Fictober 2018 Day 1: Poisonous
A/N: (Spin Off) Ordinary Man & The Killer
Rating: PG-13
อย่าไว้ใจทางอย่าวางใจคน แต่คนบางคนก็เผลอตัวเผลอใจไปแล้ว ลืมนึกถึงความเป็นจริงชั่วขณะ ตกอยู่ในห้วงรักจนมองไม่เห็นสิ่งใด ‘ความรักที่บิดเบี้ยว’ ซึ่งมีเพียงคนนอกเท่านั้นที่มองออก
คนนอกเฉกเช่นคุณ ย้อนกลับไปก่อนหน้า...ยามเมื่อรถคู่ใจของคุณพังอยู่ข้างทางในสถานที่ที่ดูจะรกร้าง พร้อมกับกระเป๋าตังค์ที่หายไปตอนไหนก็ไม่อาจรู้ คุณจึงได้เจอกับพวกเขาเป็นครั้งแรก
นักฆ่ากับคนธรรมดา คุณโบกรถเรียกให้พวกเขาช่วย และขอติดรถกลับบ้าน ซึ่งเวลานั้นคุณรู้สึกว่าเป็นโชคดีเหลือเกินที่คนทั้งคู่กำลังเดินทางไปในที่ที่คุณจะไป
โชคดี...ที่ภายหลังพลิกกลับเป็นโชคร้าย ทันทีที่ก้าวขึ้นรถกระป๋องคันนั้น คุณคิดว่าทั้งสองคนนั้นเป็นเพื่อนหรือไม่ก็พี่น้องกัน แต่แล้วคุณก็ได้พบว่าคนหนึ่งที่เป็นเหมือนผู้นำนั้นควบคุมทุกอย่าง เขาดูนิ่งเงียบ ใจเย็น สุขุม ขณะที่อีกคนนั้นดูเหมือนตื่นกลัวอะไรอยู่สักอย่าง ไม่มั่นใจ ลังเลใจ ท่าทางล่อกแล่ก ซึ่งกิริยาเหล่านั้นทำให้คุณตงิดใจ หากแต่สุดท้ายก็ไม่ได้ใส่ใจอะไรจริงจัง
เวลาผ่านไปการเดินทางหลายพันไมล์ที่เหมือนจะเนิ่นนานก็กลับนานมากขึ้นไปอีก เมื่อรถกระป๋องที่คุณนั่งมาด้วยนั้นดูอาการไม่ค่อยดี การเดินทางจึงสะดุดอยู่บ่อยครั้ง แต่เพราะอย่างนั้นคุณถึงมีโอกาสได้ทำความรู้จักกับเพื่อนร่วมเดินทางทั้งสองทีละน้อย คุณกับคนที่คุณเรียกเขาในใจว่า
‘ผู้ตาม’ คุยกันถูกคอ แม้ในทีแรกอีกฝ่ายเหมือนจะเกร็ง ๆ อยู่บ้าง แต่ไม่นานคุณก็รู้สึกสนิทสนมกับเขาอย่างรวดเร็ว
ขณะที่ใครอีกคนที่คุณเรียกว่า ‘ผู้นำ’ ค่อนข้างจะสงวนท่าที แต่ก็ไม่ได้แสดงอาการไม่พอใจหรือทำตัวไม่สุภาพอะไรกับคุณ ซึ่งตอนนั้นคุณคิดว่าเขาอาจจะไม่ใช่คนช่างพูดเท่าไหร่นัก จึงเลือกจะเงียบมากกว่าคุยเรื่อยเปื่อย ทว่ารวม ๆ แล้วคุณก็รู้สึกว่าพวกเขาไม่ได้เลวร้ายอะไร พอจะคบหากันได้...หลงคิดว่ามันจะเป็นแบบนั้น
จนกระทั่งใครคนหนึ่งร้องเตือนคุณ
ระหว่างที่คนที่ไม่ค่อยเสวนานั้นเดินไปทำธุระส่วนตัว ใครอีกคนก็มีท่าทีหวาดระแวงก่อนจะเขยิบเข้ามาใกล้คุณแล้วกระซิบ
“หนีไป เขาไว้ใจไม่ได้”
เวลานั้นคุณไม่เข้าใจว่าคำเตือนนั้นหมายถึงอะไร เพราะถ้าชายคนนั้นไว้ใจไม่ได้ แล้วเพราะอะไรคนตรงหน้าถึงยังอยู่กับเขา...
ราวกับมองออกว่าคุณนึกตั้งคำถามในใจ พรายกระซิบจึงพูดขึ้นมาอีกครั้งด้วยเสียงแผ่วเบา
“ผมไม่เหมือนคุณ”
คำตอบของคำถามภายในใจที่คุณยังคงไม่เข้าใจอยู่ดีว่ามันคือเรื่องอะไรกันแน่ กระทั่งได้เดินทางไปด้วยกันเรื่อย ๆ คุณจึงค่อย ๆ มองเห็น
สายสัมพันธ์ที่ผิดเพี้ยน
แต่ก็ยังไม่แน่ใจอะไร จนวันที่เสียงปืนดังสนั่น ยามเมื่อชายคนนั้นลงมือสังหารคนกลุ่มหนึ่งที่เจอระหว่างการเดินทาง แววตาของเขาไร้ความลังเลหรือความเกรงกลัวใด ๆ และเขาก็ไม่พูดอะไร มีเพียงแค่เสียงปืนที่ดังอยู่ครู่หนึ่งพร้อมกับร่างที่ไร้ลมหายใจของคนสี่คน
กลิ่นคาวเลือดคละคลุ้ง
วินาทีนั้นสมองของคุณที่ปกติจำอะไรแทบไม่เคยได้เลยก็ดันมีความทรงจำบางอย่างแทรกผ่านเข้ามา รายงานข่าวในเช้าวันหนึ่งที่เนื้อหากล่าวถึงนักฆ่าเลือดเย็นที่ทางการต้องการตัว และใบหน้าก็คล้ายคลึงกับหนึ่งในเพื่อนร่วมเดินทางของคุณ
ชั่วขณะนั้น...ใจคุณสะท้าน
ทุกอย่างกระจ่างชัด เข้าใจถึงคำเตือนพวกนั้นอย่างถ่องแท้ ในหัวคุณกำลังเริ่มคิดแผนการที่จะหลบหนีไปจากมัจจุราชตนนั้น ทว่าฉับพลันคุณก็นึกถึงใครอีกคนหนึ่งขึ้นมา
พรายกระซิบของคุณ
“ไปจากเขาซะในตอนที่ยังมีเวลา” คุณเอ่ยเตือนพรายกระซิบคนนั้นแบบเดียวกันกับที่เขาเตือนคุณ คนตรงหน้าออกปากว่าคนคนนั้นไว้ใจไม่ได้ บอกให้คุณรีบหนีไป แต่ตัวเองกลับไม่มีท่าทีจะคิดหนี
คุณไม่รู้ว่าอีกฝ่ายเอาอะไรมาแน่ใจว่าตัวเองจะไม่ถูกฆ่าในวันใดวันหนึ่ง
ทั้ง ๆ ที่นักฆ่าไม่มีวันหยุดฆ่า
“รีบไปก่อนจะถูกฆ่า” คุณเอ่ยย้ำอีกครั้ง ทว่าอีกฝ่ายก็ยังคงรั้น ในความดื้อดึงนั้นคุณมองออกว่ามันมีบางอย่างแอบแฝงอยู่
คนธรรมดาตกหลุมรักนักฆ่า
นี่ไม่ใช่นิยายรักน้ำเน่า หากแต่เป็นเรื่องที่โง่งม เรื่องราวของคนโง่ที่ไม่รู้ว่าตัวเองกำลังทำอะไรอยู่ และรักต้องห้ามก็ไม่ใช่คำจำกัดความของเรื่องนี้ หากแต่เป็นเรื่องของผู้ที่หลงใหลในรัก ดื่มด่ำกับรักที่เป็นพิษ สายตาพร่ามัวจนมองไม่เห็นความจริง ความรักอาจทำให้คนตาบอด แต่ดูเหมือนว่าคนที่คุณห่วงใยนั้นจะหนักข้อยิ่งกว่า
ทั้งที่รู้แต่ก็ยังไล่ตามรักนั้นไปยังขุมนรก
ทว่า...เลวร้ายไปกว่านั้นกลับเป็นตัวคุณเอง ทั้งที่มีโอกาสหนี แต่คุณก็ยังคงรั้งรอคนตาบอดคนนั้น นึกด่าในใจเป็นร้อยครั้งว่าเจ้าพรายกระซิบนั่นช่างขลาดเขลา แต่ตอนนี้คุณชักไม่แน่ใจแล้วว่าสิ่งที่คิดกับสิ่งที่เป็นมันเหมือนกันหรือเปล่า
บางทีอีกฝ่ายอาจแค่ยึดมั่นในรัก
บางทีอาจเป็นคุณเองที่เป็นคนโง่
จริงอยู่ว่านักฆ่าจะไม่มีวันหยุดฆ่า หากแต่พรายกระซิบของคุณนั้นก็ยังคงสถานะเป็นผู้ตาม เพราะอย่างนั้นนักฆ่าถึงได้ไม่ฆ่าเขา คนธรรมดาคนนั้นอาจไม่ได้ธรรมดาอย่างที่คุณคิด สถานะผู้ตามอาจเป็นสิ่งการันตีว่าเขามีความพิเศษบางอย่างที่นักฆ่าพึงใจ อาจไม่ตลอดไป แต่อย่างน้อยก็ในตอนนี้…
ในตอนที่คนธรรมดายังไม่หมดความสำคัญ
ตรงกันข้ามกับคุณ ตัวคุณที่เป็นเพียง ‘คนแปลกหน้า’ เป็นเพียงคนธรรมดาที่กำลังเดือดร้อนจนต้องมาขอพึ่งพาคนที่มือเปื้อนเลือด ต้องมาพบเจอกับเรื่องราวอันตรายเกินกว่าจะคาดเดา หนำซ้ำยังต้องพิษร้ายโดยไม่รู้ตัว...
นับตั้งแต่วินาทีที่ให้ความสนใจกับใครคนนั้นมากเกินไป
ชั่วขณะ...ที่ได้สบตาคู่นั้น
พิษร้ายก็ได้แทรกซึมเข้าสู่หัวใจของคุณแล้ว
ทั้งห่วงใย ทั้งรั้ง ทั้งรอ ทั้งเรียกหา ทว่าคนธรรมดาคนนั้นก็ไม่ได้ฟังเสียงของคุณ นอกจากคำเตือนพวกนั้นกับการได้พูดคุยกันในช่วงระยะเวลาหนึ่งนั้นแล้ว เขาก็ไม่แม้แต่จะมองมาที่คุณ ความสนิทสนมที่คุณคิดว่ามันเกิดขึ้น แท้จริงแล้วมันไม่เคยเกิดขึ้นเลย เสียงเตือนของคุณไร้ความหมาย ความห่วงหาของคุณด้อยค่า เหนือสิ่งอื่นใดประตูทางออกนั้นได้ปิดลงแล้ว
หมดโอกาส หมดทางหนี
สายตาของผู้ตามยังคงมองไปที่คนคนเดียว วินาทีนั้นคุณตระหนักได้ว่าพรายกระซิบของคุณไม่ได้ตาบอด แต่เป็นตัวคุณต่างหากที่รู้ทุกอย่างดีแก่ใจว่าอะไรเป็นอะไร แต่ก็ยังพยายามจะฉุดกระชากมือคู่นั้นให้ออกเดินทางไปกับคุณ และกว่าจะรู้ว่าตัวเองตาบอดเพราะรัก...
นักฆ่าก็ได้ลั่นไกแล้ว
----------------------------------------------------------------
-The End-
02/10/2018 เวลา 23.02น.
----------------------------------------------------------------
Talk: ภาคแยก(?) ของนักฆ่ากับคนธรรมดาที่คาดว่าจะแตกหน่อเป็นเดอะซีรีส์ค่ะ แต่ละตอนมีจุดเชื่อมกันนิดหน่อย อนึ่งเหตุการณ์ในเรื่องนี้ไม่ได้บอกว่าเรื่องของนักฆ่ากับคนธรรมดาหลังจากนี้จะจบที่รูท(?)ไหน ระหว่าง The Killer & Ordinary Man กับ Ordinary Man & The Killer นะคะ
P.S .เหมือนไม่ค่อยตรงโจทย์ (อีกแล้ว) แต่ก็เต็มที่แล้ว ฟิคโทเบอร์อะไร แค่วันแรกปาไป 5 หน้า ควรพอ
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in