4.’Hamilton’ ละครเพลงที่เป็นกระแสโด่งดังไปทั่วโลก กวาดไป 11 รางวัล จากการเข้าชิง 16 รางวัล
งงล่ะสิ...แค่กวาดไปเยอะแล้วมันจะแสดงเรื่องความหลากหลายอย่างไร เอางี้ มินิมอร์จะลิสต์หัวข้อสั้นๆ ให้อ่านเข้าใจง่าย แบบสรุปติวหน้าห้องสอบเลย Hamilton เป็นละครเพลงที่เล่าเรื่องราวของ Alexander Hamilton บิดาแห่งการสร้างชาติของสหรัฐอเมริกา ไอเดียพื้นฐานในการสร้างโชว์เปรี้ยวอยู่หลายประการ ยึดเรื่อง diversity ที่สุด
- เป็นละครที่แหวกขนบแนวนิยมของดนตรีที่ใช้ทำละครเพลง ด้วยการใช้เพลง Rap, Hip-hop, R&B ในการนำเสนอละครทั้งเรื่องแบบ sung-through (คือจะพูดกันก็ร้อง แทบไม่มีบทพูดเฉยๆเลย) แล้วบทร้องก็เป็นแร็พ มีการแร็พแบทเทิลด้วย เอาดิ๊ เหตุผลที่มิแรนด้าเลือกการแร็พมาเป็นเพลงละครเวที เขาให้เหตุผลว่าการแร็พ เพลงฮิปฮอป คือสัญลักษณ์ของการปฏิวัติ (แฮมิลตันเป็นเรื่องหลังการปฏิวัติและสร้างชาติไง)
- Colorblind Casting คือสิ่งที่ Hamilton โดนเรียก แน่นอนว่าอเล็กซานเดอร์แฮมิลตันเป็นเชื้อสายยุโรป ผิวขาว แต่ Lin-Manuel Miranda คนเขียนบทและผู้แสดงเป็นแฮมิลตันเป็นอเมริกันพื้นเพอยู่นิวยอร์กนี่ละ แต่พ่อกับแม่เป็นชาวเปอโตริโกแท้ๆ เลย แล้วนักแสดงคนอื่นๆ ก็แคสต์มาไม่ตรงเชื้อสายตัวละครจริงในประวัติศาสตร์เลยสักนิด มีทั้งคนแอฟริกันอเมริกัน เอเชียนอเมริกัน แล้วก็คนเชื้อสายละติน!
- ในการแสดงช่วงแรกๆ Hamilton โดนโจมตีว่านี่คือ reverse racism รึเปล่า ทางฝั่ง Hamilton ตอบว่า ไม่ใช่ เหตุผลที่เขาแคสต์นักแสดงหลากเชื้อชาติมาเล่น ก็เพราะว่านี่คือละครเวทีไงล่ะ! และอเมริกาคือประเทศที่เกิดขึ้นด้วยหลากเชื้อชาติ เผ่าพันธุ์รวมกัน แล้วจะแปลกอะไรถ้าละครเวทีอย่าง Hamilton จะจำลองภาพแบบนั้นมา?
- ได้รางวัลเพลงละครเวทียอดเยี่ยมจากแกรมมี่ / ได้รางวัลพูลิตเซอร์ / 8 รางวัล Drama Desk Awards และล่าสุด 11 รางวัล Tony Awards หลังงานโทนี่บัตรซัดไป 2000-3000 เหรียญ (ร้องไห้แรง)
Hamilton คือละครที่พูดถึงการสร้างชาติอเมริกาที่ทำให้ชาวอเมริกันหลายคนได้ย้อนดูถึงรากเหง้าว่าแท้จริงแล้วตัวเองกำเนิดมาจากไหนกันแน่ บุคคลสำคัญผู้ได้ชื่อว่าเป็นบิดาแห่งการก่อสร้างชาตินี้เจอเรื่องราวอะไรมาบ้าง แล้วก็ยังสอดแทรกและสื่อถึงความหลากหลายของชาติพันธุ์ในอเมริกา
แม้ในช่วงแรกๆ จะโดนกล่าวหาเรื่อง reverse racism แต่ Hamilton ก็ได้พิสูจน์แล้วว่าจุดประสงค์จริงๆ ของเขาคืออะไร คนรับรู้ได้แน่ และในอีกไม่นานนี้นักแสดงหลักหลายคนก็จะโบกมือลา Hamilton ซึ่งทางทีมผู้สร้างเคยพูดว่ายังอยากแคสต์นักแสดงหญิงมาเล่นเป็นบิดาผู้สร้างอเมริกา
เฟี้ยว! รอดูเลยนะ
ด้วยการกลั่นกรอง ดีไซน์ และความตั้งใจของผู้จัดทำนี้เอง ละครเลยกลายเป็น hype อย่างที่สุด ดังไม่ลืมหูลืมตา ขนาดพิธีกรแซวตอนเปิดรายการว่า "โทนี่ปีนี้ไม่ได้มีแต่แฮมิลตัน...เรามีช่วงพักโฆษณาด้วย" ....จ้ะ
5. บทกวีอันน่าประทับใจของ Lin-Manuel Miranda ขณะขึ้นไปรับรางวัลจากผลงานเรื่อง Hamilton
ไม่มีสิ่งใดในงาน Tony Awards ที่จะถูกพูดถึงมากไปกว่าบทกวีที่ Miranda ถือขึ้นเวทีไปด้วย เขาออกตัวว่าเขาไม่ใช่พวกฟรีสไตล์ ขออ่านที่เขียนมาก็แล้วกัน มินิมอร์ขอยกส่วนหนึ่งมาให้อ่านกันนะ ไม่อยากแปล เพราะของเดิมดีมากแล้วจริงๆ
ในช่วงต้น(ที่ไม่ได้ยกมา) มิแรนด้ากล่าวยกย่องภรรยาและลูก ในช่วงหลังเขากล่าวถึงเรื่องราวที่น่าจะอ้างอิงถึงเหตุการณ์ที่ Orlando และย้ำเตือนว่านี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ต้องเจอกับความรุนแรงจากการเกลียดชัง อย่าให้มันเอาชนะเรา แม้เป็นถ่านไม้ใกล้เป็นเถ้าก็ยังมีไฟคุ จงมีความหวัง และอยู่เพื่อทำให้โลกนี้มีแต่ดนตรี ความรัก และศักดิ์ศรี(ของความเป็นคน)
เท่!
อ่านเฉยๆ ไม่เท่หรอก ต้องไปฟังเองนะ มินิมอร์ร้องไห้เลย จังหวะและน้ำเสียงที่ใช้นี่...บอกถึงความโปร T_T ดูคุณมิแรนด้าได้
ที่นี่ เลย
ไม่ใช่ว่าเหตุร้ายจะทำลายขวัญกำลังใจจนราบคาบ ขอเพียงมีคนคนหนึ่งยืนหยัดต่อสิ่งที่เชื่อมั่น และพร้อมมอบความรักให้ผู้อื่น เมื่อหลายคนรวมกันเข้า ก็จะเป็น 'เสียง' ที่ดังและยิ่งใหญ่ เช่นในงาน Tony Awards ครั้งนี้
อยากดูคลิปทั้งหมดดูได้
Tonyawards เลยนะ...แต่ว่าต้องหาทางดูเอา ให้ดูเฉพาะในอเมริกา..
นี่คือผลของความตั้งใจ และสร้างสรรค์ มินิมอร์เองก็ไม่รู้ว่ามีเพื่อนๆ สนใจละครเวทีบ้างหรือไม่ อาจจะมีใครสักคนที่ผ่านมาอ่านแล้วมีความฝันอยากเขียนบทละครเวที! แต่เรื่องราวที่นำเสนอไปนี้เพื่ออยากให้พวกเราได้ลองสำรวจตัวเอง ว่าเราเข้าใจเรื่องความหลากหลายของคนหรือไม่ แม้เราจะต่างกันออกไปด้วยเพศ ผิว ศาสนา เชื้อชาติ แม้กระทั่งรสนิยมทางเพศ แต่ท้ายที่สุดแล้วเราก็เป็นพวกพ้อง เป็นประชากรของโลกนี้เท่าๆ กัน
รู้จักตัวเอง ใส่ใจโลกภายนอกและความเป็นไปของสิ่งต่างๆ เรียนรู้ ปรับใช้ มินิมอร์เชื่อว่าไม่ว่าเรื่องอะไร เพื่อนๆ ก็จะเอามาใช้เป็นประโยชน์ต่อตัวเองได้แน่นอน อย่างน้อยที่สุดก็ได้แรงบันดาลใจแหละน่า
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in