เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
Themmeinland_38
YL's first date
  • -—-


    เเมลงกลุ่มหนึ่งจดจ่อกับเเสงไฟอย่างกระหายความอบอุ่น พวกมันบินวนรวดเร็วด้วยปีกเล็กๆ จนเห็นเป็นประกายวิบวับบนเสาไฟสูง ผมไม่เเน่ใจว่าพวกมันบินหลบเเมลงตัวอื่นได้ยังไงโดยไม่ชนกันเลย เเต่นอกจากการเคลื่อนไหวบนเสาไฟฟ้า นาทีนี้บนหัวมุมถนน A ตัดกับถนน C ก็ไม่มีใครเลยนอกจากผมเเละฝูงเเมลง

    หน้าจอสมาร์โฟนบอกเวลาสองทุ่มกว่า ผมมองมันเป็นครั้งที่สามระหว่างยืนรอบนฟุตบาตถนน เหตุผล... ผมกำลังรอ ‘เพื่อนเเชท’ คนที่ผมคุยร่วมสามเดือน เเต่เรากลับไม่เคยเจอกันเลยสักครั้ง จนเวลาถัดมาเราเลยตกลงนัดเจอกันให้วันนี้เกิดขึ้น

    ผมหวังว่าจะไม่รอเก้อ ถ้าเลทละก็พอรับได้...

    เวลาผ่านไปอีกยี่สิบนาที ก็มีชายคนหนึ่งเดินผ่านมา เขาเอามือล้วงกระเป๋าเเจ็กเก็ตสีเทา จับสายตาตรงมาที่ผมเช่นเดียวกับที่ผมก็มองเขา

    “คุณ TK รึเปล่าครับ?”

    ผมชิงพูดก่อนเพราะไม่อย่าเสียเวลาอีก เเต่เเอบผวาในใจเล็กน้อยเมื่อเห็นสีหน้าเเปลกใจของเขา

    “อ เอ่อ ครับ...” ชายคนนั้นเอามือออกจากกระเป๋าเเจ็คเก็ต “หวัดดี คุณคือ...”

    “ผม YL” หลังคำตอบผมยิ้มให้เขาเล็กน้อย เหมือนปลอบใจตนเองว่าไม่ได้นก

    เราพากันเดินไปข้างหน้าอีกสองบล็อก ก็ถึงโรงหนังสเเตนอโลนที่ผมได้ตกลงกับคุณ TK ว่า จะมาดูหนังเก่าเรื่อง The Lord of the ring ด้วยกัน สืบเนื่องจากเนื้อหาในเเชทที่คุยกันร่วมสามเดือนเศษๆ เต็มไปด้วยหนังของ Peter Jackson ภาพที่ถ่ายด้วยกล้องฟิลม์ หนังสือนิยายผจญภัย ประเทศเเถบตะวันออกกลางที่อยากไป เเมว เเพนกวิน เเละคูปองลดราคาเอสเพรสโซ่ในร้านกาเเฟย่านฮิปสตรีท

    ผมพบว่า... เราจะมีอะไรคล้ายกันมาก

    “คุณอยากกินป็อบคอนมั้ย?”

    “เอาสิ”

    ผมเจือนยิ้มกับใบหน้านิ่งของเขา ที่เอาเเต่มองไปรอบๆ อย่างลุกร้น ผมหันไปสั่งของว่างกับพนักงาน จะว่าไปคุณ TK ไม่ค่อยพูดเก่งเหมือนในเเชทเลย เขาดูเงียบขรึ่มผสมความประหม่าเเปลกๆ ผมเดาว่า... เขาคงเกร็งๆ ที่เราเจอกัน หรืออาจเป็นข้อสงสัยที่ผมเพิ่งสังเกตุว่า ‘คนที่เเชทเก่งๆ อาจก็ไม่ได้เป็นคนที่คุยเยอะก็ได้’

    “นี่ครับ” ผมยื่นโค๊กเเก้วกลางไปให้เขา เเละหลังคำขอบคุณห้วนๆ คุณ TK ก็เดินนำผมไปเเถวที่นั่ง D11, D12


    ‘โรงหนังสเเตนอโลน U ไม่ค่อยวุ่นวาย... ผมว่าคุณต้องชอบที่นั่นเเน่ๆ’ 
    -TK , 22 Aug. 201X / 17:04pm


    เขาพูดถูก ผมรู้สึกชอบที่นี่ในระหว่างนั่งดูซีนเเรกของหนังในหมู่บ้านฮอบบิต ทั้งเบาะนุ่มๆ สีน้ำตาลอ่อน เเละกลิ่นหอมของป็อบคอนราคาสมเหตุสมผล ที่มีให้เลือกหลายรสจนผมหลายใจ ฟิวลิ่งสโลไลฟ์เเบบนี้ ชวนให้ผมผ่อนคลายมาก ไม่รู้ว่าผมเล่าเรื่องตนเองไปเยอะเเค่ไหนให้คุณ TK ฟัง จนทำให้เขาเก็ตกับรสนิยมของผม

    หนังดำเนินไปได้สามสิบนาที จากมหาการย์เเหวนครองพิพบที่ยาวเหยียด ผมพาป็อบคอนรสชีสเข้าปากไปได้ครึ่งกล่อง เหลือบมองจากจอด้านหน้ามาที่ใบหน้าด้านข้าง เจ้าของข้อความที่ได้รับการ QC เเล้วว่า ‘เดตที่โรงหนังก็ไม่เลว...’

    เเต่ว่า... คุณ TK คนพูดเก่ง กลับสนใจ ‘โฟโด้’ เเละ ‘กอลัม’ มากกว่าผม เเละเเทบไม่เอื่อมมือมาเเตะป็อบคอนเลย เขาดูตั้งใจกับฉากที่โฟโด้พบกอลัมเป็นครั้งเเรก จนผมอดไม่ได้ที่จะเคี้ยวป็อบคอนด้วยเสียงเบา ที่นอกจากมือใหญ่ดูเเข็งเเรงของเขากำลังหยิบโค๊กจิบ ก็ไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆ จากคุณ TK

    บางทีผมอาจจะหวังอะไรมากไปหน่อยกับเดตครั้งเเรก เเต่ (ทั้งเเถว D ไม่มีใครนั่งเลยนอกจากเรานะ...)

    ผมหยิบโค๊กจิบเบาๆ เลิกสนใจพฤติกรรมของคุณ TK เเละกลับมาดูการผจญภัยของโฟโด้เเละเเซมต่อเป็นรอบที่ 5 ถ้าให้ผมเดา... ความสัมพันธ์ของเราเพียงสามเดือนในเเชท มันคงไม่มากพอให้เกิดสัมผัสทางกาย

    พอป็อบคอนหมด ก็เกิดความเงียบระหว่างเราโดยสมบรูณ์ ผมปล่อยให้เสียงของหนังทำหน้าที่ของมัน บางทีมันอาจทลายความกังวลของผมไปได้บ้าง

    เเต่พอหนังดำเนินมาถึงคลาเเม็กของเรื่อง ผมกลับคิดในใจว่า ‘ชักอยากกลับเเล้วเเหะ...’ บอกตามตรงถ้าย้อนเวลากลับไปได้ ผมอยากกลับไปนั่งเเชทกับคุณ TK มากกว่า การมีเขามานั่งข้างๆ ตัวเป็นๆ ผมเหลือบมองคุณ TK คนที่ใช้รูปโปรไฟล์เป็น ‘เเกนดราฟ์?’

    เเน่นอนเขาดูดีเชียวละ... ตัวสูง รูปร่างดี ท่าทางเหมือนพวกคนเรียนหมอไม่ก็สถาปัตย์ เเต่เขาดูไม่ไช่พวกกรีกเนิร์ดเลเวล 80-99 คงซะเลเวล 40-60 ประมาณนั้น เขากำลังเอามือเท้าคาง ตั้งใจดูหนังเหมือนไม่เคยดูมันมาก่อน ทั้งที่เคยเเชทบอกผมว่า ‘โอ็ย! LOTR หรอ... ผมดูมาเเล้ว 7 รอบ’

    จู่ๆ ดวงตาของเขาเคลื่อนมา ในจังหวะที่ผมหลบไม่ทัน ผมเลยยิ้มให้เขาน้อยๆ อย่างถูกจับได้ เเละรีบเบือนหน้าไปดูเเกนดราฟ์ ที่กำลังตะโกนประโยคเด็ดที่ว่า ‘You shall not pass!’
    บางทีพ่อมดเทาคงกำลังบอกอะไรบางอย่่างกับผมเป็นนัยๆ

    “ป๊อบคอนหมดเเล้วหรอ”

    ผมสะดุ้งโหยงกับน้ำเสียงกระซิบ มันใกล้เสียจนไม่กล้าหันไปด้านข้าง คงรู้นะว่าเพราะอะไร...

    “อ อืม” ผมพยักหน้าหงิกๆ เผลอจิกกล่องป็อบคอน (ขนาดสำหรับกินสองคน) ว่างเปล่าในมือ

    คุณTK ไม่ได้พูดอะไร เขากลับไปดูหนังต่อ เเต่จากหางตาสอดรู้ของผม ผมเเอบเห็นรอยยิ้มของเขา

    เมื่อเครดิตหนังฉายขึ้น คนดูในโรงหนังเล็กๆ ก็ทยอยลุกขึ้นจากเก้าอี้ ท่ามกลางเสียงดีดสปิงเก่าๆ เเละความย้วบยาบของเบาะหนังนุ่มๆ ผมก็ได้ยินเสียงหลอดดูดความว่างเปล่าในเเก้วโค๊กของคุณ TK ก่อนที่เขาจะวางเเก้วเปล่าลงเเล้วหันมามองหน้าผม

    “ห หนังนานเนอะ” ผมชวนคุย เหมือนระบบหลีกหนีความอึดอัด Turn on

    เขามองหน้าผมนิ่ง เหมือนพยายามคว้านหาอะไรบางอย่างจากเเสงสลัวบนหน้าผม เผยอปากจะพูด บางทีเขาคงเลิกประหม่าเเละกำลังเริ่มพูดอะไรมากกว่าสามคำ ด้วยดวงตาคมของเขา

    ‘ให้ตายสิ เขาทำให้ผมลุ้นจนใจเต้นไปหมด!’

    “….อืม”

    ผมยิ้มกับพยางค์คำเดียวจากปากของเขา เเละพ่นคำด่าในใจ

    เราออกมายืนหน้าโรงหนังในเวลาสี่ทุ่มกว่า เเน่นอนว่ามหากาพย์เเหวนครองพิภพ กินเวลาเดตของเราไปเกือบสองชั่วโมงครึ่ง ซึ่งมหัศจรรย์ที่ไดอาล็อกของคุณ TK ผุดขึ้นเเทบนับเป็นคำๆ ได้ เขาพูดกับผมวันนี้ยังน้อยกว่าการเเชทกันครั้งเเรกของเรา เมื่อสามเดือนก่อนเสียอีก

    เอาเถอะ ครั้งนี้คงล้มเหลวเเน่ๆ ผมคงไม่ไช่สเปคของเขา หรืออะไรสักอย่างที่ทำให้เขาใบ้กินเเบบนี้ เเต่นี่ไม่ไช่ครั้งเเรกที่ผมจะได้กินลูกเเฮ้ว ปีที่เเล้วผมเคยนัดเจอกับเพื่อนในเเชทเหมือนกัน เเละพอจบลงที่การเดตในร้านอาหาร เขาก็พูดขึ้นว่า ‘คุณไม่ไช่อย่างที่ผมคิดไว้เลย เเต่ผมชอบเเชทกับคุณนะ ขอโทษที’

    ช่างเป็นคำที่สุภาพ ผมปลอบใจตนเอง ยังดีกว่ามีคนบอกว่า ‘คุณหน้าตาไม่ดี ไม่น่ารักอย่างที่ผมคิดเอาไว้’ เเต่เอาเถอะ ผมก็ไม่ไช่หนุ่มน้อยอายุยี่สิบปลายๆ ที่ไม่เคยผ่านความผิดหวังอะไรมาเลย เเค่เป็นพนักงานบริษัทธรรมดาๆ ภายในสภาพเเวดล้อมไม่ค่อยเอื้ออำนวยให้เจอกับคนที่มีรสนิยมความรักเหมือนกันเท่านั้น เลยต้องพึ่งเเชทหาคู่ทางออนไลน์ที่เเสนสะดวก เเต่ก็ไช่ว่าจะเจอกับคนที่คลิ๊กกันได้เหมือนเอาลูกศรเมาร์ไปจิ้มที่รูป ไม่รู้ว่าเป็นผมเองที่ยาก หรือความสัมพันธ์ของหนุ่มสาวในตอนนี้มันซับซ้อนเกินไป

    “คุณ YL”

    เสียงเรียกของคุณ TK ปลุกผมจากภวัง ผมหันไปตอบเขา “ว่าไงครับ”

    “ไม่สนุกหรอ?”

    ผมกระพริบตาถี่ๆ กับคำถามของเขา “เปล่า... ทำไมหรอ”

    “ดูคุณเงียบๆ น่ะ”

    ‘คุณต่างหากละ!’ ผมสวนกลับในใจ “หรอ...”

    คุณ TK มองผมนิ่ง จนผมเเอบคิดว่าเขาคงมีนิสัยชอบจ้องหน้าคนอื่นอย่างกล้าหาญ “หนังสนุกมั้ย คุณชอบรึเปล่า?”

    ผมเห็นเขาเอามือล้วงกระเป๋าเเจ็กเก็ต น้ำเสียงของเขาเปลี่ยนไป เหมือนรู้ตัวว่าต้องเริ่มเป็นฝ่ายชวนคุยบ้าง ผมเลยตอบเขาไป

    “อ๋อ ชอบสิ เเต่คุณคงเบื่อๆ สินะครับ”

    “ไม่เลย สนุกดีออก ผมเพิ่งเคยดูเป็นครั้งเเรก”

    เเละเเล้ว คำตอบของเขาทำให้ผมเข้าใจ ‘อา เป็นเเบบนี้เอง...’

    ย้อนกลับไปที่ประโยคของคุณ TK ใน เเชทที่ว่า ‘โอ็ย! TLOTR หรอ... ผมดูมาเเล้ว 7 รอบ’ ผมจำได้เเม่นเชียวละ

    ผมเม้มปากกำลังคิดว่าจะพูดเเบบไหนดี เพราะเริ่มคิดเเล้วว่าถ้าคุณ TK ไม่ได้โม้เรื่องนั่นขึ้นมา ก็มีอีกเหตุผลที่เป็นไปได้อีก นั่นคือ ‘ผู้ชายคนนี้ไม่ไช่คุณ TK’

    ผมเลยเงยหน้ามองเขาเต็มตา “ไหนคุณเคยบอกว่า... ดู LOTR มาเเล้วตั้ง 7 รอบนิครับ?”

    คุณ TK (ที่ไม่เเน่ใจว่าไช่หรือเปล่า) เคลื่อนหลบสายตาของผม เขาเอามือปัดปลายจมูกคมสันของเขา ย่นคิ้วเข้มๆ ที่ดูไม่รู้จะไปต่อยังไงกับคำถามลองเชิงของผม

    ก็ได้ ผมขี้เกียดรอ “คุณไม่ไช่ TK ไช่มั้ย?”

    เขาสบตามองผมอึดใจหนึ่ง เเล้วพยักหน้า “ไช่... หมอนั่นส่งผมมา”

    ผมย่นคิ้วกับสรรพนามบุคคลที่สาม “เดี๋ยว คุณ... เป็นเพื่อน TK หรอ?”

    “อืม”

    ‘โป๊ะเช้! เเกโดนหลอกเเล้ววะ YL...’ ผมย่นคิ้วกับเสียงสมน้ำหน้าตนเองในใจ รู้สึกหน้าชานิดๆ เเม้นิสัยของผมไม่ไช่คนตีโพ้ตตีพายเหมือนนางเอกในละคร เเต่ตอนนี้ก็โกรธอยู่นะ

    “มีอะไรที่คุณอยากจะบอกผมอีกมั้ย?”

    ชายคนนี้เอามือเกาท้ายทอย ทำหน้าปั้นยากเเต่ก็จ้องตาสู้ผม “ไอ้ TK มันวานให้ผมมาบอกยกเลิกนัดวันนี้ มันไม่อยากพบคุณ เพราะมันมีเเฟนเเล้ว...” เขาถอนหายใจ “คือ มันจีบคุณเล่นๆ”

    “…”

    ผมนิ่ง ปล่อยให้ประโยคน้ำเสียงทุ้มที่มากกว่าพยางค์ ไหลบ่าเอาความจริงมาตบหน้าผม

    “คุณ... โอเคมั้ย?”

    ‘เหี้-ย!’ ผมด่ากลับในใจ

    เเต่ไม่ไช่ด่าคนที่กำลังทำหน้าเป็นห่วง คุณ(ที่ยังไม่รู้ชื่อ) ขยับเท้ามาหาผมครึ่งก้าว

    “....ขอโทษด้วยนะ”

    “ขอโทษทำไม... มันไม่ไช่ความผิดคุณนะ ฮ่าๆ” ผมหัวเรอะเป็นธรรมชาติ จนถ้าปีเตอร์ เเจ็คสันมาเห็น เขาคงอยากเเคสผมไปเเสดงหนังด้วย เออ พูดถึงหนัง... “เเล้วทำไมคุณไม่บอกผมเเต่เเรกที่เจอกันละ จะได้ไม่ต้องเสียเวลามาอยู่กับผม”

    ให้ตาย ผมพูดรัวจนลิ้นเเทบพัน... การที่ต้องฉาบรอยยิ้มไปด้วย ปลอบใจตนเองไปพลาง มันยากกว่าที่คิด

    คุณ(ที่ยังไม่รู้ชื่อ) มองหน้าผม จากระยะนี้เขาตัวสูงกว่าผมจริงๆ

    “ผมก็อยากบอกคุณอยู่นะ เเต่... เเต่พอเห็นรอยยิ้มของคุณตอนเจอกันครั้งเเรก ผมเลยไม่กล้าพูดให้คุณเสียใจ”

    ผมนิ่ง เหมือนใครเอาน้ำเย็นมาดับไฟ

    โอเค... ไอ้โมเมนต์ที่ว่า ‘Nail it’ ผมเข้าใจละ

    “โทษทีที่ทำให้คุณเสียเวลานะ”

    “ม ไม่เป็นไร”

    เเย่ละ ผมเขิน เเละคุณ(ที่ยังไม่รู้ชื่อ) ก็กำลังทำหน้าเหมือนรู้ทันเสียด้วย นี่เขาไช่คนเดียวกับคนหน้าตายในโรงหนังรึเปล่าเนี่ย?

    ผมเม้มปาก “เเล้วนี่คุณมีชื่อเรียกมั้ย?”

    “JE” เขายิ้มที่มุมปาก ผมหลบสายตาลงอย่างรู้ว่ากำลังใจเต้น ให้ตาย... ผมเกือบลืมไปเเล้วว่า การพบคนที่ถูกชะตาด้วยเเต่เเรกเจอ มันเป็นยังไง

    คุณ JE เอียงคอมองผม เขากำลังยิ้มพราย “คุณกลับยังไง เดี๋ยวผมไปส่ง”

    เเค่มองตาเขา ผมก็รู้ว่ามันไม่ไช่ใบหน้าของคนที่หวังดีตามมารยาท หรือขอเสนอของคนที่อยากรู้จักกันเเค่เพื่อน ผมเลยหลบายตาเขา ขยับเท้าเดินผ่านไหลสูงๆ ไปสองสามก้าว

    เเหงละ... ถึงผมจะรู้สึกโอเคกับคุณ JE เเต่ผมไม่ไช่คนใจง่ายขนาดนั้นนะ

    “ผมกลับซับเวย์ได้ครับ ขอบคุณ”

    JE เลิกคิ้วอย่างทะเล้นกับคำปฏิเสธของผม เขายังอมยิ้มน้อยๆ ที่มุมปาก “เเล้ว... คุณสนใจมาดู TLOTR ภาคสองกับผมมั้ย? สัปดาห์หน้าเวลาเดิม”

    ผมยักไหล่ “ก็ถ้าคุณไม่ปล่อยให้ผมรอตั้งครึ่งชั่วโมง หรือพาคนเเปลกหน้ามาสวมรอยเป็นคุณละก็... ก็อาจไปนะครับ”

    คุณ JE ผุดเสียงหัวเรอะกับคำประชด ผมเองก็เช่นกัน เรากำลังหัวเรอะเยาะกับสถานการณ์ที่การคุยผ่านเเชทให้ไม่ได้ ไม่ว่าจะเป็นเเมลงกลางคืนบนเสาไฟฟ้าด้านบน กลิ่นป็อบคอนหอมๆ เสียงดูดน้ำโค๊ก ความเงียบของเราในยามประหม่า บทสนถนาที่เพิ่งเริ่มต้นอย่างเขอะเขิน เเละรอยยิ้มของ JE กับผม ที่กำลังส่งสัญญาณว่า ‘เราเเฮปปี้มากที่ได้เจอกัน...’

    คงต้องให้เครดิตกามเทพ TK (บัดสบ) ซึ่งผมไม่อยากรู้ว่ามันอยู่ที่ไหนเเล้วละมั่ง...

    JE พยักหน้า เขาเอามือล้วงกระเป๋าเเจ็กเก็ตทั้งสองข้าง บอกตามตรงเขาเท่นะ...

    “โอเคครับ ผมไม่พลาดเเน่ สัญญาเลย”

    “งั้นไว้เจอกัน คุณ JE”

    “ครับ คุณ YL”

    เเน่นอนว่า เราไม่ลืมเเลกเบอร์โทรศัพท์ เเละตัวตนในโซเชี่ยว ซึ่งผมก็กำลังนั่งส่องโปรไฟล์ของเขา ไล่อ่านโพสของเขา ผมมั่นใจว่า JE ก็กำลังทำเช่นกัน (ดูจากที่เขามากดไลด์รูปถ้วยเอสเปรสโซ่ของผมเเล้ว เร็วมาก!)

    ท่ามกลางเสียงเพลงของวง A Flock Of Seagulls - Space Age Love Song ที่ผมเเอบฟังจากเเทร็กของเขาในโพสเเรก ผมพบว่าตนเองกำลังยืนอมยิ้ม ตรงหน้าประตูรถไฟฟ้า เเละรอวันที่เราได้เจอกันอีกครั้ง โดยมี LOTR ภาคสองเป็นพยาน



    ———

    สวัสดีคะ. เรา Meinland
    เพิ่งเคยเเต่งเรื่องสั้นเป็นครั้งเเรก 
    ขอฝากนิยายเป็นตอนๆ เรื่องนี้ไว้ด้วยนะคะ
    ขอบคุณคะ

    Twitter tag. >>>>>  #Them_Meinland



Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in