วันที่ 1 ตุลาคม
สวัสดีครับ
อาจารย์บอกว่าเราควรเริ่มต้นจดหมายฉบับแรกด้วยเรื่องพื้นฐานอย่างการแนะนำตัวก่อน ผมจะทำตามนั้นแล้วกัน
(1. ถึงครูสัญญาว่าจะไม่อ่านเนื้อความในจดหมายของเรา แต่ถ้าเขาหลอกให้ตายใจแล้วมาตรวจทีหลัง อย่างน้อยทำตามแบบแผนก็น่าจะได้คะแนนตรงส่วนนี้ใช่ไหม ปลอดภัยไว้ก่อนดีกว่า
2. ไม่รู้คุณอยากให้ใช้สรรพนามเรียกยังไง ถึงการใช้ผม-คุณจะฟังดูเหมือนหลุดมาจากนิยายไปหน่อย แต่เรื่องนี้ก็ปลอดภัยไว้ก่อนเหมือนกัน ไว้คุณค่อยตอบผมมาในจดหมายฉบับหน้าก็ได้ว่าเราจะคุยกันยังไง)
ผมชื่อนิรวาณ ชื่อเล่นชื่อนิล อยู่ม.5/10 สายศิลป์คำนวณ โรงเรียนตรงข้ามคุณนั่นแหละ แต่เรื่องนั้นคุณคงรู้อยู่แล้ว ผมเกิดวันที่ 9 กุมภา ตอนนี้อายุ 16 เป็นลูกคนเดียว ไม่มีสัตว์เลี้ยง ถึงจะอยากเลี้ยงหมาแต่แม่บอกว่าเป็นภูมิแพ้ขนาดนี้จะไปเลี้ยงอะไรไหว งานอดิเรกคือเล่นเปียโน ดูหนัง แล้วก็เล่นบาสหลังเลิกเรียน โตขึ้นอยากเป็นอะไรยังไม่แน่ใจ แม่บอกว่าเรียนกฎหมายแล้วรับราชการน่าจะดี ส่วนพ่อไม่ค่อยศรัทธากับระบบจนบอกว่าไปเรียนบัญชีไม่ก็บริหารเถอะ พักนี้ผมสนใจเรื่องอ่านกับเขียนหนังสือเป็นพิเศษ สงสัยเหมือนกันว่าสองคนนั้นจะว่ายังไงถ้าผมอยากเรียนอักษรและประกาศว่าจะเป็นนักเขียนขึ้นมา แต่เอาไว้เป็นเรื่องของปีหน้าแล้วกัน เขียนจดหมายเทอมนี้ให้รอดก่อนดีกว่าเนอะ
ผมต้องบอกสิ่งที่ชอบด้วยใช่ไหม เหมือนเวลาเขียนประวัติส่วนตัว เผื่อว่าเราจะชอบอะไรสักอย่างตรงกันแล้วจะคุยกันง่ายขึ้นทำนองนั้น เริ่มจากเรื่องพื้นๆ อย่างเช่นผมชอบสีน้ำเงิน ชอบกินต้มยำปลาน้ำข้น ชอบช็อกโกแลตขมๆ กับกาแฟดีๆ ที่กินได้แค่เดือนละหนสองหนเพราะมันแพง ชอบฟัง coldplay กับเพลงแนวอินดี้ป็อป/ร็อก/โฟล์กที่เพื่อนๆ ไม่ค่อยรู้จักกัน (พูดทีไรรู้สึกว่าถูกหาว่าฮิป คุณพอนึกออกไหม) แล้วก็ชอบดูหนังเล็กๆ ที่อินดี้พอกันอีก ล่าสุดผมดูเรื่อง Once แล้วน้ำตาหยดติ๋งๆ เลย (อย่าบอกใครนะ) คงเป็นเพราะผมชอบการเล่าเรื่องมั้ง แต่ผมไม่ได้เกลียดหนังทุนสร้างสูงๆ หรือเอฟเฟกต์อลังการหรอกนะ ตราบใดที่มัน 1. เล่าเรื่องได้ดี 2. ทำมาเพื่อความสนุกแล้วสนุกจริงๆ ส่วนเรื่องเรียนนั้น ผมชอบภาษาอังกฤษกับภาษาไทยที่สุด ประวัติศาสตร์ก็ดี แต่ว่าต้องไปหาอ่านเอง ผมว่าผมเป็นเด็กศิลป์คำนวณที่อ่อนเลขที่สุดแล้วแหละ ทุกวันนี้ก็เรียนพิเศษไปงั้นโดยที่ไม่ค่อยมีอะไรเข้าหัว
ย้อนกลับไปอ่านที่เขียนมาทั้งหมด ผมรู้สึกว่าตัวเองก็เป็นนักเรียนธรรมดาๆ ไม่รู้ว่าจะน่าคบหาสำหรับคุณไหม น่าสนใจนะครับว่าสมัยก่อนคนเราเป็นเพื่อนทางจดหมายกันได้จริงๆ เหรอ (แม่บอกว่าจริง ผมถามแล้ว แม่บอกว่าในนิตยสารบางฉบับเขามีหน้าให้หาเพื่อนกันอย่างนั้นเลย) แต่ในกรณีของเรานั้นมีคะแนนเก็บ 20 คะแนนเพียวๆ เป็นเดิมพัน ไม่รู้เหมือนกันว่ามิตรภาพของเราจะออกมาอีท่าไหน อย่างน้อยๆ ก็มาพยายามด้วยกันจนจบเทอมนะครับ
ผมจะรอจดหมายด้วยใจจดจ่อ แล้วก็ยินดีที่ได้รู้จักครับ
ด้วยความนับถือ
นิรวาณ (นิล)
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in