วันที่ 4 ตุลาคม
สวัสดี นิล
เขียนถึงกันแบบเป็นกันเองก็ได้ เราว่าพอตัดเรื่องสรรพนามออกไปแล้ว จดหมายที่นิลเขียนดูเป็นกันเองมากเลย เพราะงั้นเขียนอย่างที่สบายใจเถอะนะ เราอ่านสนุกดี
เราชื่อนลิน เป็นชื่อที่แปลกสำหรับเด็กผู้ชาย ไม่รู้ว่านิลเห็นครั้งแรกในรายชื่อที่ครูเอามาให้แล้วรู้สึกสงสัยไหม เราก็เพิ่งรู้ว่ามันไม่ธรรมดาตอนเข้าเรียนเพราะครูเป็นคนทักเวลาขานชื่อ “เด็กชายนลิน อ้าว ชื่อเหมือนเด็กผู้หญิงเลย” วันนั้นเด็กชายนลินเลยกลับไปถามแม่ว่าชื่อคนเรามีเพศชายเพศหญิงด้วยเหรอ แม่ตอบแค่ว่าดอกบัวเป็นดอกสมบูรณ์เพศ เป็นทั้งชายและหญิง และแม่ก็ชอบดอกบัวมาก นิลจะเรียกเราว่านลินหรือลินก็ได้ ต่างกันแค่พยัญชนะเดียวเอง
เราแอบค้นความหมายชื่อของนิลด้วย สุดยอดจริงๆ นะ ส่วนชื่อเล่นของนิล เราไม่รู้ว่าที่บ้านนิลตั้งใจให้มีความหมายแบบไหน แต่เราจำได้จากหนังสือเรียนเคมีก็เลยรู้สึกว่า nil แบบภาษาละตินดูจะเข้ากับชื่อนิรวาณดี
นิลบอกว่าตัวเองเป็นเด็กธรรมดาๆ ใช่ไหม เราว่าไม่หรอก หรือไม่อย่างนั้นเราก็เป็นเด็กธรรมดาเหมือนกันสองคน แบบนั้นเป็นเพื่อนกันง่ายกว่า ชีวิตเราไม่มีอะไรน่าสนใจเท่าไร เราเรียนวิทย์คณิต แต่ว่าชอบแอบวาดรูปเล่นตลอดเลย คะแนนเลขอาจพอไปวัดไปวาได้ แต่เราก็ไม่ได้ชอบเป็นพิเศษ ผู้ใหญ่น่าจะรู้สักทีว่าสิ่งที่ทำได้ดีกับสิ่งที่เราอยากทำอาจเป็นคนละอย่างกันก็ได้ เรายังไม่รู้เหมือนกันว่าอยากเป็นอะไร ดังนั้นนิลไม่ต้องกังวลไปนะ
เราลองเล่นเปียโนเพลง falling slowly ด้วย ยังไม่ได้ดูหนังที่นิลบอกเลย แค่ฟังเพลงก็อยากร้องไห้แล้ว
อืม ไม่รู้จะชวนคุยอะไรต่อแล้ว ขอโทษทีนะ คราวหน้าคงต้องให้นิลเป็นคนกำหนดประเด็นแล้วล่ะ
ยินดีที่ได้รู้จักเหมือนกันนะ
นลิน
ป.ล. หวังว่าจดหมายเราจะไปถึงโดยสวัสดิภาพ นิลจะได้ไม่โดนหักคะแนน
เอ๊ะ ทำไมจบบทนี้แล้วเรียกน้องเขาว่าลูกชายได้นะ สงสัย โดนตกค่ะ แงง
PS. เราก็ฝึกเล่น Guitar เพลง Falling Slowly สมัยอยู่มหาลัยฯ เหมือนกัน (และไม่ยอมดูหนังเช่นกันค่ะ กลัวซึม TT') โถ่ นี่สินะคะ moment ?