เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
#เรียนหมอหนักมาก It's Not Easy To Be A DoctorSALMONBOOKS
01: อยากเป็นหมอ

  • “อยากเป็นหมอ!”

    เสียงโฆษณาที่ช่วงหนึ่งเคยออนแอร์จนหลอนประสาท (ปัจจุบันไม่มีแล้ว) ผ่านเข้ามาในหูของนศพ. คนหนึ่ง (นักศึกษาแพทย์นะไม่ใช่หนังสือพิมพ์!) ที่ยืนหมดอาลัยตายอยาก ห้อยราวรถไฟฟ้ากลับบ้าน

    เราเหล่ตาขึ้นมองโฆษณาบนจอ มองดูหน้าน้องนักเรียนแววตาสดใส แล้วคิดในใจว่า “อยากเป็นหมอเหรอมึง...” ดูสภาพนักเรียนหมอแบบกูสิ! แบกชีตเรียน 40% โพยข้อสอบเก่า 60% แล้วไหนจะพลังชีวิตที่ถูกดูดไปเพราะการสอบอีก

    อยากเป็นหมอมากนักใช่มั้ย?!

    เปล่า เราไม่ได้ถามเด็กในโฆษณา แต่ถามไอ้นักศึกษาแพทย์ที่อยู่บนรถไฟฟ้าหรือตัวเราเองนี่แหละ

    สภาพของเด็กๆ หน้าตาสดใสในจอโฆษณาสะท้อนภาพเราตอนวันประกาศผลสอบได้เป็นอย่างดี

    วันนั้นเราอยู่บนรถไฟฟ้า (อีกแล้ว...) ยืนชมนกชมไม้ไปเรื่อย อยู่ดีๆ ก็มีเสียงโทรศัพท์ดังขึ้นมา

    “หมิง มึงติดหมอที่ xxx นะเว่ย”

    อื้อหืม...ไม่มีการเกริ่นใดๆ ทั้งสิ้น บอกข่าวดีกูแบบไม่ให้ตั้งตัวจริงๆ

    นาทีนั้นเด็กนักเรียนมัธยมปลายหน้าตาใสกิ๊งเลยได้แต่ระงับความดีใจสงบสติอารมณ์ไม่ให้กรี๊ดจนโบกี้รถไฟแตก เรารีบโทร.ไปบอกป๊าม้าและเพื่อนสนิททุกคน ประกาศให้เพื่อนในโลกโซเชียลฯ รู้ว่า กู-ติด-หมอ-แล้ว-โว้ย! กลับถึงบ้านก็กระโดดกอดป๊าม้าน้ำตาไหล เตรียมสั่งพลุมาจุดฉลอง แต่สักพัก เพื่อนคนเดิมก็โทร.มาอีกครั้ง

    “เออ ว่าไงมึง มีใครติดหมอเพิ่มอีกเหรอ”

    “เปล่า เขาเอาที่ประกาศออกไปแล้วว่ะ เห็นบอกว่ามีข้อผิดพลาด”

    “…”

    “…”

    ตึงทั้งแผ่นดิน

  • เหตุการณ์ความผิดพลาดในครั้งนั้น ทำให้เด็กที่สอบหมอทุกคนอยู่ในสภาพตึงสุดๆ! พี่ประกาศผลสี่โมง เอาผลออกตอนหกโมง มันรวดเร็วจนเปลี่ยนความรู้สึกแทบไม่ทัน แถมบางคนเตรียมจะฉลองแล้วด้วย เจอแบบนี้เข้าไปงานกร่อยไปเลย

    สภาพในคืนนั้นของเรา อย่างกับอยู่ในนรก ในหัวเริ่มคิดว่าหรือกูฝันไป ถ้าเกิดประกาศผลออกมาแล้วไม่มีชื่อเราจะทำยังไง (แต่ตอนนี้คิดว่าถ้าไม่มีชื่อเรา ชีวิตอาจจะดีกว่านี้...) คืนนั้นเราได้แต่ปลอบตัวเองว่า จงนอนหลับ นอนหลับ เถิด...

    กริ๊ง กริ๊ง
    เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นอีกครั้งตอนเที่ยงวันถัดมา
    “หมิง ผลออกแล้ว”
    “...” (ได้ยินแต่เสียงหายใจ)
    “สรุปว่า...”
    “...”
    “มึงติดหมอนะเว่ย”
    “อืม...”
    จบ

    …คราวนี้กูไม่ยิ้มละ เดี๋ยวพอดีใจไปก็มีอะไรมาให้กูตกใจอีก แต่ในใจคิดว่าถ้าคราวนี้หลอกกูอีก จะดับขันธ์ปรินิพพาน ละทางโลกแล้วนะ!

    แน่นอนว่าเราติดจริง (ก็แน่ล่ะ ไม่งั้นจะมีหนังสือเล่มนี้ออกมาได้ยังไง)

  • จากที่เคยหดหู่เหมือนคนอึไม่ออก มาตอนนี้ เรายิ้มแก้มจะฉีกไปถึงร่องก้น มองไปทางไหนก็ดูสวยงาม กลิ่นตดยังว่าหอมเหมือนกลิ่นโรสแมรี่ สภาพจิตใจในตอนนั้นคือ พร้อมจะเรียนหมอสุดๆ ต่อให้ใครมาบอกว่าเรียนหมอนั้นหนัก อดหลับอดนอน อ่านหนังสืออ้วกแตก พี่เพลียก็ไม่สน บอกแล้วว่าตอนนั้นโลกสวย มีอุปสรรคแค่ไหนก็ไม่ยั่น เราจะเป็นหมอ!

    เราไม่อยากบอกว่าการเรียนหมอเป็นการเรียนที่หนักหน่วง เพราะคิดว่าแต่ละคณะคงมีความหนักที่ต่างกันออกไป แต่ถ้าถามความรู้สึกเรา ขอบอกว่าการเรียนคณะนี้ไม่ธรรมดา ต่อให้เรียนเก่งมาจากไหน ถ้าไม่มีความถึกคือจบ ชีวิตมีโหด มัน ฮา ผสมกันไป ใครที่คิดว่าเรียนหมอแล้วน่าเบื่อ วันๆ เอาแต่ท่องตำรา ขอบอกว่าคิดผิด ชีวิตการเรียนนั้นแสนจะตื่นเต้น เร้าใจ เหมือนขึ้นรถไฟเหาะตลอดเวลา

    ต่อไปนี้ขอเชิญพบกับเรื่องราวตลอดหกปีในการเรียนแพทย์ของเด็กชายตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ซึ่งเป็นชีวิตที่โอมากครับ

    โอโห เชี่ยกว่านี้ไม่มีอีกแล้ว!

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in
Pk Nao (@fb1296920220453)
จะอ่านตอนตอไปได้ที่ไหนคะ