START กันตั้งแต่ ณ สนามบิน ด้วยความที่ตั๋วได้มาฟรี เลยหนีไม่พ้น airasia เพื่อนรักซึ่งตูนไม่ได้อะไรกับตรงนี้ เพราะคิดว่ายังไงก็ขึ้นไปนอน (ถึงความรู้สึกจะเหมือนนั่งรถทัวร์หน่อยๆก็เถอะ)
ข้ามไป 6 ชั่วโมง ถึงตอนแลนดิ้ง ณ แผ่นดินญี่ปุ่น สิ่งแรกที่คิดทันทีตอนลงมาจากเครื่องคือ "กูจะผ่านตมไหม" ภาษาอังกฤษก็อ่อนด๋อยมาก จะคุยกันรู้เรื่องรึเปล่า แต่สิ่งที่เกิดขึ้นจริงคือ ยื่น passport ให้ปุ๊ป ตรวจหน่อยๆ ประทับตรา แล้วก็ปล่อยไปเลย ไม่ถามอะไรสักคำ แบบ หะ แล้วกูจะเครียดมาทำไม
และแล้วความบรรลัยแรกก็เกิดขึ้น ตูนจำเป็นต้องไปแลกบัตรจาก e-ticket ของ keisai skyliner เป็นตั๋วที่นั้น สิ่งที่เกิดขึ้นคือ คุยกับคนขายตั๋วรถไฟไม่รู้เรื่อง ทางนั้นภาษาอังกฤษสำเนียงญี่ปุ่นแรงมาก ฟังไม่ออกเลยซิส นี่ก็ใช้สกิลยิ้มสยามสไตล์คนไทย ไม่รู้เรื่องกูก็ยิ้ม แล้ว yes ลูกเดียว สุดท้ายก็ได้ตั๋วมา แต่ก็งงอีกว่าใช้ยังไง5555 เลยต้องอาศัยๆถามๆคนรอบๆ แล้วคลำทางไปหารถไฟให้ทัน5555
พอนั่งรถไฟก็เหมือนได้พักไปเกืิอบชั่วโมง ก็แบบเออ ทุกอยากสบายๆชิวๆ คงไม่มีอะไรแล้ว (skyliner รถไฟสวย นั่งสบายกว่าเครื่องบินที่นั่งมามาก5555 มีที่วางกระเป๋าเดินทางไว้ท้ายขบวนด้วย เริ่ด) เราก็เเพลนกับแม่มาว่า พอลง skyliner ที่ ueno แล้วเดี๋ยวกะเดินเที่ยวแถวนั้นก่อนแล้วค่อย นั่ง ginza line ไปที่พัก แต่แล้วด้วยความดวงดี๊ดวงดีของชีวิต ก่อนมาก็ดูพยากรณ์อากาศมาก่อน เห็นบอกจะหนาวแค่ 20-22 องศา เราก็เอามาแค่ผ้าพันคอบางๆผืนเดียว คิดว่ามาหน้าร้อนมันก็ควรจะร้อน บวกขี้เกียจแบกเสื้อกันหนาวมา แต่สิ่งที่เกิดขึ้นคือ ฝนซัดลงมาแบบไม่รู้ตัว ซึ่งมีฝน=เย็น=หนาว แม่เจ้า หนาวชห ตอนอยู่ในสนามบินกับรถไฟมันไม่รู้สึกไง พอออกมาเท่านั้นแหละ คุณหลอกดาว อยู่ๆลงไป12องศาได้ไง ณ ตอนนั้น ไม่มีอารมณ์เที่ยวตรง ueno แล้ว วิ่งหาทางกลับที่พักลูกเดียว5555 เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า เตรียมเสื้อกันหนาวมาเถอะ ถ้ารู้ว่าจะมาญี่ปุ่น5555
และเราก็สามารถแบกร่างมาถึงที่พักได้อย่าง สวัสดิภาพ (เหมือนพึ่งออกมาจากช่องฟรีส) พอนั่งพักได้หน่อยก็รู้สึกว่า อยากออกไปเดินเที่ยว ที่พักตูนอยู่ใกล้แถว asakusa และ tokyo skytree มาก นี่กะว่าจะไปถ่ายรูป skytree สักหน่อย และแล้วโชคชะตาก็เล่นตลกอีกรอบ คือฝนมันยังตกอยู่ แล้วเมฆหนามาก แม่งบัง skytree ไม่เห็นเลยโว้ยยยย ชีวิตมันก็จะเศร้าหน่อยๆ แต่ก็อะไหนๆก็มาแล้ว เดี๋ยวไม่ได้เดิน ทนหนาวนิดนึง พอยืมร่มที่โรงแรมเสร็จสัพแล้วไปเลย
ว่ากันตามจริงวันนั้นตูนเดินเที่ยวกับแม่แบบไม่ได้คิดอะไรเลย คิดว่าไปที่ไหนก็ไป จะมาหาข้าวกินกับ ชื้อเสื้อกันหนาวเพิ่ม ก็ไปแบบไม่รู้ทางเนี่ยแหละ เดินตรงกันอย่างเดียว แต่ดันอภินิหาร ไปโผล่แถววัดโคมแดงได้จริงๆ55555 ก็ถือโอกาสหาของกินซักหน่อย เห็นตรงนั้นมีร้าน น่าจะเป็นซาลาเปาทอดมั้ง ไม่รู้ว่ามันเรียกว่าอะไรแต่คนเยอะดี เลยคิดว่าน่าจะอร่อย
พอกินเสร็จเลยเดินต่อไปดูตัววัด ซึ่งในความโชคร้ายก็ถือว่ายังมีความโชคดีอยู่บ้าง ด้วยความที่ฝนมันตก คนแถววัดโคมแดงเลยน้อย เดินสบายมาก แต่ถึงอย่างงั้นตูนไม่ได้เดินเข้าไปข้างในวัดเพราะลมตี หนาวมาก5555
พอถ่ายรูปแถววัดเสร็จ เลยเดินดูตลาดแถวหน้าวัดโคมแดง แต่น่าเสียดาย ตูนลืมบอกไปว่า ตูนมาเดินแถวนี้ก็น่าจะตอน 4-5โมงเย็นร้านเลยเริ่มทยอยปิดกันไปบ้างแล้ว
ด้วยความที่ว่า ณ ตอนนั้นหิว ก็เดินไปเรื่อยๆอย่างเดียว เจอร้านไหนก็กินร้านนั้นแล้ว จนไปเจออยู่ร้านนึง
พอกินอิ่มกันเสร็จ แล้วฝนก็หยุดตกพอดี เลยคิดว่างั้นก็ ไปskytree ต่อเลยดีกว่า เดินต่อไปอีกหน่อยใหญ่ๆ แล้วต่อรถไฟไปจนถึง
สาเหตุจริงๆที่อยากมา skytree คือจะมา Tokyo solamachi ที่ตั้งอยู่ตรงฐานของ Tokyo skytree เพราะร้านค้าเกี่ยวกับ การ์ตูนอะไรนี่เยอะมากๆ น่าจะละลายทรัพย์เราระดับนึง555
โดยสรุปคือเสียทรัพย์กับจิบลิมากสุด ของน่ารักมากกกกกก แต่ตูนจะบอกไว้ตรงนี้ก่อนเลย ว่าของบางอย่างใน shop กับที่อยู่ในมิวเซียม มีไม่เหมือนกัน บางอย่างอาจจะมีใน shop แต่ไม่มีในมิวเซียม บางอย่างมีในมิวเซียมแต่ไม่มีใน shop อันนี้ก็แล้วแต่ดุลพินิจเพื่อนๆเลย ว่าจะชื้ออะไรบ้าง
พอเสร็จจากตรงนี้ ชื้อเสื้อกันหนาวจาก uniqlo กันตายเรียบร้อยก็ลากสังขารกับที่พักกัน เพราะต้องเก็บแรงและกำลังขาไปเดินเที่ยวพรุ่งนี้ต่อ (เอาจริงๆแค่วันแรกน่องก็แทบบวมแล้วพี่น้อง)
ถ้าว่ากันจริงๆ สำหรับวันแรกถึงจะดูมีเรื่องที่ไม่เป็นไปตาม ที่คิดไว้เยอะ ฝนก็ตก ถ่าย skytree ไกลๆไม่ได้บ้าง เอาเสื้อกันหนาวมาไม่พอมั้ง แต่ในความไม่เป็นไปตามแผนตรงนี้ กลับทำให้ตูนสนุกแบบคิดไม่ถึง ไอ้ความเดินมั่วๆหาของกิน ดั๊น ได้ไปเจอ landmark หลายจุดที่อยากมาตั้งแต่แรก (ตอนแรกที่เห็นว่าฝนตกคิดว่าจะไม่ได้ออกไปไหนแล้ว แต่เลือดบ้าดีเดือดบังคับให้ออกไปอยู่ดี) ส่วนหนึ่ง ก็รู้สึกเซ็ง ว่ามันไม่ได้ตามแผนอย่างที่คิด แต่ตูนกับแม่มองว่า มันจะเจออะไรต่อในวันนีี้ก็ไม่รู้ แต่เราจะสนุกกับมันไปด้วยแล้วกัน จนถึงตรงนี้ตูนเลยคิดว่า
บางครั้งถ้าเราอยากจะมีความสุขกับอะไรสักอย่างก็ ลองไม่สนใจส่วนที่มันไม่ดี ไม่สุขของสิ่งนั้นดู เพราะยังไงมันก็ไม่มีอะไรสมบูรณ์แบบอยู่แล้ว อยู่ที่เราจะเลือกมองตรงไหนก็พอ
ตูนขอทิ้งรูปซอยข้างๆ ร้านข้าวที่ตูนกินแถว asakusa ไปเป็นการจบวันแรกในโตเกียวของตูน เพราะ เอาเข้าจริง กับ ฝน ถึงตูนจะโกรธมันในตอนแรก แต่มันกลับทำให้บรรยากาศใน โตเกียว ดูน่าค้นหามากขึ้นไปอีก
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in