Ordinary Man & The Killer
เขาว่ากันว่าความรักทำให้คนตาบอด แต่จะมีสักกี่คนที่อยากตกอยู่ในสภาพนั้น คำพูดพวกนี้มันไม่ใช่คำชม ติดจะออกเย้ยหยันอยู่ในทีด้วยซ้ำ ไม่ต่างอะไรกับการที่บอกว่ารักของคุณเป็นเรื่องลวงหลอก แล้วคุณก็เป็นคนโง่เง่าที่ถูกวิญญาณร้ายครอบงำ
วิญญาณร้ายที่ถือครองหัวใจของคุณ
เขาทำให้สายตาของคุณพร่ามัวเกินกว่าจะมองเห็นความเป็นจริง แม้ว่าความจริงเหล่านั้นจะอยู่ตรงหน้าแล้วก็ตาม แต่สิ่งที่คุณสนใจกลับมีเพียงรอยยิ้มที่นาน ๆ จะได้เห็นจากเขาสักครั้ง มีเพียงเสียงหัวเราะอย่างจริงใจที่เขาเผลอแสดงออกมา บรรยากาศรอบตัวเขาที่เริ่มทำให้คุณคลายกังวล คุณให้ความสำคัญกับเรื่องพวกนี้มากจนเกือบจะลืม...
ลืมว่าตัวตนที่แท้จริงของเขาคือใคร...แล้วคุณคือใคร
เขาเป็นนักฆ่าตัวเอ้ ส่วนคุณคือคนธรรมดาที่ดันติดร่างแหขึ้นรถห่วย ๆ ในสถานการณ์ที่ผิดปกติจนต้องมาจมอยู่กับเขา และเป็นปาฏิหาริย์อย่างที่สุดแล้วที่เขาไม่ฆ่าคุณ
‘ไปจากเขาซะในตอนที่ยังมีเวลา’
‘รีบไปก่อนจะถูกฆ่า’
ใครสักคนที่คุณเจอระหว่างการเดินทางกระซิบบอกคุณ แต่คุณก็ไม่ได้เชื่อในคำเตือนพวกนั้นสัก-เท่าไร เพราะคุณคิดว่าตัวเองอาจจะพิเศษสำหรับเขาคนนั้น
แต่มันก็แค่ ‘อาจจะ’
เป็นแค่การคาดเดาของคุณ ในความเป็นจริงสำหรับนักฆ่าแล้วไม่มีอะไรเลยที่พิเศษสำหรับเขา เว้นก็แต่คนบางคน ใครคนหนึ่งที่เขาพยายามตามหามาตลอด ยามเมื่อพูดถึงใครคนนั้นแววตาที่ติดจะเรียบเฉยอยู่ตลอดนั้นก็แปรเปลี่ยน น้ำเสียงตอนที่เล่าให้คุณฟังนั้นดูไม่มีอะไร ทว่าคุณก็สัมผัสได้ว่ามันมีบางอย่างแตกต่างออกไปจากทุกที
เวลานั้นเสียงในใจคุณกำลังร้องเตือน
แน่นอนว่าคุณไม่ได้ฟังจนคนที่คุณเจอระหว่างทางตอกย้ำคุณถึงเรื่องนี้อีกครั้ง เพราะมองออกว่าคุณเป็นใคร และเขาคนนั้นเป็นใคร...
แต่เพราะมองออกนั่นแหละถึงได้ถูกฆ่า
คนแปลกหน้าคนนั้นถูกฆ่าต่อหน้าคุณ เลือดของเขาไหลนองเต็มพื้น แต่คนลงมือฆ่าก็ยังคงนิ่งเฉย ขณะที่คุณเหมือนเพิ่งตื่นจากฝัน
ทว่าก็เพียงชั่วครู่เท่านั้น
สุดท้ายคุณก็ปล่อยให้ตัวเองจมลงไปในห้วงฝันนั้นอีกครั้ง ปิดหูปิดตา ทำเป็นไม่รับรู้อะไร นอกจากรู้แค่ว่าชอบใครคนนั้นมากเกินกว่าจะตัดใจแล้วหนีหายไป ยากเกินไปที่จะทำแบบนั้น จนกระทั่ง...
ได้รับรู้ความจริงว่าตัวเองกำลังจะถูกฆ่า
ใช่...เขาที่คุณชอบ หลงใหล และรักอย่างมากมายนั้นกำลังจะฆ่าคุณ
ฆ่าคุณเพื่อแลกกับชีวิตของใครอีกคนที่สำคัญสำหรับเขา
วินาทีนั้นใจคุณสั่นสะท้าน ความรู้สึกมากมายหลั่งไหลเข้ามาจนไม่รู้ว่าตัวเองรู้สึกยังไง ทุกอย่างมันปนเปกันไปหมด ทั้งหวาดกลัว สับสน โกรธ ผิดหวัง และเสียใจ กลัวตายแต่ก็เจ็บปวดจนไม่อยากทนมีชีวิตอยู่อีกต่อไป
หรือบางทีควรก้มหน้ายอมรับชะตากรรม ?
ยอมรับว่าตัวเองเป็นคนโง่
ยอมรับว่าตาคู่นี้มันมืดบอดจนมองไม่เห็นสิ่งใด
และใจดวงนี้ก็วางเฉยไม่รับรู้อะไร
กว่าจะรู้ตัว...ชีวิตก็กำลังเข้าใกล้ความตายเข้าไปทุกที
ควรทำยังไง...
ตัดพ้อกับตัวเองเป็นร้อยครั้ง และน้ำตายังคงไม่หยุดไหล นานจนเกือบหมดวัน หัวของคุณตื้อไปหมด พยายามคิดหาทางออก แต่ก็ยังมองไม่เห็นทางออกนั้น
จนตอนที่จวนเจียนจะไม่ทันเวลานั้น...
ชั่วขณะที่ลมหอบหนึ่งพัดผ่านมา...
คุณได้ยินเสียงกระซิบ...
หลังจากนั้นสายตาที่เคยพร่ามัวก็ค่อย ๆ กระจ่างชัด คุณย้อนนึกถึงเรื่องราวมากมายตลอดการเดินทางระหว่างคุณกับเขา ตั้งแต่ตอนที่พบกันครั้งแรก ตอนที่ได้พูดคุย ทั้งรอยยิ้ม และเสียงหัวเราะที่มีให้กับเรื่องไร้สาระบ้าบอในรถคันนั้น
เป็นความทรงจำที่ดี
หากแต่คุณเริ่มตระหนักแล้วว่าสิ่งเหล่านั้นก็ไม่ได้ดีพอที่คุณจะต้องสูญเสียทุกอย่างไปเพื่อมัน เขาคนนั้นไม่มีค่าพอที่คุณต้องเสียสละให้แม้กระทั่งชีวิต
คุณอาจเจ็บปวดเจียนตาย แต่คุณก็ยังไม่ตาย
จริงอยู่ว่าเขาอาจเป็นเจ้าของหัวใจคุณ แต่ไม่ใช่เจ้าของชีวิตคุณ แน่นอนว่าคุณอาจไม่โกรธที่เขาไม่รัก แต่ก็ควรโกรธที่เขาคิดฆ่าคุณเพราะคนอื่น และในเมื่อรักนี้ไม่ต่างอะไรกับยาพิษก็ไม่ควรโง่กินมันเข้าไป
แต่เมื่อเผลอกินมันเข้าไปแล้วก็อย่าปล่อยให้มันลุกลามจนสายเกินแก้
หัวใจอาจถูกพิษนั้นกร่อนทำลายจนแหลกสลาย แต่คุณยังคงมีชีวิต และตราบที่ยังมีลมหายใจ สัก-วันใจที่พังทลายนั้นจะได้รับการเยียวยา มันอาจจะใช้เวลาอีกนานแสนนาน
แต่ถึงที่สุดแล้วคุณจะไม่เป็นอะไร
ดังนั้นในตอนนี้...เมื่อถอยหลังกลับไม่ทันก็แค่กำจัดสิ่งที่คิดจะฉุดกระชากคุณให้จมลงไปในนรกนั้น อำลาให้กับความรักที่คอยทำร้ายคุณตลอดมา นักฆ่าไม่มีหัวใจ แต่ก็อย่าได้ลืมว่าตอนนี้หัวใจของคุณเองก็ถูกทำลายไปแล้วเช่นกัน
เพราะฉะนั้น...อย่าลังเลที่จะฆ่า
ก้มหน้ายอมรับชะตากรรมที่ไม่อาจเลี่ยง
ซ่อนปืนกระบอกเล็กที่ได้มาจากคนที่เจอระหว่างทางนั้นเอาไว้ข้างหลัง
เว้นระยะจนเหลือแค่คืบ
และเมื่อนักฆ่ากระซิบเอ่ยลาก่อนจะปลิดชีวิตคุณ
หลังจากนั้น...
…
…
…
ปัง!
เขาจะไม่มีวันทำร้ายคุณได้อีกตลอดไป
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in