จำร้านเนื้อโกเบในบทที่แล้วได้ไหม... นั่นแหละคือที่มาของการเปลี่ยนแผนเที่ยวทั้งหมดในวันนี้ล่ะ...
เดิมทีเราตั้งใจว่าช่วงเช้าจะเดินสำรวจ ย่าน Umeda และกินวนไปในย่าน Nagazakicho และช่วงบ่ายจะพาเขาไปละลายเงินเยนที่ Denden Town แต่แล้วเราก็เดินผ่านร้านเนื้อโกเบร้านนั้น แหม่...ไหนๆก็มาถึงที่นี่แล้วแถมวันนี้เป็นวันที่สามารถบัตร JR Wide Area Pass เป็นวันสุดท้าย เราจะอยู่ในโอซาก้ากันจริงๆเร้ออออออออ ออกไปกินเนื้อโกเบกันดีกว่า!
และไหนๆเราก็นั่งรถไฟมาทางตะวันตกแล้ว ก็นั่งเลยมาที่ ฮิเมะจิ เลยมั๊ยล่ะ เยี่ยมชม ปราสาทฮิเมะจิ หรือ ปราสาทนกกระสาขาว มรดกโลกแห่งแรกของประเทศญี่ปุ่นซึ่งเป็นปราสาทเพียงหนึ่งเดียวที่ไม่เคยถูกทำลายทั้งในยุคของสงครามต่างๆและเหตุจากภัยธรรมชาติ
เมื่อคิดได้ดังนี้ก็เสนอแผนการท่องเที่ยวใหม่ให้กับคนร่วมทาง หลอกล่อด้วยร้าน Steak Land ที่โกเบว่าเราจะไปกินร้านนี้นะ ดังมาก อร่อยมาก เนื้อนี่แบบสุดยอดดดดดดดดดด เขาก็เออออห่อหมก ลืมร้านของเล่นไปเสียสิ้น ไปก็ไป จะได้ใช้บัตร JR ให้คุ้มค่าด้วย
วันนี้เราเลยตื่นแต่เช้าตรู่มารับละอองฝนและลมกรรโชกแรง วิ่งไปซื้อร่มใสๆที่ร้านดองกี้แถวสถานีโอซาก้า (ต้องร่มใส จะได้ถ่ายรูปสวยๆ ส่วนร่มที่เราเอามาเองก็ให้เขาถือไป ฮิฮิ) วิ่งซื้อข้าวกล่องเซเว่น (ร้านข้าวกล่องรถไฟยังไม่เปิด แง้) และวิ่งขึ้นรถไฟ นั่งยิงยาวไปที่สถานีฮิเมะจิ
เดินจากสถานีออกมาแล้วเลี้ยวซ้ายจะเจอกับป้ายรถเมล์
เล็งดีๆว่าสายไหนไปที่ปราสาทแล้วก็โดดขึ้นไปเล้ย
ชั้นสองของสถานีเป็นจุดถ่ายภาพที่สวยเลยล่ะ จะเห็นเป็นถนนตัดตรงไป มีต้นไม้และตึกขนาบสองข้าง
ไกลลิบๆเป็นตัวปราสาท แต่อากาศขมุกขมัวฟ้าครึ้มหยาดฝนโปรยปรายแบบนี้ก็ขอผ่านไปด้วยความเสียดายยยยย
สองข้างทางของถนนเส้นหลักเส้นนี้มีต้นแปะก๊วยที่กำลังเป็นใบเหลืองๆน่ารักมากเลยล่ะ
ถึงแล้วจ้า ปราสาทนกกระสาขาว
ที่ได้ชื่อนี้มาเพราะความผ่องอร่ามงามนวลเนียนของสีปราสาทนั่นเอง
ปราสาทฮิเมะจิ เป็นปราสาทที่มีอาณาบริเวณกว้างขวางมาก มีอาคารอยู่ภายในจำนวน 80 หลังที่เชื่อมต่อกันทั้งหมดโดยมีกำแพงและประตูกั้นแต่ละส่วน ปราสาทแห่งนี้ได้ชื่อว่าเป็นปราสาทประจำฤดูใบไม้ผลิเพราะมีสวนที่เต็มไปด้วยต้นซากุระมากมาย หากกูเกิลภาพของปราสาทนี้ก็จะเจอภาพในฤดูใบไม้ผลิทั้งนั้นเลยล่ะ (แต่เรามาในฤดูใบไม้ร่วง ก็ไม่เป็นไรนะ แฮ่)
ที่ชั้นบนสุดของปราสาทจะศาลเจ้าและมีช่องสำหรับดูวิวได้รอบทิศทาง ทำให้มองเห็นอาณาบริเวณของปราสาทและตัวเมืองฮิเมะจิทั้งหมด
ถัดจากคูน้ำรอบๆปราสาทก็เจอกับประตูทางเข้าหลัก
กว้างมากจ้า ที่เห็นเป็นตัวอาคารนั้นคือแค่เขตรอบๆกำแพงปราสาทช้้นในเท่านั้น
เห็นมะ ใช้ร่มใสแล้วชีวิตจะดี
ปราสาทฮิเมะจิแห่งนี้ยังเป็นต้นกำเนิดของตำนานพื้นบ้านเกี่ยวกับผีที่ขึ้นเรื่องหนึ่งของญี่ปุ่น นั่นคือเรื่อง ผีนับจาน ซึ่งเป็นเรื่องราวของโอะกิคุ สาวใช้ของซามูไรผู้หนึ่งที่ทำจานล้ำค่าของตระกูลซามูไรแตก นางจึงถูกลงโทษด้วยการโยนร่างลงในบ่อน้ำ เวลาค่ำคืนจะมีผู้ได้ยินเสียงผู้หญิงโหยหวนดังมาจากบ่อน้ำเป็นเสียงนับจานช้าๆ หนึ่งถึงเก้าไปเรื่อยๆ แต่นับไม่ถึงสิบเพราะนางทำจานแตกไง นางก็จะเกรี้ยวกราดคร่ำครวญหาจาน ซึ่งบ่อน้ำในเรื่องยังคงอยู่ยั่งยืนยงมาจนถึงทุกวันนี้ สำหรับตัวตำนานก็มีเล่าแตกต่างกันไปบ้าง แต่อันที่เป็นทางการ คนเล่าขานกันเยอะที่สุดก็คืออันนี้แหละจ้ะ
จริงๆมาในฤดูใบไม้ร่วงก็สวยเหมือนกันนะ
ใจจริงแล้วเราอยากเข้าไปในตัวปราสาท ไหนๆก็มาแล้วก็เข้าเถอะ แต่คนที่มาด้วยออกความเห็นว่าไม่อยากเข้าไปเพราะฝนทำท่าจะตกมาอีกระลอกนึง จะเดินทางลำบากเอานะ แถมอากาศแบบนี้ขึ้นไปถ่ายรูปชั้นบนที่จะเห็นเมืองฮิเมะจิก็คงไม่สวย (ส่วนเหตุผลเบื้องหลังที่แท้จริงคือร่ำร้องอยากจะไปกินสเต็กนั่นแหละ รู้ทันนะยะ)
เปลี่ยนหามุมถ่ายรูปไปเรื่อยๆ
เยี่ยมชมกระถางบอนไซประกวดที่เรียงรายอยู่แถวๆนั้น
และแวะเล่นกับน้องแมวนุ่มฟูริมทางเดิน
หวัดดีเจ้าเหมียว!
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in