ถึงตรงนี้ต่อมเนิร์ดของเราก็ค่อยๆ ปริออกทีละนิด (คือโดยรวมก็ยังเนิร์ดอยู่ แต่ลดระดับลงไปบ้าง) กลายเป็นเด็กครึ่งๆ กลางๆ ไม่รู้จะเนิร์ดเรียนหรือจะบ้ากิจกรรมดี เราใช้ชีวิตแบบนั้นมาเรื่อยๆ โดยมีความคิดว่าอีกตั้งสามปีกว่าจะเข้ามหา’ลัย…
สามปีผ่านไปไวมากๆ...
จากเด็กมัธยมที่อยู่ไปวันๆ มาวันนึงเราก็ต้องเลือก (อีกแล้ว) ว่าจะเรียนคณะอะไร เข้ามหาวิทยาลัยไหน แถมคราวนี้มันเป็นการเลือกที่ต้องคิดถึงอนาคต สิ่งที่เราตัดสินใจวันนี้ มันจะอยู่กับเราไปตลอดชีวิต
สุดท้าย ผมก็ตัดสินใจเรียนหมอ!
ทำไมเราถึงตัดสินใจแบบนี้
สารภาพว่าก็ไม่รู้เหมือนกัน พอมานั่งคิดตอนนี้ เราอยากจะเรียนอย่างอื่นมากกว่าด้วยซ้ำ แต่พอลองคิดย้อนกลับไปก็พบว่ามันมีปัจจัยไม่กี่อย่างที่ทำให้เราเลือกเรียนหมอ
หนึ่ง—เป็นเด็กบ้าเรียน เกรดเฉลี่ยมัธยมปลายดันสวยงาม และที่สำคัญคือ เราทำคะแนนวิชาสายวิทย์ได้ดีมาก (อย่าทำหน้าเอือม นี่กูพูดเรื่องจริง ไม่งั้นกูจะเรียนหมอเรอะ)
สอง—เราคิดว่า อาชีพหมอเป็นอาชีพที่มั่นคง รายได้ดี ฐานะทางสังคมก็ดี พูดง่ายๆ คือโดนกระแสสังคมสปอยล์มานั่นแหละ
สาม—เราคิดว่าการช่วยเหลือคนอื่น จะทำให้เรามีความสุข ซึ่งการเลือกเรียนหมอก็เท่ากับว่าเราได้ช่วยคนไข้ให้หายป่วย และเราคิดว่ามันเป็นเรื่องที่ดี (หล่อมากกกก)
และสี่—เป็นสิ่งที่โคตรจะไม่สมเหตุสมผล และไม่เคยบอกใครเลย นั่นก็คือ...เราเลือกหมอตามคนที่แอบชอบ! นี่ถ้าพ่อแม่มาอ่านเจอจะรู้สึกยังไง จากวันนี้ไปเราจะมองหน้าพ่อแม่ได้มั้ยเขาจะคิดยังไงกับเรา... (โอ๊ยยยย จะบ้าตาย)
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in