“อยากเป็นหมอ!”
เสียงโฆษณาที่ช่วงหนึ่งเคยออนแอร์จนหลอนประสาท (ปัจจุบันไม่มีแล้ว) ผ่านเข้ามาในหูของนศพ. คนหนึ่ง (นักศึกษาแพทย์นะไม่ใช่หนังสือพิมพ์!) ที่ยืนหมดอาลัยตายอยาก ห้อยราวรถไฟฟ้ากลับบ้าน
เราเหล่ตาขึ้นมองโฆษณาบนจอ มองดูหน้าน้องนักเรียนแววตาสดใส แล้วคิดในใจว่า “อยากเป็นหมอเหรอมึง...” ดูสภาพนักเรียนหมอแบบกูสิ! แบกชีตเรียน 40% โพยข้อสอบเก่า 60% แล้วไหนจะพลังชีวิตที่ถูกดูดไปเพราะการสอบอีก
อยากเป็นหมอมากนักใช่มั้ย?!
เปล่า เราไม่ได้ถามเด็กในโฆษณา แต่ถามไอ้นักศึกษาแพทย์ที่อยู่บนรถไฟฟ้าหรือตัวเราเองนี่แหละ
สภาพของเด็กๆ หน้าตาสดใสในจอโฆษณาสะท้อนภาพเราตอนวันประกาศผลสอบได้เป็นอย่างดี
วันนั้นเราอยู่บนรถไฟฟ้า (อีกแล้ว...) ยืนชมนกชมไม้ไปเรื่อย อยู่ดีๆ ก็มีเสียงโทรศัพท์ดังขึ้นมา
“หมิง มึงติดหมอที่ xxx นะเว่ย”
อื้อหืม...ไม่มีการเกริ่นใดๆ ทั้งสิ้น บอกข่าวดีกูแบบไม่ให้ตั้งตัวจริงๆ
นาทีนั้นเด็กนักเรียนมัธยมปลายหน้าตาใสกิ๊งเลยได้แต่ระงับความดีใจสงบสติอารมณ์ไม่ให้กรี๊ดจนโบกี้รถไฟแตก เรารีบโทร.ไปบอกป๊าม้าและเพื่อนสนิททุกคน ประกาศให้เพื่อนในโลกโซเชียลฯ รู้ว่า กู-ติด-หมอ-แล้ว-โว้ย! กลับถึงบ้านก็กระโดดกอดป๊าม้าน้ำตาไหล เตรียมสั่งพลุมาจุดฉลอง แต่สักพัก เพื่อนคนเดิมก็โทร.มาอีกครั้ง
“เออ ว่าไงมึง มีใครติดหมอเพิ่มอีกเหรอ”
“เปล่า เขาเอาที่ประกาศออกไปแล้วว่ะ เห็นบอกว่ามีข้อผิดพลาด”
“…”
“…”
ตึงทั้งแผ่นดิน
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in