ผมมีมือคู่นี้ที่คอยสีไวโอลิน สร้างเสียงเพลงอันไพเราะจากหน้าต่างบานสีขาวบริสุทธิ์ หวังพึ่งสายลมให้พัดพาบทขับกล่อมนี่ไปยังประตูสีแดงที่อยู่ไม่ห่างไกล
ผมมีรอยยิ้มอันอบอุ่น หวังให้ดอกทานตะวันได้เบ่งบานและหันมามองทางที่เขาเฝ้ารอ ความอบอุ่น ความสว่างสไวที่จะไม่มีวันจืดจางไปตามกาลเวลา
ผมมีปากที่กล่าวคำหวานนุ่มนวลชวนฟัง หากแต่คำพูดนั้น ความหวานละมุนเหล่านั้นถูกกักเก็บไว้เพื่อรอวันที่ฝนพร่ำจะสงบลง รอวันที่เสียงรบกวนรอบกายจะสลายหายไป ให้มือที่ปิดกั้นใบหูนั่นลดลง
ผมมีขา...และไม้เท้า คอยช่วยนำทางไปตามที่จิตใต้สำนึกสั่งการ มีแรงมากพอที่จะก้าวเดินต่อไปด้วยใจพยายามและความหวังที่ไม่อาจมองเห็นได้ มีเพียงมโนภาพถึงปลายทางที่ไร้ซึ่งเส้นชัย ไร้เป้าหมาย ไร้...บุคคลที่รอคอย
ไม่สิ… ผมเชื่อว่าเขาอยู่ตรงนั้น
ต้องอยู่ตรงนั้น
ไม่ว่าจะที่ใด...ผมยังคงมีความหวัง
หวังให้เสียงเพลงนี่ได้ช่วยจรรโลงหัวใจของเขา…
หวังให้เขารับรู้ว่ารอยยิ้มนี่มีเพื่อเขา…
หวังให้คำพูดของผมสื่อไปถึงเขา…
และหวัง...ให้สักวันหนึ่ง คุณจะหยุดและหันมามองผม เดินมาหาผม จับมือผม และโอบกอดผม เหมือนในวันนั้นที่ผมล้มลงและคุณได้ช่วยไว้
ผมไม่มีวันลืมสัมผัสของคุณ
แม้ผมจะไม่สามารถวาดภาพใบหน้าของคุณออกมาได้ ไม่สามารถ...มองเห็นด้วยตาคู่นี้ แต่ผมจดจำได้ทุกอย่าง...ที่เป็นคุณ
ความอบอุ่นจากผิวกาย…
กลิ่นของคุณที่เหมือนดอกไม้ในยามเช้า…
มือที่กุมมือของผมจนน่าอุ่นใจ…
เสียงใสที่ไร้ความเสแสร้ง…
และความอ่อนโยนที่ช่วยเหลือผมเอาไว้…
หากแลกกับพรนานับประการที่ผมจะขอกับดาวตกที่ผมไม่เคยมีโอกาสได้ชื่นชมมัน
ถ้ามันจะทำให้เป็นจริงได้...ผมจะขอเพียงข้อเดียวเท่านั้น
ขอให้คุณรับรู้ตัวตนของผม...ที่เฝ้ามองคุณด้วยหัวใจ
อยากให้คุณรู้...ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ไม่ว่าคุณจะเป็นใคร
...หัวใจของผมจะมีเพียงคุณตลอดไป
ผมรักคุณครับ
รักด้วยหัวใจ… ช่วยรับรู้เสียที
================================
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in