำแนะนำ จำชื่อเรื่องไม่ได้คือจบ บัยส์
ชื่อผู้แต่ง
สำหรับคนที่ตามงานของนักเขียนเป็นประจำ การใช้วิธีนี้อาจจะง่ายหน่อย เพราะว่าแค่จำได้ว่าเป็นผลงานของนักเขียนท่านไหน แม้จะจำชื่อเรื่องไม่ได้ ก็สามารถหาหนังสือที่ต้องการได้แล้ว ด้วยการลองหยิบดูทีละเล่ม และอ่านเรื่องย่อที่ปกหลัง เมื่อความทรงจำเราชัดเจนขึ้นมา ก็สามารถเลือกหนังสือที่ถูกใจไปอ่านได้เลย!
คำแนะนำ ถ้าอยากหาว่ารพินทร์ติดอยู่ในดงสางเขียว...คือเพชรพระอุมาเล่มไหน กูเกิลหาเร็วกว่าคลำ...เชื่อเรา จำนวนเล่มเยอะมาก
แนวเรื่อง
นี่ อันนี้ดี! เพราะหนังสือบางเล่มชื่อเรื่องอาจจะไม่ได้ส่อไปทางเดียวกับประเภทของมันเลย หรือเราชอบอ่านหนังสือแนวหนึ่ง ซึ่งไม่ได้เป็นแฟนเดนตายของใครสักคน แค่อยากอ่านหาข้อมูลใหม่ไปเรื่อยๆ การให้มันอยู่รวมๆ กันไว้แหละดี ซึ่งเราอาจจะแยกแบบง่ายๆ ก่อนชั้นหนึ่ง ว่าพวกนี้เป็น fiction / non-fiction จากนั้นค่อยแยกไปอีกที ว่าเป็นประเภทท่องเที่ยว พัฒนาตนเอง นิติวิทยาศาสตร์ ฯลฯ ประโยชน์ของการแยกตามแนวเรื่องคือ ถ้าเราต้องการจะหยิบหนังสือเล่มนี้ที่เป็นแนวอาชญวิทยาอ่าน เราอาจจะได้เล่มอื่นๆ เช่นนิติเวชวิทยาไปอ่านประกอบอ้างอิงด้วย เพราะว่าอยู่หมวดเดียวกันและใกล้เคียงกันไง
คำแนะนำ จัดไปเถอะ แบ่งแนวแบบไหนก็ได้ เราคงไม่วางพลาดเหมือนร้านหนังสือที่เอานิยายอีโรติคไปวางที่วรรณกรรมเยาวชนหรอกใช่ไหม?
2. จัดตามความสวยงามยามมอง
นี่จัดหนังสือหรือเข้าแถวเคารพธงชาติน่ะซิส! แต่ว่ามันทำได้จริงๆ นะ เคยทำไหม แบบมีหนังสือที่หยิบติดมือมาอ่านบนโต๊ะทำงาน พอเสียบสันเก็บเอาไว้ เลยเรียงตามความสูงเพื่อความสวยงาม และสะดวกต่อการหยิบด้วยล่ะ แต่ไม่จำเป็นต้องเรียงจากสูงไปต่ำนะ จะให้ตรงกลางสูงเหมือนเป็นภูเขาก็ตามสบายเลย แล้วแต่ความพอใจ
คำแนะนำ ควรไล่ระดับ ถ้าเดี๋ยวเสียบเล่มใหญ่เล่มเล็ก อันนั้นไม่น่าจะเรียกจัดแล้วนะเสียบทิ้งรึเปล่า อาจจะหยิบยาก มีโอกาสทำหนังสือยับ หล่น ได้ง่ายจ้ะ
เรียงตามสี
มัน-สวย-มาก มินิมอร์อยากทำแบบนี้สุดๆ ไปเลย การเรียงตามสีนี้มีหลายแบบ ตั้งแต่การเรียงตามสเปคตรัม ไล่ไปสิ สีรุ้ง ม่วง คราม น้ำเงิน เขียว เหลือง แสด แดง เป็นอะไรที่ถ้ามีแขกมาห้องแล้วเห็นการเรียงหนังสือแบบนี้ ต้องได้ฟีล ท้าดาาาาา สุดๆ มันคือความงามที่คนมาเยือนต้องสัมผัสได้แต่แรกเห็น หรือว่าถ้าเรามีชั้นหนังสือที่แบ่งเป็นบล็อคๆ เราก็สามารถเอาหนังสือสีเดียวกันใส่ไว้ช่องเดียวกันได้ ก็จะกลายเป็นการจัดหนังสือแบบคัลเลอร์บล็อค! สวยสด งดงาม หรือถ้าใครต้องการสมดุลแห่งพลัง ก็จัดหนังสือฟากหนึ่งเป็นโทนสว่าง อีกฟากเป็นโทนมืดก็ได้นะ แล้วเอาอนาคิน สกายวอล์คเกอร์ผู้สร้างสมดุลไว้ตรงกลาง
คำแนะนำ คนที่มีอาการ OCD (ย้ำคิดย้ำทำ ชอบเห็นอะไรเป็นระเบียบเรียงเป๊ะๆ) อาจจะใช้เวลาจัดมากกว่าคนอื่นนิดหน่อย เฉดมันอ่อนแก่ไม่เท่ากันก็จะหงุดหงิดใจ บางทีมองภาพรวมบ้างนะ อย่าละเอียดขนาดสันปกที่โดนแดดเลียไรงี้
3.จัดแบบฟรีสไตล์แต่เก๋ไก๋สุด
การจัดแบบฟรีสไตล์ ไม่ใช่การวางยังไงก็ได้ ช่างมัน อันนั้นเขาไม่ได้เรียกว่าจัดหนังสือไหม ทุกคนต้องใจเย็นๆ การวางหนังสือทิ้งแล้วจะมาอ้างว่า
"นี่ไงมินิมอร์บอกว่าจัดแบบฟรีสไตล์" ไม่ด้ายยยย ขนาดว่ายน้ำฟรีสไตล์ยังมีสโตรคบังคับเลย ว่าต้องวาดแขนยังไง แหงนหน้าหายใจแบบไหน
ฟรีสไตล์ยังไงมันต้องมีสไตล์! มินิมอร์เชื่อว่าเพื่อนๆ Minimore Makers คงมีไอเดียการจัดหนังสือที่แตกต่างและสร้างสรรคืแน่ๆ มาปลดปล่อยไอเดียแล้วจัดหนังสือกันเถอะ! มินิมอร์ลองจะยกตัวอย่างสไตล์การจัดหนังสือที่เขาแนะนำว่า เหยยยย เจ๋ง
เรียงตาม Timeline
ในที่นี้คือ Timeline ของประวัติศาสตร์นะ ไม่ใช่เรียงตามเวลาที่ซื้อ บางคนชอบอ่านเรื่องราวเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ แน่นอนว่าประวัติศาสตร์นั้นคือการร้อยเรียงเรื่องราวที่ผ่านช่วงเวลาต่างๆ มา ฉะนั้นบางคนเลยจัดชั้นหนังสือไล่ตาม "ยุค" ต่างๆ อาจจะเรียงตามศตวรรษก็ได้นะ เช่น เรื่องอาวุธของอัศวินในศตวรรษที่ 13 เรื่อยมาจนการล่าอาณานิคมสมัยศตวรรษที่ 17 จากนั้นก็มีการปฏิวัติอุตสาหกรรมในศตวรรษที่ 19 จนกระทั่งเรื่องราวสมัยสงครามโลกครั้งที่สอง
การจัดเรียงแบบนี้นอกจากจะหยิบค้นข้อมูลอ่านง่ายแล้ว ยังดูวิชาก๊านวิชาการ เจ๋งไปเลย
คำแนะนำ แม้จะเป็นศตวรรษที่ 21 แต่ก็ยังมีการล่าแม่มด อย่าไปหยิบสลับกับเหตุล่าแม่มดในยุคกลางนะจ๊ะ #เอ๊ะ
ทำเป็นธงชาติสหรัฐอเมริกา
star-spangled มั้ยล่ะ
สวยเนอะ แต่มินิมอร์ก็สงสัยว่าจะหยิบอ่านรู้เรื่องไหมน่ะ แต่ก็เหมาะกับหนังสือที่ปกคล้ายๆ กันหลายเล่ม อย่างพวกสารานุกรม ทำแบบนี้ก็ทำให้ห้องไม่ได้ดูขรึมเกินไป ว่าไหม?
ทั้งนี้ ยังมีการตัดหนังสือแบบอื่นๆ อีก แต่เขาไม่ได้โฟกัสที่หนังสือแหละ เน้นไปที่การใช้เครื่องเรือนหรือว่าอุปกรณ์ตกแต่งมากกว่า ไปดูได้ที่ลิงก์นี้เลยจ้ะ
สรุปแล้ว การจัดหนังสือนอกจากจะทำให้เราสามารถหาเล่มที่เราโปรดปรานได้ง่าย มันยังเป็นการสร้างบรรยากาศห้องได้อีกด้วยนะ ลองจัดหนังสือแบบที่มินิมอร์เอามาแนะนำสิ ห้องเดิมๆ อาจจะให้ความรู้สึกที่ต่างออกไป
แต่สิ่งสำคัญที่สุดของการจัดหนังสือในห้องคือ....ทุกคนอย่าลืมฉีดป้องกันและกำจัดปลวกด้วยนะจ๊ะ
ขอบคุณข้อมูลจาก
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in