1
อีกเรื่องที่ชอบมากจากหนังสือคือคำแนะนำของคนเขียน มันเป็นอะไรที่เรียบง่าย เป็นเหตุเป็นผลในเชิงปฎิบัติมาก รู้เลยว่าลุงคิมแกเป็นคนจริงจังกับชีวิตตั้งแต่วัยรุ่นเลย ทำเก่งขนาดนี้นะ
2
สำหรับตอนนี้เป็นการรวบรวม เคล็ดลับการพัฒนาตัวเองที่ผมชอบมาแบ่งปันกันนะครับ
เดินและวิ่งใต้แสงอาทิตย์
เวลาจะพัฒนาอะไรเริ่มแรกก็ต้องทำร่างกายและจิตใจตัวเองให้พร้อมก่อน
ถ้าอยากเป็นอิสระจากอารมณ์ทั้งหลาย ให้ลองวิ่ง 5 กิโลเมตรดื่มเหล้าให้น้อยลง เลิกสูบบุหรี่ จงเริ่มทำดู ไม่ใช่เพื่อร่างกายแต่เพื่อจิตใจของเรา
นอกจากนั้นยังพูดเรื่องการใช้เวลาให้ได้เกิดประโยชน์สูงสุด
งานที่ทำได้ภายใน 15 นาที ให้ลงมือทำทันที
ถ้ามีเศษเวลาเล็กน้อยให้นอนหรืออ่านหนังสือพิมพ์
(อันนี้ลองทำดูแล้ว เค้าบอกว่า power nap มันมีประโยชน์จริงๆนะครับ)
เลิกงานอดิเรกที่มีไปเพื่อ “ฆ่าเวลา” เท่านั้น
ให้ลงทุนกับความฝันของคุณเอง หนึ่งเดือน หนึ่งความฝัน จงหา “งานที่แล้วไม่ได้เงินเลย”ดูแต่ต้องมีเป้าหมายที่แน่ชัดว่า "จะทำงานนี้ไปทำไม”
เราสามารถสะสมประสบการณ์ทางอ้อมได้จากการอ่าน เป็นอีกหนึ่งข้อที่เห็นด้วยมากๆ ผมรู้สึกว่าการอ่าน (โดยเฉพาะจากหนังสือเป็นเล่ม) เนี่ย มันมีความพิเศษบางอย่างที่ทำให้เราได้เรียนรู้อะไรมากขึ้นมาก ไม่ว่าเนื้อหาจะเป็นเรื่องอะไรก็ตาม
จงโฟกัสไปที่จุดเดียว แต่คงไว้ซึ่งความยืดหยุ่น
การกำหนดความตั้งใจขึ้นเพียงอย่างเดียว แล้วลงมือทำซ้ำๆจนเคยชินน่าจะดีกว่า แต่ลุงคิมก็ยังสอนให้เราเปิดกว้างกับโอกาสที่เข้ามาโดยเล่าผ่านถึงนักเขียนการ์ตูนในเวปไซต์คนหนึ่ง
ถ้าเขายึดกับความเชื่อที่ว่า จะต้องตีพิมพ์ผลงานในนิตยสานการ์ตูนเท่านั้นก็คงไม่มีทางประสบความสำเร็จได้เหมือนทุกวันนี้
หากผูกมัดตัวเองไว้กับงานหนึ่งนานเกินไป ความสามารถที่ถูกซ่อนอยาอาจถูกฝังกลบจนมิดความกล้าหาญที่จะเริ่มต้นชีวิตใหม่จะค่อยๆ หมดไป
ถ้าคุณจำเป็นต้องฝึกฝนความสามารถด้านหนึ่งให้เก่งกาจ ผมขอเสนอให้คุณฝึกฝนความสามารถทางการเขียน เพราะเราสามารถเอาพื้นฐานด้านการเขียน(เล่าเรื่อง)ไปเป็น platform ต่อยอดความสามารถของเราได้อย่างตัวอย่างของนักเขียนหนังสือ traveling experience ชื่อดังคนนี้
" ถ้าพูดให้ถูก ฝีมือการเขียนของเธอไม่ได้ดีเลิศถึงขั้นที่เรียกได้ว่าเป็นปรมาจารย์ทางการเขียน ขณะเดียวกัน สำนักพิมพ์คงไม่ตีพิมพ์ผลงานของเธอ ถ้าฝีมือการเขียนแย่จนเกินไป การที่หนังสือของเธอดีรับการตอบรับที่ดีจากผู้อ่านเป็นเพราะเรื่องราวของเธอไม่ใช่แค่การเดินทาง แต่คือประสบการณ์ที่สร้างแรงบันดาลใจให้แก่ผู้อื่น "
อย่าหมดกำลังใจ ความค่อยเป็นค่อยไปคือคีย์
ทุกวันนี้ จะมีการอ้างถึงเด็กในยุคมิลเลนเนียลว่ามีข้อเสียคือ เป็นคนไม่ค่อยอดทน หมดกำลังใจง่าย ยอมแพ้ง่าย ซึ่งผมว่ามันก็จริงนะ มันก็สอดคล้องกับสภาพแวดล้อมที่เราโตมา ทั้งเศษฐกิจ ทัศนคติ และค่านิยมของโลกที่มันเปลี่ยนไปทำให้เรามีนิสัยแบบนี้กัน ลุงคิมเองก็เข้าใจ ลุงบอกว่าอยากจะให้อดทน เห็นคุณค่าของตัวเอง และมองอุปสรรคเป็นสิ่งที่จะผลิดอกออกผล ให้รางวัลเราในอนาคตครับ
พฤติกรรมเคยชินไม่ใช่สิ่งที่จะแก้ไขได้ด้วยความตั้งใจแต่จะต้องแก้ไขอย่างต่อเนื่องและสม่ำเสมอ การลงทุนวันละ 1 ชั่วโมง เป็นเวลา 1 ปีให้กำไรที่คุ้มค่าแก่ชีวิต
เรือยิ่งเบายิ่งบายได้เร็ว แต่เรือส่วนใหญ่มักบรรทุกสัมภาระหนักๆไว้ใต้ท้องเรือ
แบงค์หมื่อนวอนถึงจะยับยู่ยี่เพียงใด ก็มีค่าเท่ากับแบงค์หมื่นวอน
หลังจากอ่านหนังสือเล่มนี้จบ ทุกครั้งที่ผมท้อเมื่อไรเนี่ย จะพยายามระลึกถึงประโยคสุดท้ายนี้ให้ได้ขึ้นใจเลย (จริงๆ ก็เคยถูกสอนมาบ้างแล้วแหละ แต่ชอบลืมตัวปล่อยให้ตัวเองจมอยู่กับความโศกอยู่เรื่อย) ข้อความมีอยู่ว่า
ความสามารถในการข่มใจต่อปัจจุบันเพื่ออนาคต เป็นหลักสำคัญที่ทำให้ชีวิตประสบความสำเร็จแม้วันนี้ลำบากจนอยากอยากตาย แต่อาจมีใครหลายคน ปราถนาอยากเป็นคุณ
(จบตอนที่2)
ย้อนกลับไปอ่านตอนที่ 1
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in