ที่ผ่านมาตัวเราเองมักจะได้ยินกิตติศัพท์ของคนจีนที่มาเที่ยวไทยว่าแซงคิวหรือพูดจาโฉงเฉงข้ามหัวไปมา ซึ่งไม่เคยประสบกับตัวเองเลยจนกระทั่งวันนี้...
ปกติตอนเย็นหลังเลิกงานเราจะแวะไปออกกำลังที่โรงแรมบาซ่าโฮเทลที่สวนลุมไนท์รัชดา ก็จะเห็นว่ามีทัวร์ของคนจีนเข้ามาตลอด แต่ก็ไม่ดุเดือดเท่าวันนี้ และนี่คือสภาพหน้าลิฟต์ที่เราเห็นครั้งแรก
เยอะสัส... แต่ตอนนั้นก็ไม่ได้ถอดใจ อ่ะ ก็ยืนรอลิฟต์จะไปด้วย เราไปแค่ชั้น 4 เอง พอลิฟต์มา โดนพวกกรุ๊ปทัวร์อีกกรุ๊ปเบียดเข้าลิฟต์จนลิฟต์เต็ม อ่ะ รอก็รอ เดินไปลิฟต์อีกตัว ไปรอคนแรกๆ พอลิฟต์มาเท่านั้นแหละ มาอีกแล้วววว เบียดกูอีกแล้ว พอจะเดินเข้าแม่งเบียดแล้วตัดหน้าเราไม่ให้เข้า แล้วลิฟต์แม่ก็เต็ม... เอาเข้าไป ตอนนั้นเลยตัดสินใจหาบันไดเอาละกัน ชั้น 4 เอง ก็เลยถามพนักงาน Reception ที่หน้าโคตรเหวี่ยงว่ามีบันไดให้ขึ้นไปมั้ยครับ เค้าก็บอกว่า 'เดินตรงไปสุดนะคะ บันไดตรงกระจกเลย' อ่ะ ก็เลยเดินขึ้นไป พอถึงชั้น 4 ประตูล็อค... (T_T) มันเป็นประตูหนีไฟไง จะเปิดได้แต่ด้านใน ด้านนอกถึงมันมีที่จับมันก็เปิดไม่ได้ ตอนนั้นก็พยายามมองหาคนแถวนั้นให้มาเปิดให้ แต่ไม่มีใครสนใจเราเลย ก็เลยตัดสินใจเดินลงมารอลิฟต์อีกครั้ง
ตอนนั้นไม่มีคนเลยไปรอคนแรกเลย กะว่าต้องได้ขึ้นแน่ๆ เบียดมากูจะเบียดกลับแน่นอน แต่มันไม่เป็นแบบนั้นครับ พอลิฟต์มาปุ๊บ กรุ๊ปทัวร์ใหม่มาพอดี (ฉิบหายละไง) มายืนรอหน้าลิฟต์กันแล้ว แล้วคนในลิฟต์ก็ยังไม่ทันได้ออกเลยอ่ะ พี่จีนก็ดันๆๆๆ เบียดๆๆๆๆ ซึ่งอีนี่ก็จะเดินเข้าไปให้ได้ แต่พี่แกก็ไม่ยอมจริงๆ เบียดๆๆๆ จนลิฟต์เต็ม... ตอนนั้นอยากจะด่าใส่มาก แต่แม่งไม่รู้จะด่ายังไงเพราะไม่รู้คำด่าภาษาจีนเลย ฮืออ ก็เลยปล่อยให้พวกแม่งขึ้นไปกัน เราเลยเดินไปหาพนักงาน Reception หน้าเหวี่ยงคนเดิมว่า ช่วยโทรบอกชั้น 4 ให้หน่อยว่าเปิดประตูให้เราหน่อย เราขึ้นไปแล้วมันล็อค เค้าเลยบอกขึ้นไปรอเลยค่ะ เดี๋ยวจะโทรบอกให้เค้าเปิดให้ อ่ะ ถ่อเดินขึ้นไป ล็อคเหมือนเดิม... ไหนมึงบอกเปิดแล้วไงงงงง ตอนนั้นโคตรโมโหอยากจะพังประตูแม่ง แบบหงุดหงิดมาก ตอนนั้นเห็นว่าชั้น 5 ซึ่งเป็นส่วนชั้นห้องพักโรงแรมประตูมันเปิดเว้ย อ่ะ งั้นขึ้นไปชั้น 5 กดลิฟต์ลงมาชั้น 4 ง่ายจะตาย
พอขึ้นไปได้ก็กดลิฟต์ลงรอละ ซักพักก็เจอพี่ผู้หญิงคนไทยคนนึงดูงุ่นง่านๆ ไปมา เค้าก็บอกว่า 'เนี่ย พี่รอลิฟต์มา10 นาทีแล้ว ลูกค้ารออยู่ข้างล่าง ยังไม่ได้ลงเลย' เลยถามกลับไปว่า 'มันเต็มมาจากข้างบนด้วยหรอครับ' เค้าเลยพยักหน้าแบบเอือมๆ เชี่ยแม่งงง บ้าไปแล้ว ลิฟต์มี 3 ตัว เต็มแม่งทุกตัว จนเราเลยบอกพี่แกว่า ถ้ารอบนี้ตัวไหนมาพี่ก็เบียดเลยครับ อย่ารอ ซักพักก็มีคนจีนที่เพิ่งออกมาจากห้องพักเดินมาเหมือนจะถามเราว่าลิฟต์มันขึ้นหรือลง เราก็พูดไม่ได้ เลยชี้ว่าลง แล้วนางก็เสือกกดลิฟต์ขึ้น... เชี่ยไรเนี่ย โอ่ยยยยย คืองงมากตอนนั้น แบบมึงจะกดทำไมมมม จะไปไหนน กูงงไปหมดแล้ว พอลิฟต์มาตอนนั้นเลยมองหน้าพี่ผู้หญิงว่าต้องเบียดละ ก็เลยเบียดเข้าไป โชคดีที่เราเข้าไปคนสุดท้ายลิฟต์ไม่ร้อง อ่ะ ก็กดชั้น 4 (ลงมาชั้นเดียวเพื่อการณ์นี้โดยเฉพาะ...)
พอมาถึงชั้นฟิตเนส ออกมาก็เจอคนไทยเล่นฟิตเนสกันสบายๆ เหมือนที่เราเห็นประจำ แต่มันมีมากกว่านั้น... คือพวกพี่จีนแม่งลงลิฟต์อีกตัวใส่ชุดว่ายน้ำกันหมดเดินออกมาจะไปสระ ตอนนั้นคิดแล้วว่าแม่งต้องมีอะไรแน่ๆ พอเขียนลงเวลาเข้าเสร็จ เดินไปสระ สิ่งที่เจอทำให้หมดแรงจะว่ายน้ำเลย
คนจีนเต็มสระครับพี่น้อง... ลามไปสระเด็กตื้นๆ ด้วย พี่แกครองหมดเลย ช็อตนั้นมีแต่เสียงคนจีนระงมเต็มสระ ภาพที่เห็นคือคู่รักกอดรัดฟัดเหวี่ยงกันกลางสระ ลุงอ้วนๆ กระโดดน้ำด้วยท่ากอดเข่าสองสามคน นอกนั้นก็ว่ายแบบสะเปะสะปะ ส่งเสียงเจี้ยวจ้าวหมด พอครับ... วันนี้กูกลับห้องก็ได้ ฮืออออ แล้วเพิ่งมารู้ทีหลังว่าคนที่มาพักที่โรงแรมเค้าอนุญาตให้ใช้สระว่ายน้ำได้อย่างเดียว คือแบบ... แล้วนี่เสียตังเดือนละตั้ง 2000 แต่ไม่ได้ความสะดวกกว่าเนี่ยนะ ฮึ่ย สุดท้ายเลยตัดสินใจเดินออกมา แล้วลงเวลากลับเลย จำได้ว่าใช้เวลาแค่ 7 นาทีในการอยู่ชั้นนั้น แล้วการเสียเวลาขึ้นลิฟต์เป็นชาติของข้าคืออาร๊ายยยยยยย ฮืออออออ
เพิ่งรู้ว่าความจีนมันเป็นแบบนี้นี่เอง เราไม่ได้เหมารวมเค้าหมดทุกคนนะ แต่หมายถึงค่ากลางๆ ของคำว่าความจีนอ่ะ ก็ฟีลนี้เลย มีคนบอกว่าส่วนใหญ่คนพวกนี้คือทัวร์ 0 หยวนซึ่งเค้าไม่ได้ออกตังซักบาทที่มาไทย นี่อยากรู้มากว่าเค้ามาได้ไง เดี๋ยวต้องไปหาคำตอบ ซึ่งคนในทัวร์ก็เหมือนคนชานเมืองของจีนที่ได้มาเที่ยว ก็เลยมีนิสัยช้งเช้งๆ แบบนี้แหละ...
เราไม่ได้อยากแอนตี้พวกเค้านะ เพราะถ้ามองจริงๆ เค้าก็เป็นแหล่งทำเงินในตอนนี้ได้ดีมากๆ แต่นั่นแหละ ด้วยนิสัยของพวกเค้าเองที่ทำให้เรารู้สึกระอาพอสมควร คราวหน้าเจอทัวร์จีนอีก คงมองหาทางหนีทีไล่เลยละกัน - -"
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in