เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
Is it time to go yet?Elio Alba
ชายหาดและเด็กหนุ่ม

  • พระจันทร์เต็มดวงแสงส่องสว่าง วับวาบระยิบระยับ เด็กหนุ่มผู้หนึ่ง ได้นั่งจ้องไปยัง ท้องฟ้ายามราตรีที่ มีหมู่ดาวพร่างพราย เปล่งประกาย หยอกล้อกันไปมา ลมพัดพาไอเย็นยะเยือก ให้ผ่านร่างของเด็กหนุ่มไป ราวก่ำแกล้ง ให้เหน็บหนาวจนกายาสั่น แต่เด็กหนุ่มผู้นั้นกลับ นั่งนึ่งเฉยและยังคงมองไปยัง ชายหาดที่อยู่ภายหน้าของเขา วิวทิวทัศน์ที่งดงามดังภาพวาด ตราตรึงราว มนต์สกดให้เด็กหนุ่มผู้นั้น จ้องมองไปยังที่มัน ในมือข้างขวาของเขา เหน็บยาสูบที่กำลังเผาไหม้เอาไว้ และมือข้างซ้ายวางไว้ที่หน้าตัก ทุกอย่างรอบตัวของเขาเงียบสงัด เว้นแต่เสียงคลื่นที่กระทบกับผืนน้ำ ดังกังวานกึกก้องในหู แต่กลับกันจิตใจของเด็กหนุ่มผู้นั้นกลับว่างเปล่า


    เขาจ้องมองไปที่ท้องทะเล ที่มีแสงจันทร์กระทบ ทำให้สะท้อนออกมา สวยงามกว่าคืนไหนๆ แต่เขากลับไม่สามารถเสพสมกับความงามที่อยู่ตรงหน้าเขาได้เลย เขาได้แต่จ้องมองมันด้วยสายตาอันว่างเปล่าราวกับว่าตัวเขากำลังจ้องผ่านจากซี่เหล็กของห้องขังห้องหนึ่ง แต่ในความเป็นจริงแล้ว มันอยู่แค่ตรงหน้าของเขาเพียงเท่านั้น ถึงแม้จิตใจของเขาจะโหยหามันเพียงใดแต่ในสมองของเขากลับว่างเปล่า คล้ายกับนกที่อยู่ในกรง ที่พยายามจะโพบินออกไปสู้ท่องนภากว้างแต่กลับถูกกรงไม้ กักขังเอาไว้


    น้ำตาเม็ดใสค่อยๆไหลนองออกมาจากสองนัยนา จนจรดแก้ม ตาของเขาเริ่มกล่ำแดง และ บวมเป่ง ควันยาสูบและลมทะเล ร่วมกันร้องบรรเลงเพลงวายุ กลายเป็นหนึ่งลอยละเวกไปอีกทิศอีกทาง เขานำยาสูบในมือข้าวขวาขึ้น มาสูบฟอดใหญ่ ก่อนจะปล่อยให้ควันกลุ่มใหญ่ได้ลอยละล่องบรรเลงตาม วายุน้อยที่พัดผ่านเขาไป แววตาว่างเปล่ายังคงจ้องมองไปที่ผืนน้ำทะเลที่สะท้อนรัตติกร พรางสะอื้นความเจ็บปวดที่อยู่ภายในออกมา


    แม้ภายในจิตใจของเขาจะมีแต่ความว่างเปล่า แต่กลับเต็มไปด้วยความเจ็บปวดเช่นกัน ความว่างเปล่าค่อยๆกัดกินจิตใจของเขาไปทีละเสี้ยวจน ในตอนนี้กลับเหลือเพียง เศษผงของดวงจิต ที่ไร้ซึ้งวิญญาน จิตใจที่ว่างเปล่า ในร่างกายหยาบ ราวกับหุ่นขี้ผึ้งที่มีลมหายใจ


    มือซ้ายที่เคยพักนึ่ง กลับมาแข็งกร้าว กอดตัวเองเอาไว้แน่น "ทุกอย่างมันจะดีขึ้นเอง" เขากล่าวปลอบประโลมตนเองในใจ พรางเอามือซ้ายค่อยๆลูบอกตนเองเพื่อเป็นการเรียกสติของตนให้กลับมา


    สายตาของเขาเริ่มพล่ามัว น้ำตาปนแรงลมที่ซัดโหมกระหน่ำ ค่อยๆกลืนกินเขาเข้าไปในยามค่ำคืน เขาก้มหัวลง พร้อมมองไปที่ยาสูบที่เผาไหม้จนหมดมวน เขาปามันทิ้งไปและ ลุกขึ้นพร้อมลุกขึ้นเดินออกมาจุดนั้น พร้อมภาวนาให้สายลมที่พัดผ่านนำพาความเจ็บปวด ของเขาไปกับมันด้วย และในทุกครั้งที่จิตใจเขาหนักอึ้ง เขาจะกลับมาอีก กลับมาที่นี้ ที่ที่เขาทิ้งเศษของวิญญานที่แตกสลายเอาไว้


Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in