เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
ไดอารี่แห่งห้วงอารมณ์charoite141
หากเรื่องของเราจะกลายเป็นงานเขียนสักเรื่องหนึ่ง
  • บันทึกจากทวิตเตอร์
    -ตอนที่ 1-

    คีตานันทน์ @Kiitanun 
    คุณกับฉัน, เรารู้จักกัน ฉันพบว่าคุณน่าสนใจตั้งแต่แรกรู้จัก คุณมีบรรยากาศที่น่าเข้าหา ฉันอยากสนิทกับคุณ ฉันจึงแสดงธรรมชาติของฉันให้คุณเห็น 

    คีตานันทน์ @Kiitanun 
    คุณคงสัมผัสได้ว่าฉันไม่มีกำแพงกับคุณ คุณจึงเริ่มเข้าหาฉันเช่นกัน, ยิ่งคุณใกล้ ยิ่งฉันเปิด ยิ่งพบว่าธรรมชาติของคุณกับฉันเข้ากันได้ดี เราสองคนจึงดึงดูดซึ่งกันและกัน, รวดเร็ว บ้าบิ่น แต่อ่อนหวาน, เรามีความสุขในแต่ละวัน เราใช้เวลาร่วมกันมากขึ้น เส้นทางของเราเริ่มเปลี่ยน จากคนรู้จักกลายเป็นคนสนิทภายในระยะเวลาไม่นาน

    คีตานันทน์ @Kiitanun 
    ในห้วงขณะที่หลงระเริงไปกับความอ่อนไหวชวนใจเต้นนั้น, ฉันเห็นเราเริ่มเดินไปในเส้นทางที่อันตราย ทางที่ไม่ถูกไม่ควร ทางที่หากไปต่อจะต้องมีคนเสียใจอยู่หนึ่งคน ฉันเห็นว่าเราเริ่มถลำลึกเข้าไปทุกที ฉันรู้ตัวอยู่ตลอดว่ามันไม่ควร แต่ฉันในตอนนั้นก็ไม่คิดจะห้ามอะไร

    คีตานันทน์ @Kiitanun 
    ฉันคิดว่าฉันรู้ตัวอยู่ตลอดว่ากำลังทำอะไรอยู่ ฉันรู้ตัวว่าฉันไม่ได้หวังให้คุณต้องเป็นอะไรของฉัน, แค่เรามีกันอย่างนี้ไปทุกวันก็เพียงพอแล้ว ฉันบอกกับตัวเอง และบอกกับคุณเช่นนั้น

    คีตานันทน์ @Kiitanun 
    จนเมื่อคุณกับฉัน, เราใกล้ชิดกันมากกว่าที่ผ่านมา คุณถามว่า "เราไปต่อให้สุดทางเลยดีไหม?" คุณพูดเล่น แต่ทำให้ฉันหวั่นไหว และเริ่มฉุกคิดว่า หากเราตัดสินใจเดินต่อ เส้นทางข้างหน้าจะเป็นอย่างไร คุณ ฉัน และเขา จะเป็นอย่างไร

    คีตานันทน์ @Kiitanun 
    ตอนนั้น ฉันคิดว่า ในอนาคต หากมองย้อนกลับมา ฉันคงไม่ภูมิใจกับช่วงเวลานี้เท่าไหร่นัก, และฉันเชื่อว่า หากคุณกับฉันเป็นเรื่องที่เหมาะสม เมื่อนั้นก็จะมีช่วงเวลาที่เป็นของคุณกับฉันอย่างเหมาะสมเอง

    คีตานันทน์ @Kiitanun 
    ดังนั้น เมื่อฉันตระหนักแล้วว่า มันไม่ควรมีทางนี้ตั้งแต่แรก เราสองคนกำลังสร้างทางเดินไปสู่ดินแดนต้องห้าม ฉันจึงบอกกับคุณขณะที่เรากำลังเดินจับมือกันอยู่ว่า "คุณ เราหยุดไหม พอแค่นี้เถอะ เรามากลบทางนี้ แล้วเดินกลับกันเถอะนะ"


  • บันทึกจากทวิตเตอร์
    -ตอนที่ 2-

    คีตานันทน์ @Kiitanun 
    คุณดูอึ้งไปในตอนแรก นิ่งไปสักพัก และคุณตอบกลับมาแค่ว่า "อืม ดีแล้วละ อย่างนั้นแหละดีแล้ว เราเดินกลับกันเถอะ" คุณดูเจ็บปวด, แต่ไม่นานนัก คุณก็ปล่อยมือจากฉันและหันหลังเดินกลับไปอย่างรวดเร็ว ในขณะที่ฉัน, คนที่ชวนคุณหยุด, กลับสะดุดล้มอยู่ตรงนั้น นั่งมองคุณเดินห่างไปด้วยใจที่ปวดร้าว

    คีตานันทน์ @Kiitanun 
    ฉันค่อยๆ รวบรวมสติ ลุกขึ้นมาด้วยขาที่สั่นเทา ได้แต่คิดว่า คุณออกเดินนำไปแล้วนะ คุณห่างออกไปทุกที ฉันก็ต้องออกเดินบ้าง แต่ทำไมนะ, ทางเดินกลับ ถึงไม่ง่ายดายและสวยงามเหมือนตอนแรกที่เดินมาละ?

    คีตานันทน์ @Kiitanun 
    ฉันล้มลุกคลุกคลาน แบกความเจ็บปวดไปด้วยตลอดทาง ระหว่างนั้นก็มีความคิดหลายอย่าง บ้างก็ว่าไม่น่าชวนคุณเดินกลับเลย แม้ไม่ควรไปต่อแต่เราก็มีความสุขด้วยกันไม่ใช่หรือ? อีกใจก็ว่า ดีแล้วละที่ตัดสินใจเดินกลับตอนนี้ ก่อนที่เราจะถลำลึกเข้าไปจนยากจะหาทางออก

    คีตานันทน์ @Kiitanun 
    ฉันค่อยๆ ก้าวกลับไปอย่างช้าๆ บางทีก็หยุดยืนนิ่ง หันไปมองทางที่เราเคยสร้างมา ฉันเห็นว่าปลายทางนั้นค่อยๆ ไล่ตื้นเข้ามาทุกที จนแทบมองไม่เห็นจุดที่เราเคยยืนอยู่ด้วยกัน, จนฉันแอบคิดไปว่า หรือปลายทางนั้น แท้จริงแล้วเป็นเพียงความฝัน หรือเส้นทางนี้, เป็นทางที่ไม่เคยมีอยู่จริงกันแน่

    คีตานันทน์ @Kiitanun 
    ฉับพลันนั้น น้ำตาเอ่อท้นขึ้นมาหล่อเลี้ยงอยู่ระหว่างเปลือกตา จนทางข้างหน้าเบลอไปหมด ฉันภาวนาให้มันไหลออกมาให้หมดสิ้น, แต่ไม่รู้ทำไม มันไม่สามารถกลั่นเป็นหยดตกลงมาได้ กลับกลายเป็นความรู้สึกหน่วงคาอยู่ภายใน ที่ไม่รุนแรงถึงขั้นขาดใจ แต่ก็ดึงรั้งไม่ให้มีอิสระ

    คีตานันทน์ @Kiitanun 
    ฉันปาดน้ำตาที่คลอหน่วย, และก้าวเดินต่อไปด้วยใจที่อ่อนแอเหลือเกิน ทั้งที่เป็นทางที่สร้างมาเองแท้ๆ ทั้งที่รู้อยู่เสมอว่าสักวันต้องถึงทางตัน แต่ทำไมการเดินกลับช่างยากเหลือเกิน "ฉันควรทำอย่างไรดีนะ?" ฉันเฝ้าถามตัวเอง "ฉันจะไปทางไหนต่อดี" ฉันหลงทาง

    คีตานันทน์ @Kiitanun 
    แต่แล้วก็เห็นคุณหยุดยืนอยู่ตรงหน้า ใจฉันลิงโลดขึ้นมา, "คุณเปลี่ยนไปนะ" ฉันทัก "อืม ใช่.. แล้วเธอโอเคไหม?" คุณถาม

    คีตานันทน์ @Kiitanun 
    "โอเคสิ ถ้านี่เป็นจังหวะก้าวเดินที่คุณเลือก ฉันก็พร้อมจะปรับตัว" ฉันกล่าวไปง่ายๆ, ทั้งที่ผ่านมา, มันไม่ง่ายเลย "อืม ผมว่าตอนนี้ดีที่สุดแล้ว ตอนนี้ผมสบายใจที่เป็นอย่างนี้" คุณพูดออกมาง่ายๆ ฉันได้แต่ยิ้มรับคำพูดนั้น แล้วคุณก็หันหลังเดินต่อไป

    คีตานันทน์ @Kiitanun 
    ทำให้ฉัน, จำต้องก้าวเท้าในจังหวะที่เร็วขึ้น เพื่อให้ทันในจังหวะของคุณ

    คีตานันทน์ @Kiitanun 
    จากมือที่เคยจับไว้ตลอดยามเดินไปด้วยกันในหนแรก บัดนี้กลายเป็นฉันคนเดียวที่ไขว่คว้าเอื้อมหามือของคุณ เมื่อฉันสัมผัส คุณไม่สะบัดออก แต่คุณก็ไม่เอื้อมมาหาฉันเหมือนเคย, เจ็บ, จนเริ่มชินชากับสภาวะแบบนี้, ที่เหมือนฉันโหยหาคุณอยู่ฝ่ายเดียว จนไม่อยากจะไขว่คว้าหาคุณอีก

    คีตานันทน์ @Kiitanun 
    ตอนนี้เราเดินจากจุดนั้นมาไกลพอสมควรแล้ว มีสิ่งหนึ่งที่ฉันอยากจะรู้เหลือเกิน คือความรู้สึกของคุณ, "ตอนนี้คุณรู้สึกอย่างไรกับฉันนะ?" "ฉันยังเป็นคนที่คุณชอบที่สุดอยู่หรือเปล่า?" เป็นคำถามที่ฉันไม่กล้าถามออกไป เพราะเราไม่ได้คุยกันแบบนั้นอีกแล้ว


    มันไม่ควรมีทางนั้นแต่แรกแล้ว เหมือนเราสองคนสร้างทางไปในดินแดนที่ไม่ควรขึ้นมา แล้วฉันก็บอกว่า "คุณ เราหยุดไหม เรามากลบทางนี้ แล้วเดินกลับกันเถอะ"
  • บันทึกจากทวิตเตอร์
    -ตอนสุดท้าย-

    คีตานันทน์ @Kiitanun 
    ตอนนี้ฉันว่า ฉันเริ่มตามคุณทันแล้วนะ, อย่างน้อยก็ทำได้ดีกว่าช่วงที่ผ่านมา ที่ฉันเหมือนกลายเป็นเด็กหัดเดิน ที่เหมือนคนขี้ขลาดจนคุณแปลกใจ

    คีตานันทน์ @Kiitanun 
    ฉันก้าวได้อย่างมั่นคงขึ้นทุกวัน แม้จะยังหวนระลึกถึงระหว่างทางที่เราเคยเดิน นึกถึงจุดที่เราเคยยืนอยู่ด้วยกันบ่อยๆ แม้ว่าตอนนี้ เมื่อหันหลังกลับไป ก็จะพบว่าทางนั้นตันไปแล้ว, ด้วยความมุ่งมั่นของคุณ

    คีตานันทน์ @Kiitanun 
    ดังนั้นเส้นทางที่เราเคยสร้างมา จึงคงเหลือเป็นภาพทรงจำสีจาง สวยงามแต่เจ็บปวด, เลือนรางดั่งภาพสีน้ำ ซึ่งอาจมีแต่ฉันก็ได้ ที่เก็บมันไว้อยู่ภายในใจแต่เพียงผู้เดียว.

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in