เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
PANDEMONIUMpiyarak_s
Day 2: Allergy (ภูมิแพ้)
  • ที่เกิดเหตุเป็นบ้านสี่ห้องนอนในย่านทวิคแนม เป็นบ้านที่ไม่มีคนอยู่แล้วและมีประกาศขายติดอยู่หน้าบ้าน ถึงจะอยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของลอนดอน แต่ก็นับว่าอยู่ห่างจากย่านใจกลางเมืองพอตัว ต้องรอเที่ยวรถประจำทางนานและอยู่ห่างจากป้ายรถเมล์พอสมควร ราคาที่ตั้งขายไว้ คือ เจ็ดแสนห้าหมื่นปอนด์ ไม่ถูกไม่แพงเกินไปสำหรับลักษณะบ้านและทำเลที่ตั้ง เปลี่ยวเกินไปสักหน่อย แต่ผมชอบความสงบของมัน และถ้าผมเป็นอาชญากรที่มีเงินพอที่จะจ่ายละก็ ผมจะเลือกซื้อบ้านหลังนี้โดยไม่ลังเลใจเลย เพราะความมีรั้วรอบขอบชิดและระยะห่างของตัวบ้านและสวนที่ทำให้เพื่อนบ้านมองเข้ามาได้ไม่ถนัดนัก ไม่นับเรื่องที่ว่า บ้านที่ขนาบอยู่ทั้งสองข้างของบ้านหลังนี้ก็เป็นบ้านที่ปล่อยเช่าและยังไม่มีใครเข้าอยู่อาศัยด้วยเช่นกัน 



    “ฮาล หมอคิงส์ลีย์ ทางนี้เลย” หัวหน้าหมู่งานสืบสวนพีท โดเฮอร์ตี้ เพื่อนร่วมงานของผมโบกมือให้ เมื่อเห็นเราสองคนเดินมาตามถนนจนถึงแนวเทปสีเหลืองที่กั้นเอาไว้ เขาทำจมูกฟุดฟิดเหมือนอยากจาม แต่จามไม่ออก ใช้หลังมือขยี้ตาที่แดงก่ำ ดูเหมือนเขาจะโดนโรคภูมิแพ้เล่นงานเข้าให้ แต่เท่าที่จำความได้ ผมไม่เคยเห็นเขามีอาการแบบนี้ในช่วงฤดูใบไม้ร่วงมาก่อน


    “ทีมพิสูจน์หลักฐานกำลังตามมา” เขาบอก “แต่ขอเตือนไว้ก่อนที่เข้าไปในที่เกิดเหตุเลยว่า ยินดีต้อนรับสู่นรกนะ ท่านสุภาพบุรุษทั้งหลาย หวังว่าจะยังไม่ได้กินอะไรกันมา” 


    “เลวร้ายขนาดนั้น?” ผมเลิกคิ้ว


    “นายดูซีรี่ส์ฮันนิบาลหรือยังล่ะ ถ้าดูแล้ว คิดว่าคงพอรับไหว” พีทว่า “มีตำรวจสลับกันวิ่งออกไปอ้วกหลายคนแล้ว”


    “แย่กว่าคดีที่เราเคยทำมาก่อนหน้านี้อีกเหรอ” ลีโอถาม เขาหมายถึงคดีฆาตกรรมที่คล้ายกับคดีแบล็คดาห์เลียที่ทำให้ผมเกือบตายมาแล้ว คดีนั้นศพถูกหั่นครึ่งเป็นสองท่อน มุมปากสองข้างถูกกรีดเป็นแผลยาวจนถึงหูเหมือนกำลังแสยะยิ้มอยู่ตลอดเวลา 


    พีททำเสียงอืมในลำคอแบบไม่รู้จะให้คำตอบว่าอย่างไร เปิดเต้นท์ที่ใช้สำหรับปฏิบัติการและเปลี่ยนเสื้อผ้าสำหรับสวมใส่เข้าที่เกิดเหตุให้เรา หยิบชุดคลุมไทเว็คสีขาวและถุงสวมรองเท้าให้เราคนละชุด 


    “ทีมพิสูจน์หลักฐานมาแล้ว อยู่ในบ้าน” เขาบอก พลางดึงผ้าปิดปากแบบใช้แล้วทิ้งขึ้นมาจากกล่องแล้วสวมให้ตัวเอง “พวกนายอาจจำเป็นต้องใช้มัน เพราะกลิ่นฟอร์มาลีนหรืออะไรก็ตามแต่ข้างในนั้นมันแรงมาก”


    “ฟอร์มาลีน?”


    “หรืออะไรก็ตามที่นายใช้ดองศพหรือตัวอย่างสิ่งมีชีวิตนั่นแหละ” พีทขยายความ ผมเริ่มเข้าใจที่มาของอาการตาแดงและท่าทางเหมือนระคายเคืองอะไรบางอย่างของเขาแล้วในเวลานี้ 


    “เด็กที่อาศัยอยู่แถวถนนถัดไปแกล้งเพื่อนด้วยการเหวี่ยงกระเป๋านักเรียนของเพื่อนข้ามรั้วเข้าไปในบ้าน แล้วก็... เพล้ง... กระจกหน้าต่างแตก ไม่ได้แตกเปล่า ๆ กระเป๋าไปโดนเอาขวดโหลที่วางอยู่บนพื้นใต้หน้าต่างนั่นแตกกระจายไปด้วย”


    เพราะต้องการเข้าไปเก็บกระเป๋ากลับคืนมา เด็กประถมทั้งสามคนเลยได้พบกับประสบการณ์เขย่าขวัญและเป็นเหตุให้ตำรวจนครบาลได้คดีในความรับผิดชอบเพิ่มขึ้นหนึ่งหรืออาจจะหลายคดี ขึ้นอยู่กับว่าจะสามารถพิสูจน์ทราบตัวบุคคลเจ้าของชิ้นส่วนอวัยวะที่เกลื่อนกลาดอยู่ภายในห้องนั่งเล่นของบ้านหลังนั้นได้มากน้อยแค่ไหน


    ผู้กำกับการแผนกสืบสวนคดีฆาตกรรมและโจรกรรมที่ผมสังกัดยังคงอยู่ในสก็อตแลนด์ แต่ก็สั่งการผมไว้แล้ว และมอบหมายให้ผมทำหน้าที่หัวหน้าเจ้าหน้าที่สืบสวนคดีฆาตกรรมนี้ และคิดว่าเขาคงอยากได้คำตอบโดยเร็วที่สุดเท่าที่ผมจะหาให้เขาได้ในเบื้องต้น


    “พร้อมสำหรับการเดินทางสู่นรกแล้วสินะ” พีทว่า เมื่อเห็นลีโอกับผมสวมชุดป้องกันและถุงมือยางเรียบร้อยแล้ว



    แพนเดโมเนียม... มันเป็นนรกจริงอย่างที่พีทและผู้กำกับพาทริดจ์ให้คำนิยามเอาไว้


    อย่างไรก็ตาม มันเย็นยะเยือกเกินกว่าที่จะเรียกว่าเป็นนรก สภาพของสิ่งที่อยู่ภายในห้องนั่งเล่นอาจเรียกได้ว่าเป็นของประดับตกแต่งที่มีแต่พวกนักกายวิภาคยุคศิลปวิทยาการมีไว้ในสถานที่ทำงาน พิพิธภัณฑ์ส่วนตัว หรือห้องสารภัณฑ์ที่รวบรวมเอาของแปลกพิสดารจากทุกมุมโลกเอาไว้ด้วยกันมากกว่า 


    สำหรับผมแล้ว มันคือห้องแสดงชิ้นส่วนอวัยวะที่ประกอบขึ้นเป็นงานศิลปะชวนขนลุกที่ดูเหมือนทำขึ้นโดยฝีมือของสมาชิกที่ผุดขึ้นมาจากเมืองหลวงของนรกอย่างแพนเดโมเนียมได้มากพอกันกับเป็นแพนเดโมเนียมด้วยตัวของมันเอง


    กลิ่นฟอร์มัลดีไฮด์ฉุนกึกโอบล้อมรอบตัวเราและทะลวงผ่านผ้าปิดปากเข้ามาจู่โจมฆานประสาทของผมอย่างจัง ผมเริ่มเคืองตาเหมือนเป็นภูมิแพ้ ผมเห็นลีโอผงะไปนิดหนึ่งเพราะกลิ่นและภาพที่เห็นด้วยเช่นกัน แม้ว่าแพทย์นิติเวชอย่างเขาจะคุ้นเคยกับศพในทุกสภาพมามากกว่าทุกคนก็ตาม


    ใต้หน้าต่างที่แตก เศษอวัยวะภายในของมนุษย์เกลื่อนกระจาย กระเป๋านักเรียนยังนอนนิ่งอยู่บนพื้นกระเบื้อง


    เหนือเตาผิงมีขวดโหลวางเรียงอยู่อย่างเป็นระเบียบ ในขวดโหลนั้นมีชิ้นส่วนของอวัยวะมนุษย์ พืช และสัตว์อยู่รวมกัน เหมือนโหลเก็บตัวอย่างทางชีววิทยาแต่ในขณะเดียวกันก็เหมือนกับสวนขวดที่สร้างขึ้นโดยฝีมือของคนที่มีวิธีการมองความสวยงามที่ผิดแผกไปจากมนุษย์ปกติ


    ขวดใบหนึ่งเป็นชิ้นส่วนแขนท่อนล่างของเด็กจนถึงมือ ปลายแขนหุ้มไว้ด้วยผ้าลูกไม้สีขาว มืออ้วนป้อมข้างนั้นถูกจัดให้อยู่ในลักษณะที่กำลังถือดอกบลูเบลล์ที่มีแมลงเต่าทองเกาะอยู่ ส่วนในขวดอีกใบหนึ่ง เป็นกบที่ถูกชำแหละส่วนท้องเผยให้เห็นอวัยวะภายใน อยู่ในโหลที่มีฉากหลังเป็นกิ่งและใบสนแผ่เป็นแผงเหมือนภาพวาดหรือภาพพิมพ์


    สิ่งที่โดดเด่นที่สุดและทำให้ผมชะงักถอยจนเกือบชนกับลีโอที่ยืนเยื้องออกไปด้านหลัง คือ ศีรษะของหญิงสาวที่กะโหลกศีรษะถูกผ่าเปิด ดวงตาสีน้ำตาลเฮเซลของเธอหรี่ปรือ ริมฝีปากเผยอน้อย ๆ วางอยู่เหนือช่อกุหลาบที่จัดเรียงเป็นวงเหมือนมาลัย 


    อย่างที่พีทเตือน ทั้งกลิ่นฟอร์มาลีนและชิ้นส่วนต่าง ๆ ของมนุษย์ สัตว์ และพืชเหล่านั้นทำให้ท้องของผมปั่นป่วนไปหมด โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อหวนนึกถึงคดีฆาตกรรมต่อเนื่องที่จบสิ้นไปแล้วเมื่อปีก่อน 


    หากมองเฉพาะองค์ประกอบเชิงศิลปะ สิ่งที่อยู่ตรงหน้าของผมเหล่านี้เป็นเหมือนกับนิทรรศการภาพศิลปะจากศิลปินที่นิยมวาดภาพความรุนแรง สยองขวัญ และบิดเบี้ยวไปจากความรับรู้ของคนปกติ แต่ในเวลาเดียวกัน ก็สวยงามจนกระทบต่อความรู้สึกผิดชอบชั่วดีในตัวและนิยามของคำว่าสุนทรียภาพอย่างหนักหน่วง เป็นความรู้สึกก้ำกึ่งเหมือนเวลาดูภาพวาดของยามาโมโตะ ทาคาโตะ หรืออนาโตมิคอล วีนัสของคลีเมนเต ซูซินี ที่ถูกจัดวางเอาไว้ราวกับเป็นตัวอย่างทางชีววิทยาในพิพิธภัณฑ์ฮันเตอเรียนหรือพิพิธภัณฑ์สัตววิทยาแกรนท์ของยูซีแอล (University College of London) แต่นี่เป็นผลงานศิลปะที่สร้างขึ้นจากซากสิ่งมีชีวิตที่เคยเป็นมนุษย์ ซึ่งไม่อาจรู้ได้เลยว่าที่มาของชิ้นส่วนเหล่านี้มาจากไหน และเกิดขึ้นจากฝีมือของใคร 


    แม้จะเป็นผลงานที่เหมือนจัดแสดงอยู่ในพิพิธภัณฑ์ในกลางนรก เป็นสิ่งที่ผมเชื่อว่าตัวเองไม่เคยเห็นมาก่อน แต่มีอะไรบางอย่างที่ทำให้ผมอดรู้สึกไม่ได้ว่า องค์ประกอบที่รวมกันเป็น ‘งานศิลป์’ ในขวดโหลมีอะไรบางอย่างที่คุ้นตา เหมือนกับว่า ผมเคยเห็นงานทำนองนี้ผ่านตามาจากที่ไหนสักแห่งหนึ่ง

     
    ผมเบือนหน้าหนีจากอะไรก็ตามที่อยู่ตรงหน้าไปเพื่อตั้งสติชั่วครู่ และพบว่าลีโอที่ยืนนิ่งอยู่ด้านหลังเหมือนตกอยู่ในภวังค์พึมพำอะไรบางอย่างออกมา


    “นี่มัน... เฟรเดอริค รุช”



    To be continued... Day 3: Sweet

    ---------------------------- 

    cover image: "The Last Judgement"  by Hieronymus Borsch


Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in